LIFESTYLE

เยียวยาหัวใจด้วย ‘Modern Love’ ซีรีส์ที่ว่าด้วยความรักหลากมิติโดยมีมหานครนิวยอร์กเป็นฉากหลัง

ถึงแม้เรื่องเลวร้ายในชีวิตจะไม่ได้อันตรธานหายไป แต่อย่างน้อยเมื่อดูจบ หัวใจที่บอบช้ำก็รู้สึกได้รับการเยียวยาขึ้นมาบ้าง

Modern Love คอลัมน์ที่ตีพิมพ์บน The New York Times มาตั้งแต่ปี 2004 / ภาพ: NBC NEWS

 

ในช่วงเวลาที่สถานการณ์กำลังย่ำแย่ ไฟในใจที่เคยลุกโชนกลับค่อยๆ มอดดับลงทุกที ความฝันที่มีก็ดูห่างไกลออกไปทุกขณะ ต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านและไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไร…เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน ดังนั้นในบทความนี้จึงอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับซีรี่ส์เรื่องหนึ่ง ที่ถึงแม้เรื่องเลวร้ายในชีวิตจะไม่ได้อันตรธานหายไป แต่อย่างน้อยเมื่อดูจบ หัวใจที่บอบช้ำก็รู้สึกได้รับการเยียวยาขึ้นมาบ้าง Modern Love คือซีรีส์เรื่องดังกล่าว และนี่คือเหตุผลว่าทำไมมันจึงควรค่าแก่การเปิดดูสักครั้ง



Catherine Keener และ Dev Patel จากตอน When Cupid Is a Prying Journalist

 

เรื่องจริงที่ทุกคนสัมผัสได้

Modern Love ไม่ใช่ซีรีส์ที่บอกเล่าเรื่องราวความรักเพ้อฝันหรือถูกเติมแต่งขึ้นจากจินตนาการ ตรงกันข้ามนี่คือซีรีส์ Based on True Story ที่ดัดแปลงมาจากคอลัมน์ชื่อเดียวกัน ที่เปิดรับเรื่องเล่าความรักไม่จำกัดแง่มุมของผู้อ่านทางบ้านในรูปแบบความเรียง 1,500-1,700 คำ แผยแพร่ทุกวันอาทิตย์บนเว็บไซต์ The New York Times นับตั้งแต่คอมลัมน์ Modern Love เริ่มตีพิมพ์ใน The New York Times ในปี 2004 Daniel Jones บรรณาธิการคอมลัมน์เผยว่ามีเรื่องราวจากผู้อ่านทางบ้านถูกส่งมามากว่า 120,000 เรื่อง โดยเรื่องราวที่เขาประทับใจที่สุดคือเรื่องราวของคนที่กล้าเปิดใจให้ความรักครั้งใหม่ แม้จะผ่านความสัมพันธ์ที่ล้มเหลวมาแค่ไหนก็ตาม

 

“คนที่เปิดใจคือคนที่มีความสุข และคนที่กล้ารักอีกครั้งคือคนที่กล้าหาญ อาจกล้าหาญมากกว่าตัวผม หรือกล้าหาญมากกว่าที่เขาคิดว่าตัวเองมีด้วยซ้ำ เมื่อได้ฟังเรื่องราวพวกนี้ผมจะรู้สึกเหมือนได้แรงบันดาลใจ” Daniel Jones เผยผ่าน Oprah Magazine การที่คอลัมน์ Modern Love คือเรื่องราวจากประสบการณ์จริงผู้คน ผู้บอกเล่ามีทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ ถึงแกนหลักจะว่าด้วยความรัก แต่มันก็เป็นความรักในหลากรูปแบบ หลายแง่มุม ที่บางครั้งคุณอาจจะจินตนาการไม่ถึงเลยว่ามนุษย์สามารถมีความรักในมิตินี้ด้วย ดังนั้นเมื่อมันถูกดัดแปลงเป็นซีรี่ส์ออนแอร์บนสตรีมมิ่ง Amazon Prime โดยได้ John Carney นั่งแท่นโปรดิวเซอร์ คับคั่งด้วยนักแสดงชื่อดังไม่ว่าจะเป็น Dev Patel, Tina Fey, Sofia Boutella, John Slattery และ Anne Hathaway ตลอด 8 ตอน จาก 8 เรื่องราวในซีซั่นแรกจึงเป็นรสชาติที่อาจไม่คุ้นเคยนัก ทว่ากลับกระแทกหัวใจอย่างหนักหน่วง ดึงเราในฐานะผู้ชมให้ดำดิ่งลงสู่เรื่องราวที่เหล่าตัวละครต้องประสบได้อย่างไม่น่าเชื่อ

Anne Hathaway และ Gary Carr จากตอน Take Me as I Am, Whoever I Am

 

รักเล็กๆ ในเมืองใหญ่

เนื่องจาก Modern Love เป็นคอลัมน์ที่ตีพิมพ์ใน The New York Times ดังนั้นเรื่องราวส่วนใหญ่จึงมีฉากหลังเป็นกรุงนิวยอร์ก เช่นเดียวกับทั้ง 8 เรื่องที่ถูกคัดเลือกมาดัดแปลงเป็นซีรีส์ในซีซั่น 1 นี่คือซีรีส์ที่พิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่านิวยอร์กยังคงเป็นเมืองที่มีเสน่ห์เสมอ โดยเฉพาะเมื่อถูกนำมาเล่าคู่กับเรื่องราวความรัก ท่ามกลางตึกสูงระฟ้ามากมาย ผู้คนที่เดินขวักไขว่ในไทม์สแควร์ มีหัวใจเปลี่ยวเหงาที่รอความรักมาเติมเต็มซุกซ่อนอยู่ในทุกมุมเมือง และเมื่อนำเลนส์มาส่องขยายพวกเขาเหล่านั้น ก็จะพบกับเรื่องราวที่ว่าด้วยความรักอันน่าสนใจ ควรค่าแก่การถ่ายทอดให้ทุกคนฟัง ไม่ว่าจะเป็น…

 

When the Doorman Is Your Main Man – ความสัมพันธ์ไร้ชื่อเรียกระหว่างพนักงานเปิดประตูอพาร์ทเมนต์ผู้ซื่อสัตย์และเงียบขรึม กับหญิงสาวธรรมดาในช่วงเวลาที่ชีวิตของเธอเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ จากคนคุ้นหน้า กลายเป็นคนคุ้นเคย ชวนให้อบอุ่นหัวใจ

When Cupid Is a Prying Journalist - เรื่องราวความรักที่ถูกเก็บซ่อนไว้อย่างมิดชิดของผู้บริหารแอปพลิเคชั่นหาคู่ชื่อดังถูกดึงกลับเข้ามาในความทรงจำอีกครั้งโดยนักข่าวสาวจอมจุ้น

Take Me as I Am, Whoever I Am – การมีความรักไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะกับผู้ป่วยโรคไบโพลาร์ เมื่อคำถามที่ว่า ‘จะมีใครรับฉันแบบที่ฉันเป็นได้ไหม’ เริ่มชัดเจนขึ้นทุกที

Rallying to Keep the Game Alive - ชีวิตคู่ที่เปรียบเสมือนการตีโต้เทนนิส

At the Hospital, an Interlude of Clarity – เมื่อเดตในฝันกลับลงเอยที่โรงพยาบาล แต่สิ่งที่ตามมาคือความทรงจำล้ำค่า

So He Looked Like Dad. It Was Just Dinner, Right? – ความสัมพันธ์ระหว่างชายวัย 55 กับสาวรุ่นราวคราวลูก ที่ชวนให้ตั้งคำถามด้านศีลธรรม

Hers Was a World of One - เมื่อคู่รัก LGBTQ+ อยากมีโซ่ทองคล้องใจ แต่อุปสรรคคือการยอมรับจากสังคม

The Race Grows Sweeter Near Its Final Lap - ปิดท้ายด้วยความรักในวัยชรา ที่เปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอน

 

นี่คือทั้ง 8 ตอนจาก Modern Love ซีซั่นแรก จะเห็นได้ว่าเรื่องราวมีความหลากหลายอย่างมาก แน่นอนว่ามันอาจไม่โดนใจทุกเรื่อง แต่อย่างน้อยต้องมีสัก 2-3 เรื่องที่ทำให้น้ำตารื้นได้ นอกจากนั้นบทเพลงประกอบกว่า 30 เพลงซึ่งถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี และมากกว่าครึ่งเป็นการประพันธ์ขึ้นมาใหม่ ยิ่งช่วยส่งเสริมให้เรื่องราวในหน้าจอกระแทกใจผู้ชมรุนแรงขึ้น



WATCH




 Modern Love ซีซั่น 2 เตรียมออนแอร์ทาง Amazon Prime ในวันที่ 13 สิงหาคม 2021

 

ซีซั่น 2 กับความประทับใจครั้งใหม่

ข่าวดีสำหรับทั้งคนที่ติดตาม Modern Love มาตั้งแต่ซีซั่น 1 ออนแอร์ในปี 2019 และคนที่อยากเริ่มดูหลังอ่านบทความนี้จบ เพราะในวันที่ 13 สิงหาคม 2021 นี้ Modern Love ซีซั่น 2 เตรียมออนแอร์ 8 ตอนรวดผ่านทางสตรีมมิ่ง Amazon Prime เหมือนเช่นเคย จากที่ได้อ่านเรื่องย่อของแต่ละตอนบน IMDb Modern Love ซีซั่น 2 ยังคงเข้มข้นด้วยเรื่องราวความรักหลากหลายมิติ เป็นยาเม็ดแผงใหม่ที่รอเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของผู้ชมทุกคน

 

อย่างที่กล่าวไปตอนต้น นี่คือซีรีส์ที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะหยิบมาดูในวันที่ชีวิตไม่มีอะไรเป็นใจเลยสักอย่าง….

WATCH