Rowan Atkinson อัจฉริยะผู้ให้กำเนิด Mr. Bean คนสร้างเสียงหัวเราะโดยปราศจากความหยาบคาย

     ในมุมความทรงจำของคนทุกคน เราเชื่อว่าในช่วงเวลาแห่งความสุขและความตลกขบขันนั้น จะต้องมีภาพของชายใส่สูทท่าทางป้ำๆ เป๋อๆ ผุดขึ้นมาในหัวอย่างแน่นอน เขาคนนั้นคือ Mr. Bean ตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นจากต้นทุนสุดต่ำ และคอนเซปต์ง่ายๆ ที่ไม่ต้องมีบทพูด อาศัยเพียงท่าทางการแสดงออกเพื่อเรียกเสียงหัวเราะเท่านั้น มิสเตอร์บีนรับบทโดย Rowan Atkinson นักแสดงชาวอังกฤษผู้พกมาทั้งมันทั้งสมองและกึ๋นอันเฉียบขาด เขาพัฒนาตัวละครนี้ขึ้นในช่วงที่กำลังศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด

     ตอนนั้นเขาได้พบกับ Richard Curtis เพื่อฟอร์มทีมเล็กๆ ในการเขียนบทละครตลกขึ้น ด้วยเขาเห็นถึงความคล้ายคลึงกันของเซนส์ในเรื่องตลกและการใช้มุกต่างๆ ริชาร์ดนั้นมักจะเล่นบทคนธรรมดาผ่านการพากย์เสียงต่างๆ ด้วยจังหวะจะโคนที่ตลกขบขัน ในขณะที่การแสดงท่าทางต่างๆ นั้นตกเป็นของโรวันไปโดยปริยาย ในช่วงเวลานี้แหละคาแร็กเตอร์มิสเตอร์บีนถือกำเนิดขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการ เพียงแต่พวกเขายังไม่รู้ตัวเท่านั้น ระหว่างการแสดงละครตลกใบ้พวกเขาทั้งคู่ยังได้โผล่ไปสร้างสรรค์งานซิตคอมตลกที่ชื่อว่่า Black Adder เล่าเรื่องราวของอัศวินในช่วงยุคกลางที่ดัดแปลงให้กลายเป็นเรื่องตลกชวนหัว

 

ภาพ: ITV

     หลังแบล็ก แอดดาร์ ฉายจบทั้ง 4 ตอน พวกเขากลับมาที่ตัวละครตลกบื้อใบ้ตัวนี้บนเวทีต่อ แรกเริ่มแล้วมิสเตอร์บีนไม่มีชื่อ หากการพัฒนาบทแบบมือสมัครเล่น นำไปสู่โชว์ทางโทรทัศน์อย่างเป็นทางการ จึงต้องมีชื่อในการใช้เรียก ทั้งคู่ระดมความคิดจาก Mr.White กระเถิบไปที่ Mr.Cualiflower ก่อนจะมาจบที่ Mr. Bean ที่ทั้งสั้นและง่ายในการเรียก โรวันและริชาร์ดช่วยกันพัฒนาบทให้ยาวมากขึ้นจนได้ออกมาเป็น 2 บทละคร อันแรกเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ชายหาดกับความพยายามเปลี่ยนชุดว่ายน้ำของมิสเตอร์บีน อันที่สองคือสถานการณ์ภายในโบสถ์ที่มิสเตอร์บีนนั้นแสดงท่าทีไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นักภายในเรื่อง 

     ในด้านการพัฒนาคาแร็กเตอร์นั้นโรวันได้แรงบันดาลใจหลักๆ มาจาก 2 คาแร็กเตอร์ แรกสุดคือ Jacques Tati นักแสดงละครใบ้ชาวฝรั่งเศส ที่มักมาพร้อมคาแร็กเตอร์แบบซุ่มซ่ามและอินโนเซนต์ ซึ่งภาค Hulot's Holiday ของเขายังเป็นแรงบันดาลใจให้โรวันสร้างมิสเตอร์บีนในภาค Mr. Bean's Holiday อีกด้วย อีกหนึ่งคาแร็กเตอร์คือ Peter Sellers นักแสดงตลกชาวอังกฤษผู้สร้างเสียงหัวเราะผ่านการใช้ท่าทางของร่างกาย โดยเฉพาะคาแร็กเตอร์ Chief Inspector Clouseau ในซีรี่ส์ The Pink Panther นั่นเอง รวมไปถึงคาแร็กเตอร์ของชาลี แชปลิน เองที่เขาก็หยิบยืมคาแร็กเตอร์ละครใบ้เข้ามาผสมผสาน

 

ภาพ: LA Times

     นอกจากนี้คาแร็กเตอร์มิสเตอร์บีนยังพัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ส่วนตัวของเขาเองด้วย อย่างเมื่อไหร่ก็ตามที่ต้องมีการพูด เขาจะใช้โทนเสียงต่ำ พูดจาแปลกๆ ไม่ค่อยชัด หรือแม้แต่การออกเสียงตัว B ที่ต้องเค้นเสียงกว่าปกติ อันเนื่องมาจากในวัยเด็กของเขามีปัญหาจากการพูดติดอ่าง เขาจึงถูกเพื่อนล้อเลียนเป็นประจำ แต่โรวันกลับหยิบปมในตอนนั้นขึ้นมาใช้เป็นประโยชน์แทน

     ทั้งหมดทั้งมวลทำให้คาแร็กเตอร์ของมิสเตอร์บีนนั้นออกมาเป็นลักษณะของชายที่แต่งตัวแบบเดียวกันทั้งเรื่องคือการใส่สูทและผูกไท ดูเป็นผู้รากมากดีฉบับชาวอังกฤษ แต่กลับมีนิสัยตรงกันข้าม ซุ่มซ่ามป้ำเป๋อ สอดรู้สอดเห็นจนหลายครั้งก็ไม่่น่ารัก ขณะเดียวกันก็มีความสร้างสรรค์เป็นเลิศ ชื่นชอบการประดิษฐ์ และไม่ค่อยแคร์สื่อ เขายังมีรถมินิคูเปอร์สีเขียวมะนาวอันโดดเด่น และตุ๊กตาเพื่อนรักคนเดียวของเขาที่ตั้งชื่ออย่างเหมาะสมให้ว่า Teddy

 

ภาพ: CinemaBlend

     แม้มิสเตอร์บีนจะไม่ใช่คาแร็กเตอร์เดียวที่โรวันได้เล่น แต่เขาก็เคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร GQ British ไว้ว่าเขาชื่นชอบมันมากกว่าตัวละครอื่นๆ ด้วยซ้ำ “ผมเอนจอยในการเล่นบทบาทมิสเตอร์บีนมากที่สุด เพราะมันเป็นคาแร็กเตอร์ที่ไกลจากตัวผมมาก แต่ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งผมไม่ชอบเขาเลยสักนิด ผมคิดว่าเขาแปลกประหลาดและไม่ใช่คนดีเท่าไหร่ แต่ที่มันสนุกเพราะมันเหมือนกับทางออกนะ แบบเวลาที่คุณเล่นเป็นตัวละครสักตัวคุณไม่ต้องแคร์หรอกว่าจะทำอะไร มันเหมือนเป็นการปลดปล่อยอย่างหนึ่งน่ะ” 

     มิสเตอร์บีนครองใจผู้ชมมาอย่างยาวนานด้วยจำนวนหลายตอน แน่นอนว่าตอนที่ใครหลายคนชอบมากที่สุดต้องยกให้มิสเตอร์บีนฉบับภาพยนตร์ Mr. Bean's Holiday ที่ฉายในปี 2007 และตอนนี้เองตัวโรวันก็ยังชื่นชอบมาก แต่ก็ออกปากว่าเหนื่อยมากจนจำได้ขึ้นใจสุดๆ เช่นกัน “ผมจำได้ว่าตอนที่เหนื่อยมากที่สุดในการถ่ายทำ คือตอนมิสเตอร์บีน ฮอลิเดย์ ที่เขาได้ไปพักผ่อนในแถบชนบทของประเทศฝรั่งเศส มีฉากที่เขาต้องขี่จักรยานเพื่อเอาชนะกลุ่มนักปั่นระหว่างทางให้ได้ นั่นทำเอาผมหอบจนเกือบจะหยุดหายใจเลยทีเดียว มันโหดมาก”

 

ภาพ: The Sun

     แม้มิสเตอร์บีนจะหยุดให้ความสนุกสนานกับผู้ชมมาหลายปีแล้ว แต่โรวันเองก็ยังคงพูดถึงคาแร็กเตอร์นี้อยู่บ่อยครั้ง และยังได้พาเขากลับมาเยี่ยมเยียนในปี 2012 ที่งาน London Olympic Games ขึ้นแสดงเคียงข้างกับวงออร์เคสตาร์ในช่วงเปิดพิธีได้อย่างแนบเนียน การกลับแสดงคาแร็กเตอร์ง่ายๆ เพียงไม่กี่นาทีของเขา แต่เป็นการสะท้อนถึงความสำเร็จยิ่งใหญ่ ว่ามิสเตอร์บีนเป็นคาแร็กเตอร์ที่ผ่านทั้งกระบวนการคิด และหลอมผ่านเตาร้อนมาอย่างยาวนาน กว่าจะออกมาเป็นตำนานจนถึงปัจจุบัน และมันไม่ใช่แค่ตัวละครตลกที่ดีแต่โปกฮาเท่านั้น แต่มันยังเป็นมาตรวัดความสุขและความทรงจำในอดีตที่เราได้เติบโตขึ้นมาด้วยกัน ตัวละครตลกตัวนี้ไม่เคยหายไปไหน แต่ยังอยู่ในหัวใจผู้ชมทุกคนเสมอมา