เจาะลึกผู้อยู่เบื้องหลัง “Philomena Cunk” นักสัมภาษณ์ที่ปั่นประสาทจนนักวิชาการช็อก!

     หลังจาก Cunk on Earth เป็นกระแสไปทั่วโลกกับซีรี่ส์แนว “Mockumentary” ที่กวนส้นสะกิดใจจนสามารถครองใจผู้ชมได้อย่างมากมาย ต้องบอกว่าซีรี่ส์เรื่องนี้มีเนื้อหาค่อนข้างหนัก(ใจ) แต่ไม่หนักสมอง แม้เรื่องราวจะพูดถึงประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคโบราณเรื่อยมาถึงปัจจุบัน ร้อยเรียงตามไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์โลกชนิดหนังสือเรียนยังต้องสยบ ทว่าความกวนนั้นทะลุพรั่งพรูมาจากตัวละคร Philomena Cunk ที่ยิงคำถามใส่นักวิชาการเป็นฉากๆ ทว่าคำถามทั้งหลายต่างเป็นคำถามชวนกำหมัดและกลายเป็นตลกหน้านิ่งที่ยียวนกวนประสาทที่สุดบนแพลตฟอร์มเน็ตฟลิกซ์

Diane Morgan ผู้รับบท Philomena Cunk ที่ปั่นประสาทผู้ชมในซีรี่ส์ Cunk on Earth / ภาพ: The Guardian

     ชื่อผู้สัมภาษณ์อย่างฟิโลมิน่านั้นเป็นชื่อตัวละครสมมติรับบทโดย Diane Morgan นักแสดงมากความสามารถที่รับบทความยียวนกวนประสาทขั้นเทพ ปัจจุบันเธออายุ 47 ปี ผ่านประสบการณ์ด้านการแสดงมากมาย ตั้งแต่เส้นทางการศึกษาการแสดงตั้งแต่วัย 20 ปี แต่แน่นอนว่าทุกคนคงเดากันออกว่าเธอเอาดีด้านการแสดงตลก สไตล์ของเธอค่อนข้างเป็นที่จดจำในพื้นที่สหราชอาณาจักรกับบทบาทสาวหลากบทบาทที่สามารถปล่อยมุกชวนปวดสมองจนผู้ชมต้องกุมขมับ ในขณะเดียวกันก็ชวนผู้ชมอมยิ้มและส่ายหน้าด้วยความกวนประสาทแบบไร้ขีดจำกัด

Diane Morgan สวมบทบาท Philomena Cunk ในซีรี่ส์ Cunk on Britain / ภาพ: BBC

     แท้จริงแล้วไดแอนไม่ได้เพิ่งริเริ่มบทบาทฟิโลมิน่าในซีรี่ส์ที่กลายเป็นไวรัลอยู่ช่วงต้นปี 2023 เท่านั้น แต่ตัวละครดังกล่าวเริ่มมาตั้งแต่ช่วงปี 2013 ในรายการ Charlie Brooker’s Weekly Wipes จนถึงปี 2015 ก่อนจะกลับมาสร้างชื่อฟิโลมิน่า คังก์เวอร์ชั่นแยกในช่วงปลายปี 2016 กับ Two’s Cunk on Christmas ก่อนจะเริ่มปั่นประสาทแบบเต็มที่กับซีรี่ส์ปั่นประสาทเกี่ยวกับเรื่องราวชาวสหราชอาณาจักรกับ Cunk on Britain ในปี 2018 ชื่อฟิโลมิน่ากลายเป็นชื่ออันน่าจดจำของผู้เสพสื่อบันเทิงสายตลกยียวนในพื้นที่มาโดยตลอด ทว่าไดแอนและบทบาทสมมติอันเป็นเอกลักษณ์ยังไม่เคยได้มีชื่อเสียงระดับภูมิภาคหรือระดับโลกแต่อย่างใด

บทบาท Philomena Cunk ที่จิกกัดกวนประสาทอย่างเจ็บแสบใน Cunk on Earth / ภาพ: Netflix

     ซีรี่ส์ของเธอฉายในช่อง BBC Two มาโดยตลอด ซึ่งความประทับใจจากผู้ชมทำให้ไดแอนมีโอกาสสวมบทฟิโลมิน่าอีกครั้งในปี 2019 กับซีรี่ส์สั้นเรื่อง Cunk and Other Humans ฉีกกรอบวงการบันเทิงด้วยการสวนทุกกระแสโลกและสร้างความปั่นป่วนกุมขมับอย่างที่เธอถนัด ก่อนที่ปี 2022 ซีรี่ส์เรื่อง Cunk on Earth ที่บอกเล่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์โลกแบบเจาะลึกในชนิดเหมือนจะจริงแต่ก็สอดแทรกความมั่วซั่วไปเรื่อยๆ และแล้วมันก็กลายเป็นไวรัลเมื่อความปั่นประสาทของฟิโลมิน่าสะกิดใจผู้ชมหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่มีโอกาสเสพสื่อเพ้อเจ้อของตัวละครนี้ผ่านแพลตฟอร์มเน็ตฟลิกซ์ จนตอนนี้ผู้ชมหลายคนก็ยังไม่สามารถมูฟออนจากคำถามและการต่อล้อต่อเถียงกับนักวิชาการที่รับรองว่าไม่มีใครเหมือนแน่นอน

หนังสือเรื่อง Cunk on Everything: The Encyclopedia Philomena ที่ยียวนกวนประสาทไม่แพ้ผลงานซีรี่ส์ / ภาพ: Amazon

     แท้จริงแล้วตัวละครฟิโลมิน่านั้นถูกนำเสนอในหลากรูปแบบ ไดแอนไม่เพียงเป็นนักแสดงติดตลกมืออาชีพเท่านั้น แต่เธอยังเคยเขียนหนังสือเกี่ยวกับตัวละครนี้ด้วย ในปี 2018 เธอเคยเขียนหนังสือเรื่อง Cunk on Everything: The Encyclopedia Philomena ที่บอกเล่าเรื่องราวหลากหลายประเด็นในระบบข้อมูลของฟิโลมิน่า ซึ่งไม่ต้องคาดหวังสาระความรู้อะไรมากมาย เพราะนี่คือหนังสือที่ปั่นประสาทไม่แพ้การสนทนาในซีรี่ส์ของเธอเลยแม้แต่น้อย การเสียดสีและตั้งคำถามที่มนุษย์ทั่วไปอาจคาดไม่ถึงหรือคาดไว้แต่ไม่กล้าถาม ทั้งหมดถูกนำเสนอผ่านตัวละครฟิโลมิน่าในเวอร์ชั่นชวนอมยิ้ม แต่ก็เต็มไปด้วยโมเมนต์ชวนปวดหัวเช่นเดียวกัน

หน้าตาชวนสงสัยพร้อมยิงคำถามสุดกวนของตัวละคร Philomena Cunk ใน Cunk on Earth / ภาพ: Netflix

     ความสำเร็จของไดแอนคือการรักษาความสามารถในการทำหน้านิ่งในสถานการณ์ชวนหลุดขำ อีกอย่างฝีมือการถ่ายทอดอารมณ์ความนรู้สึกทำให้ผู้ชมเชื่อว่าเธอคิดอย่างนั้นหรืออย่างน้อยก็ตั้งใจปั่นประสาทโดยที่ไม่หลุดแม้แต่น้อย แม้การแสดงของเธอจะมาในรูปแบบนิ่งเฉยและปล่อยตัวปล่อยใจไปกับบทพูดน่าฉงน ทว่านี่คือจุดเด่นและความสามารถในการแสดงที่น่าชื่นชม ไดแอนอาจไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ที่มีผู้คนจดจำได้ทั่วโลกจากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หรือซีรี่ส์คุณภาพเยี่ยม แต่เชื่อเลยว่าหากใครได้ชมตัวละครฟิโลมิน่า คังก์ในรายการหรือซีรี่ส์ต่างๆ รับรองว่าจะต้องจดจำชื่อตัวละครนี้ได้อย่างแน่นอน มากไปกว่านั้นหากค้นหาเพิ่มเติมจะทราบว่าเธอคือผู้อยู่เบื้องหลังซีรี่ส์ตลกอย่าง Mandy และแสดงในผลงานตลกขบขันอีกหลายเรื่อง หากผู้คนจดจำชื่อตัวละครชัดเจนกว่าผู้แสดง แสดงว่านักแสดงประสบความสำเร็จในการสร้างมิติให้ตัวละครได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดแล้วจริงๆ