เปิดโผตัวเต็งรางวัลออสการ์ 2021 ใช่คนที่คุณคิดไว้ในใจหรือไม่...

รางวัลตุ๊กตาทองปีนี้มีดีที่ความหลากหลายและการเปลี่ยนแปลง โว้กพาเจาะสำรวจทุกแง่มุม ก่อนชมงานประกาศผลวันที่ 26 เมษายน 2021 นี้

 

FEMALE FOCUS

น้อยครั้งที่ผู้กำกับหญิงจะได้รับการพิจารณาจากเวทีรางวัลยักษ์ใหญ่อย่างออสการ์ ย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์มีผู้กำกับเพศหญิงที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขา “ผู้กำกับยอดเยี่ยม” แค่ 5 คนเท่านั้น และ Kathryn Bigelow คือคนเดียวที่คว้ารางวัลดังกล่าวจากหนังสงครามเรื่อง The Hurt Locker เมื่อ 10 ปีก่อน ดังนั้นจึงเป็นที่จับตามองอย่างมากเมื่อผลงานภาพยนตร์ของผู้กำกับหญิงเข้ามามีบทบาทอย่างมากในปีนี้ เพราะผลงานของนักสร้างหนังเพศหญิงหน้าใหม่หลายเรื่องกำลังเป็นที่กล่าวขวัญ

 

 

Chloé Zhao คือชื่อที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดบนเวทีรางวัลต่างๆ เธอคือนักสร้างหนังชาวจีนซึ่งเติบโตในนิวยอร์ก ผลงานชิ้นแรกคือ Songs My Brothers Taught Me เข้าไปมีบทบาทในเทศกาลหนังซันแดนซ์และเทศกาลหนังเมืองคานส์เมื่อ 6 ปีก่อน เช่นเดียวกับผลงานชิ้นต่อมา The Rider ที่ได้ฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาลหนังเมืองคานส์ และผลงานล่าสุด Nomadland กลายเป็นหนังที่มีบทบาทมากที่สุดในเวทีรางวัลต่างๆ ประจำปีนี้ โคลอี้บอกว่าเธอไม่ใช่นักสร้างหนังที่เพียงแค่ทำหนังเท่านั้น แต่ “ฉันต้องหลงรักเนื้อหาที่กำลังจะเล่าด้วย และต้องเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นเหล่านั้น มีคนเคยบอกฉันว่าความหลงใหลมักอยู่ไม่นาน แต่ความอยากรู้อยากเห็นจะทำให้เราตื่นเต้นกับสิ่งต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ”

Nomadland เล่าถึงหญิงม่ายที่ตกงานเพราะปัญหาด้านเศรษฐกิจ และกลายเป็นคนพเนจร อาศัยและเดินทางไปทั่วอเมริกาด้วยรถตู้คันเก่าของเธอ ผู้กำกับเลือก Frances McDormand นักแสดงหญิงเจ้าของ 2 รางวัลออสการ์จาก Fargo และ Three Billboards Outside Ebbing, Missouri มารับบทดังกล่าว ซึ่งนั่นทำให้เธอกลายเป็นเต็งหนึ่งในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมของปีนี้ โคลอี้พบกับฟรานซิสครั้งแรกในงาน Indie Spirits และต่างก็รู้ทันทีว่าอยากร่วมงานกัน

ไม่ว่าท้ายที่สุดโคลอี้จะเป็นผู้ชนะบนเวทีออสการ์หรือไม่ แต่ ณ ตอนนี้เธอเป็นผู้กำกับหญิงซึ่งเป็นที่ต้องการของฮอลลีวู้ดมากที่สุดไปแล้ว ผลงานชิ้นต่อไปของเธอที่ถ่ายทำเสร็จสิ้นแล้วคือ Eternals หนังซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์ในจักรวาลมาร์เวลที่เธอมีโอกาสกำกับนักแสดงหญิงแถวหน้าของวงการอย่าง Angelina Jolie อย่างไรก็ตามเธอยืนยันชัดเจนว่าไม่ว่าจะเป็นหนังฟอร์มใหญ่หรือเล็ก เธอก็ใช้วิธีการทำงานแบบเดียวกัน และไม่ว่าตัวละครในหนังจะเป็นเอเลี่ยนหรือเป็นอมตะ เธอก็จะสร้างตัวละครเหล่านี้ให้ติดดินและมีความเป็นมนุษย์มากที่สุด...เช่นเดียวกับที่เธอสร้าง

 

ตัวละครของฟรานซิสใน Nomadland อีกหนึ่งหนังพลังหญิงที่ปรากฏชื่อบนทุกเวทีรางวัลคือ Promising Young Woman ผลงานการกำกับเรื่องแรกของ Emerald Fennell นักแสดงหญิงวัย 35 ปีที่คอซีรี่ส์น่าจะคุ้นหน้าเธอจากบทบาท Camilla Parker Bowles ใน The Crown ซึ่งเธอเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง จนกระทั่งไปเตะตาบริษัทสร้างหนังของ Margot Robbie และไฟเขียวให้โปรเจกต์นี้ในที่สุด

 

หนังเล่าถึงอดีตนักศึกษาแพทย์หญิงที่หมดอนาคตหลังเพื่อนของเธอถูกกลุ่มเพื่อนผู้ชายรุมข่มขืน เธอจึงตัดสินใจล้างแค้นและจัดการสั่งสอนเหล่าหนุ่มๆ เพลย์บอยให้เข็ดหลาบ บทดังกล่าวได้นักแสดงหญิงสายหนังรางวัล Carey Mulligan มาถ่ายทอดอย่างเจ็บแสบ ด้วยประเด็นที่สะท้อนถึงความเพิกเฉยต่ออาชญากรรมในสังคมที่ชายเป็นใหญ่ น่าจะกระแทกใจคณะกรรมการออสการ์ได้พอสมควร โดยเฉพาะในช่วงที่กระแส #MeToo ยังร้อนแรงต่อเนื่อง 

อีกหนึ่งผลงานของผู้กำกับหญิงมือใหม่ที่มีคนพูดถึงอย่างมากคือ One Night in Miami ผลงานเบื้องหลังชิ้นแรกของ Regina King นักแสดงหญิงผิวดำที่คว้าออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมมาแล้วจาก If Beale Street Could Talk เธอเลือกสร้างหนังที่ถ่ายทอดมุมมองของคนผิวดำเป็นหลัก ผ่านเหตุการณ์สมมติซึ่งเล่าถึงคืนหนึ่งในปี 1964 ที่ Malcolm X นักเคลื่อนไหวทางสังคม Muhammad Ali นักมวยแชมป์โลก Jim Brown นักอเมริกันฟุตบอลระดับตำนาน และ Sam Cooke นักร้องเจ้าพ่อเพลงโซล มาพบปะกันในโรงแรมแห่งหนึ่งและแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับบทบาทของกลุ่มคนผิวดำในอเมริกา ซึ่งช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่ 2 ชั่วโมงในหนังสามารถวิพากษ์สังคมอเมริกาได้หลากแง่มุมจนน่าจะโดนใจคณะกรรมการออสการ์ไม่น้อย รวมถึงการแสดงของ Leslie Odom Jr. ที่โด่งดังจากละครเวที Hamilton กับการสวมบทแซม คุกก็คู่ควรกับสาขานักแสดงสมทบชาย

 

REMEMBER THE KING

สมญานาม “ฝ่าบาท” ของ Chadwick Boseman ไม่ใช่แค่การเรียกยกย่องเพียงเพราะเขารับบทเป็นกษัตริย์ทีชัลล่าในจักรวาลมาร์เวลเท่านั้น แต่ดูเหมือนเขาจะกลายเป็น “ราชาแห่งฮอลลีวู้ด” อย่างแท้จริงไปแล้ว ด้วยการนำแสดงในหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของอเมริกาถึง 3 เรื่องอย่าง Black Panther, Avengers ภาค Infinity War และภาค Endgame ที่ครองตำแหน่งอยู่ใน Top 5 หนังทำเงินสูงสุดตลอดกาล และแม้ว่าแชดวิกจะจากไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว แต่เขาได้ทิ้งผลงานการแสดง 2 เรื่องสุดท้ายไว้ซึ่งมีบทบาทสำคัญบนเวทีรางวัลปีนี้ 

Da 5 Bloods เป็นหนังสงครามผลงานของ Spike Lee ผู้กำกับผิวดำที่แชดวิกฝันมานานว่าอยากร่วมงานด้วย และในที่สุดฝันของเขาก็เป็นจริงด้วยการคว้าบทหัวหมู่สุดคลั่งของเหล่าทหารผิวดำในสงครามเวียดนาม ซึ่งแชดวิกเข้ามาถ่ายทำเรื่องนี้ในประเทศไทยด้วย บทบาทของเขาเป็นที่กล่าวถึงในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมหลายเวที เช่นเดียวกับ Ma Rainey’s Black Bottom ผลงานเรื่องสุดท้ายที่เขารับบทนักดนตรีผู้ทะเยอทะยานที่ต้องปะทะฝีปากกับเจ้าแม่เพลงบลูส์รับบทโดย Viola Davis ทั้ง 2 เรื่อง เปิดโอกาสให้แชดวิกแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ น้อยครั้งนักที่นักแสดงซึ่งเสียชีวิตไปแล้วจะได้รับเสนอชื่อเข้าชิงถึง 2 เรื่อง และนั่นทำให้เขาเป็นที่จดจำในฐานะราชาแห่งโลกภาพยนตร์อย่างแท้จริง

PERFORMANCES OF THE YEAR

รวมที่สุดแห่งการแสดงในรอบปีที่ผ่านมาที่ควรค่าแก่การมอบรางวัลให้ จะมีใครบ้างไปดูลิสต์กัน!

1 / 6

2 / 6

3 / 6

4 / 6

5 / 6

6 / 6

รอชมการรายงานผลรางวัลออสการ์ปี 2021 และไฮไลต์ตลอดงานได้ที่โว้กประเทศไทย