เบื้องหลัง MTV Unplugged In New York โชว์ในตำนานของ Nirvana ที่ทั้งวายป่วงและน่าจดจำในเวลาเดียวกัน

     ภาพของ Kurt Cobain ที่ยืนโดดเด่นอยู่ในตำแหน่งฟรอนต์แมน ขนาบข้างด้วย Krist Novoselic มือเบสร่างโย่งผู้เงียบขรึม และ Dave Grohl มือกลองจอมดีเดือด ร่วมบรรเลงเพลงกรันจ์ที่มีริฟฟ์กีตาร์เท่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Smells Like Teen Spirit, Come As You Are และอีกมากมาย น่าจะเป็นภาพแรกที่ทุกคนนึกถึงเมื่อเอ่ยชื่อวง Nirvana

     ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะถึงแม้ Nirvana จะโลดแล่นอยู่ในโลกดนตรีเพียงแค่ 7 ปี และมีสตูดิโออัลบั้มออกมาเพียง 3 อัลบั้ม ได้แก่ Bleach (1989), Nevermind (1991), และ In Utero (1993) แต่พวกเขาก็มีการแสดงสดที่น่าประทับใจ ถึงขั้นจารึกอยู่ในตำนานประวัติศาสตร์ดนตรีมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นโชว์ที่ระเบิดความมันส์อย่างเต็มที่ตามสไตล์ชาวกรันจ์ ยกเว้นโชว์ที่ชื่อว่า MTV Unplugged In New York

     ถึงแม้ MTV Unplugged In New York จะเป็นโชว์อคูสติกที่สมาชิกทั้ง 3 ของ Nirvana นั่งบรรเลงบทเพลงด้วยท่าทีสบายๆ แตกต่างจากโชว์อื่นๆ พวกเขาอย่างสิ้นเชิง ทว่าโชว์นี้กลับถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในโชว์ที่ดีที่สุดตลอดกาลของ Nirvana ที่ยังคงถูกหยิบยกมากล่าวถึงอย่างไม่เสื่อมคลายแม้ผ่านกาลเวลามาเกือบ 3 ทศวรรษ นอกจากนั้น MTV Unplugged In New York ยังเป็นโชว์ที่มีเบื้องหลังสุดวายป่วงอีกด้วย เรียกว่ากว่าที่ทุกอย่างจะสำเร็จลุล่วงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

 

     โดยเรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 1993 ก่อนการจากไปของ Kurt Cobain เพียง 4 เดือนกว่าๆ เท่านั้น เมื่ออยู่ๆ วง Nirvana ที่ในตอนนั้นโด่งดังประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลไปแล้วกับ 3 อัลบั้มที่ผ่านมาอย่าง Bleach, Nevermind, และ In Utero ก็ได้รับการติดต่อจากช่องโทรทัศน์ MTV 

     ที่ประชุม MTV ปรึกษากันอย่างเคร่งเครียดว่าศิลปินวงไหนจะมาเล่นคอนเสิร์ต Unplugged ในวันที่ 18 พฤศจิกายน ปี 1993 พวกเขาสนใจ Nirvana ทว่าในขณะนั้นวงกรันจ์จากวอชิงตันกำลังทัวร์อัลบั้ม In Utero กันอยู่ ทีมงาน MTV จึงติดต่อไปด้วยความคาดหมายว่าจะได้รับคำปฏิเสธ แต่ทุกอย่างก็พลิกผัน เพราะ Nirvana ตอบตกลง ทีมงาน MTV ถึงกับดีใจกระโดดโลดเต้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น

     ทว่าไม่ทันไรความวายป่วงก็เริ่มตั้งเค้าขึ้นทันที เมื่อ Dave Grohl มือกลองประจำวงบอกว่าก่อนหน้านี้วงเคยดูเทป Unplugged ของศิลปินอื่นที่เคยไปแสดง ก่อนจะวิจารณ์ยับเยินว่า “โคตรน่าเบื่อ” ไม่เห็นต่างกับคอนเสิร์ตปกติตรงไหน แค่เอาเพลงฮิตมาเล่นแบบอคูสติก

     “ถึงแม้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นโชว์ที่ดี แต่จริงๆ แล้วมันควรเป็นหายนะมากกว่า”

     “พวกเราแทบไม่ได้ซ้อมเลย เราไม่คุ้นเคยกับการเล่นอคูสติก ทุกอย่างออกมาแย่มาก แม้แต่คนจาก MTV ก็คิดว่ามันแย่มาก” Dave Grohl เผยหลังจากเหตุการณ์วันนั้นผ่านมาหลายปี

     นอกจากนั้น Dave ยังประสบปัญหากับการตีกลองในเวอร์ชั่นเพลงอคูสติก เนื่องจากเขาเป็นมือกลองที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นคือการฟาดอย่างบ้าระห่ำ ทำให้ตลอดการซ้อมของ Unplugged ไม่มีใครแน่ใจว่า Grohl จะสามารถเล่นได้อย่างนุ่มนวลหรือไม่ จนสุดท้าย Alex Coletti โปรดิวเซอร์ของรายการก็แก้ปัญหาด้วยการไปหาซื้อไม้กลองแบบหัวแปรงมาให้ใช้ และโชคดีที่ผลลัพธ์ออกมาน่าพอใจ

     ส่วน Krist Novoselic ก็ไม่ถนัดในการเล่นเบสอคูสติก แต่สุดท้ายเขาก็ได้สมาชิกวง Meat Puppets ที่ร่วมทัวร์ด้วยกันมาช่วยสอน

     “นี่คงเป็นโชว์ที่เบาที่สุดของเรา เบาบางดังกระดาษทิชชู่เลย” Krist กล่าวติดตลก

     ในช่วงที่ต้องเตรียมงาน Alex Coletti ได้สอบถาม Nirvana ว่าพวกเขาต้องการอุปกรณ์อะไรประกอบฉากบ้าง และคำตอบจาก Kurt ก็ทำให้โปรดิวเซอร์หนุ่มต้องงงอีกครั้ง

     “ผมต้องการดอกลิลลี่กับเทียนไขเยอะๆ”

     “แบบนั้นมันเหมือนงานศพเลยนะ”

     “ใช่ เหมือนงานศพ” Kurt ยืนยัน

     ความวายป่วงยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะในการซ้อม 2 วันก่อนเล่นจริง สมาชิกแต่ละคนของ Nirvana ทำได้อย่างย่ำแย่ จนทีมงาน MTV ที่เฝ้าดูอยู่ถึงกับปวดหัว และเริ่มคิดว่าพวกเขาตัดสินใจถูกหรือเปล่าที่เลือก Nirvana มา นอกจากนั้นเซ็ตลิสต์ที่ Nirvana เตรียมมาก็ช่างน่าขัดใจเสียเหลือเกิน ไม่ว่าในมุมผู้จัดรายการหรือผู้ชม เพราะมีเพียงแค่ Come As You Are และ About a Girl เท่านั้นที่เป็นเพลงฮิต ส่วนอีก 12 เพลงที่เหลือคือเพลงในอัลบั้ม Bleach, Nevermind, และ In Utero ที่หลายคนอาจมองข้าม ผสมรวมกับเพลงคัฟเวอร์ศิลปินอื่นอีก 6 เพลง

 

     ส่วนแขกรับเชิญที่ทางผู้จัดงานหวังว่าจะเป็น Eddie Vedder, Chris Cornell, หรือ Layne Stayley ฟรอนต์แมนของวงดนตรีแนวกรันจ์ที่มีผลงานโดดเด่นเคียงข้างกับ Nirvana ในช่วงเวลาดังกล่าว ทว่า Kurt กลับยืนยันว่าแขกรับเชิญของพวกเขาคือ Meat Puppets วงดนตรีโนเนมที่พวกเขาออกทัวร์ด้วย

     “เราคิดว่าประตูรถจะเปิดออกแล้วมี Chris Cornell หรือสมาชิกวง Alice In Chains ลงมา ทว่ากลับเป็น Meat Puppets ที่พวกเขาออกทัวร์ด้วย” Beth McCarthy-Miller ผู้อำนวยการ MTV กล่าว

     เวลาล่วงเข้าสู่วันงาน 18 พฤศจิกายน 1993  ณ Sony Music Studio กรุงนิวยอร์ก แต่ความวายป่วงก็ยังคงไม่จบสิ้น เพราะก่อนการแสดงจะเริ่มไม่กี่ชั่วโมง Kurt ที่กำลังอารมณ์แปรปรวนเพราะเพิ่งผ่านการบำบัดเรื่องใช้ยาเสพติดมาอยู่ๆ ก็ประกาศว่าจะไม่ทำการแสดงแล้ว

     “เขาอาเจียนอยู่หลังเวทีและต้องนอนบนโซฟา ก่อนที่คนของ MTV จะต้องออกไปซื้อยาเบนโซไดอะซีพีนเพื่อช่วยบรรเทาอาการของเขา ให้ Kurt ขึ้นทำการแสดงได้” Charles R. Cross ผู้เขียนหนังสือชีวประวัติ Kurt Cobain เล่าเหตุการณ์ 

     ถึงแม้ Kurt จะยอมเปลี่ยนใจ แต่ด้วยสภาพที่ไม่สู้ดีนัก ทำให้ทีมงาน MTV ต่างปลงตกแล้วว่าโชว์วันนี้จะต้องออกมาเละเทะแน่นอน

 

     ทว่าของจริงก็คือของจริง Nirvana ก็เช่นเดียวกัน พวกเขาคือวงดนตรีระดับโลก ดังนั้นเมื่อถึงเวลาการแสดง สมาชิกทั้ง 3 คนต่างก็รีดเร้นความสามารถทั้งหมดบรรเลง 14 เพลงจบไปอย่างราบรื่น ถึงแม้ว่า Kurt จะแอบโกงนิดหน่อย ด้วยการใช้เอฟเฟกต์กีต้าร์ในเพลง The Man Who Sold the World โดยตัวเอฟเฟกต์นั้นถูกซ่อนอยู่ในกล่องเล็กๆข้างตีนนักร้อง ที่ MTV ทำขึ้นมาหลอกคนดู ทำให้การแสดง Unplugged ครั้งนี้ไม่ใช่ Unplugged จริงๆ 

     แต่นั่นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่สามารถมองข้ามไปได้ และสิ่งที่ทีมงาน MTV แปลกใจที่สุดคือบรรยากาศในห้องส่งยอดเยี่ยมมากๆ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นโชว์นี้มีแววเจ๊งกับเจ๊ง แต่ในขณะถ่ายทำทุกคนกลับค่อนข้างผ่อนคลาย และหลังจาก Nirvana ปรับตัวเข้ากับจังหวะหลังจากเพลงแรกได้ การแสดงก็ออกมาสนุกมาก

     “ในการตัดต่อที่ออกมามันดูมืดมนและจริงจัง แต่ในระหว่างที่โชว์ดำเนินไปคุณจะเห็นพวกเขาหัวเราะและทำเรื่องตลกบ่อยๆ” Gillian Gaar นักข่าวที่เข้าร่วมการแสดงกล่าว

     โชว์จบลงด้วยเพลงสุดท้าย Where Did You Sleep Last Night ที่ Kurt ระเบิดอารมณ์ใส่ไมค์อย่างดุดันและซาบซึ้งในเวลาเดียวกัน จากนั้นเขาก็ลุกจากเก้าอี้ ขอบคุณผู้ชม แจกลายเซ็น และจุดบุหรี่ขึ้นสูบ ในขณะที่ทีมงาน MTV พยายามรบเร้าให้ Kurt เล่นในส่วน Encore ต่อ

     “ผมไม่คิดว่าเราจะเล่นได้ยอดเยี่ยมเท่ากับเพลงสุดท้ายที่เล่นไปเมื่อกี้อีกแล้ว” คำตอบเรียบง่ายจาก Kurt ทำให้ MTV Unplugged In New York จบลงเพียงเท่านี้

     เมื่อค่ำคืนนั้นผ่านไป จากโชว์ที่แม้กระทั่งผู้จัดงานคิดว่ามันจะล้มเหลวไม่เป็นท่า ทว่า MTV Unplugged In New York กลับกลายเป็นหนึ่งในโชว์ที่ดีที่สุดของ Nirvana และสร้างมาตรฐานให้กับคอนเสิร์ตแนว Unplugged

     เรื่องน่าเศร้าคือ Kurt ไม่มีโอกาสได้ดูเทปที่ตัวเองเล่น เพราะเขาเสียชีวิตก่อนที่มันจะวางจำหน่ายในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 1994 แต่ความยอดเยี่ยมของมันก็ทำให้อัลบั้มนี้ขึ้นสู่อันดับ 1 ของชาร์ต พร้อมด้วยการกวาดรางวัลแกรมมี่ จารึกตำนานบทนี้ลงในหน้าประวัติศาสตร์ดนตรีได้อย่างสมเกียรติ