Millie Bobby Brown
LIFESTYLE

รู้จัก Millie Bobby Brown ดาวรุ่งแห่ง 'Stranger Things' และการกลับมาอีกครั้งของบทอีเลเว่น

การกลับมาของตัวละครอีเลเว่นที่ไม่มีพลังวิเศษนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มิลลี่กลับชอบมันเสียอย่างนั้น

     นับตั้งแต่เริ่มเปิดตัวในปี 2016 ผลงานซีรี่ส์แนวไซไฟเรื่อง "STRANGER THINGS" ได้สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลก การันตีด้วยการขึ้นรับรางวัลมาแล้วมากกว่า 65 รางวัล อีกทั้งในแต่ละซีซั่นก็ยังคงสร้างปรากฏการณ์อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในซีซั่น 3 ซึ่งมียอดการรับชม 582 ล้านชั่วโมงและติดอันดับ 2 ใน 10 อันดับแรกของผลงานซีรีส์ภาษาอังกฤษจาก Netflix ที่ได้รับความนิยมสูงสุด และในซีซั่นที่ 4 ที่ได้รับกระแสนิยมอย่างล้นหลามจนเกิดเป็นเทรนด์ทวิตเตอร์ติดต่อกันอย่างต่อเนื่องนานนับสัปดาห์ ทว่านอกจากไฮไลต์สำคัญอย่างโปรดักชั่นงานสร้าง และบทซีรี่ส์ที่ได้รับเสียงชื่นชมและเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างล้นหลาม หนึ่งในนักแสดงคนสำคัญที่สร้างความเซอร์ไพรส์ในพัฒนาการของเธออย่าง Millie Bobby Brown ให้คนดูได้เห็นกันอยู่ทุกซีซั่นนั้นก็ถูกพูดถึงไม่แพ้กัน

     Millie Bobby Brown คือนักแสดงสาว และนางแบบชาวอังกฤษ เธอเกิดในปี 2004 แต่ความสามารถเหลือล้น กระทั่งที่ในปี 2018 เธอคนนี้ยังถูกจัดอันดับให้กลายเป็นหนึ่งในผู้ที่มีอิทธิพลสูงสุดประจำปีของนิตยสาร Time มาแล้ว อีกทั้งยังได้รับเลือกให้กลายเป็นทูตสันถวไมตรียูนิเซฟที่อายุน้อยที่สุดในประวัติการณ์อีกด้วย ก่อนที่เธอจะเริ่มโดดเด่นและโด่งดัง จนกลายเป็นที่รู้จักในบทบาทของตัวละคร Eleven จากซีรี่ส์แนวไซไฟจาก Netflix อย่าง Stranger Things ที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ชมทั่วโลกนับล้านคนในฝีมือการแสดงของเธอ รวมไปถึงพัฒนาการทุกครั้งที่เธอเดินพรมแดงอีกด้วย งานนี้เธอ

Millie Bobby Brown

     มิลลี่ บ็อบบี บราวน์ ให้สัมภาษณ์ถึงการกลับมาในซีซั่นที่ 4 นี้ว่า “เราและทีมงานทุกคนกลับมาช่วงต้นปี 2020 แต่สถานการณ์โควิดทำให้ทุกคนต้องหยุดถ่ายทำไป พวกเราต้องพักไปนานถึง 8 เดือนเต็มๆ ฉันจึงรู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาทำงานอีกครั้ง ก่อนหน้านั้นฉันก็ไม่ได้ออกไปไหน หรือทำอะไรมากมายนัก พอได้กลับมาทำงาน มีตารางถ่ายทำตามปกติ และได้กลับมาสวมบทอีเลเว่นอีกครั้ง มันก็ทำให้ฉันรู้สึกดีใจมาก”

     ดังที่สาวกซีรี่ส์ Stranger Things ทราบกันดีว่า การกลับมาครั้งนี้ในซีซั่นที่ 4 ของตัวละครอีเลเว่นมีสิ่งหนึ่งที่ถูกจับตามองอย่างมาก นั่นคือการสูญเสียพลังวิเศษไป ซึ่งมิลลี่ได้พูดถึงความท้าทายครั้งนี้เอาไว้อีกว่า “ฉันรู้สึกว่าพลังวิเศษของอีเลเว่นมักจะบดบังตัวตนของเธอ ฉันรู้สึกชื่นชมพี่น้องดัฟเฟอร์ที่ตัดทักษะความสามารถที่สำคัญที่สุดที่เธอต้องพึ่งพาอยู่บ่อยๆ นั้นออกไป พอไม่มีพลังพิเศษแล้ว เธอจะเป็นอย่างไรต่อไป จริงๆ แล้วเธอเป็นใครกันแน่ ซีซั่นนี้จะล้วงลึกถึงสภาพจิตใจของเธอจริงๆ แทนที่จะมองว่าเธอเป็นแค่สิ่งมีชีวิตจากนอกโลก เราจะได้ค้นพบตัวตนลึกๆ ของเธอในฐานะที่เป็นปุถุชนคนหนึ่งที่ไม่ต่างจากคนอื่นๆ”

Millie Bobby Brown

     นอกจากนี้มิลลี่ยังได้พูดถึงมิติอื่นๆ ของตัวละครอีเลเว่นเพิ่มเติมเอาไว้อีกว่า “ในเรื่องของแฟชั่น ฉันไว้ใจทีมสร้างสรรค์ของเรา ผ่านมา 6 ปีแล้ว และฉันก็ยังยึดถือไอเดียที่เขารังสรรค์ให้กับอีเลเว่น ถึงแม้ว่าฉันจะรักและรู้จักเธอดีมาก แต่ก็อยากฟังความคิดเห็นของคนอื่นๆ ด้วย เอมี่ แพร์ริส นักออกแบบเครื่องแต่งกายของเราในซีรีส์เรื่องนี้เตรียมบอร์ดสรุปไอเดียการออกแบบมาให้ฉันดู ฉันก็รู้สึกว่ามันใช่เลย อีเลเว่นไม่มีเซนส์เรื่องแฟชั่นเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งไอเดียนั้นก็ยอดเยี่ยมและสะท้อนตัวตนที่แท้จริงของเธอได้ดี เธออาจจะหยิบถุงเท้าคนละข้างมาสวม และใส่ชุดที่สีไม่เข้ากันเลย แต่นั่นคือความเป็นตัวเธอ เพราะว่าจริงๆ แล้วในยุคสมัยของอีเลเว่นก็ไม่เน้นเรื่องการแต่งตัวเข้าชุดกัน ฉันเชื่อมั่นในหัวคิดสุดสร้างสรรค์ของเอมี่” นั่นเองคือเรื่องราวของแฟชั่นที่มิลลี่อยากลองให้เหล่าสาวกซีรี่ส์เรื่องนี้ย้อนกลับไปดูกันอีกครั้ง



WATCH




Millie Bobby Brown

     ดังที่กล่าวไปแล้วว่า Stranger Things ซีซั่นที่ 4 นั้นได้รับความนิยมอย่างมากตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ออกฉาย ด้วยเนื้อเรื่องอันเข้มข้น และความน่าสนใจของพัฒนาการของตัวละคร ซึ่งมิลลี่ก็มีคำตอบให้กับเรื่องนี้ว่า ทุกอย่างในซีซั่นนี้เรียกได้ว่าไร้ขีดจำกัด พี่น้องดัฟเฟอร์เขียนเรื่องราวต่างๆ ที่เหนือจินตนาการของทุกคน เส้นเรื่องของอีเลเว่นจะยิ่งใหญ่อลังการกว่าเดิมมาก บางอย่างดิฉันยังคิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นไปได้ อย่างเช่นสัตว์ประหลาดตัวหลักในซีซั่นนี้ แค่ตัวนี้ตัวเดียวก็เหลือเชื่อแล้ว ดิฉันไม่เคยคิดว่าเราจะสามารถทำอะไรแบบนี้ในซีรีส์ได้ คิดดูนะคะว่ามีการใช้เทคนิคซีจีน้อยมากๆ แต่ยังดูน่ากลัวได้ขนาดนี้ ยิ่งแสดงให้เห็นว่าซีรีส์เรื่องนี้ไร้ขีดจำกัดจริงๆ ค่ะ และดิฉันตื่นเต้นมากเลยค่ะที่แฟนๆ จะได้เห็นอีเลเว่นในสภาพที่ไม่มีพลัง รวมทั้งความยากลำบากและความอึดอัดขัดใจของเธอ เธอชินกับการได้ใช้พลังมานาน แล้วผู้ชมก็จะได้เห็นปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างไมค์กับอีเลเว่น ซึ่งยิ่งเพิ่มความกดดันและตึงเครียดเข้าไปอีก

     สุดท้ายก่อนที่จะจากกันไปมิลลี่ยังได้พูดถึงความรู้สึกประทับใจของเธอที่มีต่อตัวละครนี้ที่เธอผูกพันมานานกว่า 4 ซีซั่นด้วยว่า  “แฟนๆ เทใจให้ตัวละครของเรามาก เรารู้สึกขอบคุณที่แฟนๆ รักซีรีส์เรื่องนี้ แล้วเราก็รักซีรี่ส์เรื่องนี้มากพอๆ กัน เราได้เห็นถึงความรักที่ฉายออกมาในแววตาของแฟนๆ แต่ฉันไม่เคยมีโอกาสได้ดูซีรี่ส์เรื่องนี้ในฐานะแฟนผลงานเลย ฉันมีมุมมองของซีรีส์ที่ไม่เหมือนกับที่เขามอง เพราะว่าฉันเป็นนักแสดงในเรื่อง คอยแต่จะเหน็บและวิจารณ์ตัวเองมากกว่า แต่เมื่อไม่นานมานี้ฉันกับน้องสาวได้นั่งดูซีรี่ส์ทั้ง 3 ซีซั่นซ้ำอีกรอบ แล้วพอเห็นน้องชอบมากๆ ก็เลยทำให้ฉันหลงรักซีรี่ส์เรื่องนี้ในมุมมองที่ต่างออกไป ฉันชื่นชอบอีเลเว่น คือรู้สึกว่า “ฉันอยากเป็นเธอจัง” แล้วก็นึกได้ว่าตอนนี้ก็ได้เป็นอยู่นี่นา มันสุดยอดมากเลย แล้วน้องก็มาบอกกับดิฉันทีหลังว่า “ฉันไม่ต้องห่วงว่าจะได้เจอตัวละครสุดโปรดหรือเปล่า เพราะว่าเราอยู่บ้านเดียวกันอยู่แล้ว” มันยอดเยี่ยมจริงๆ”

     สามารถตามไปรับชมซีรี่ส์ Stranger Things ซีซั่นที่ 4 ทั้ง 2 วอลลุ่ม ได้แล้วตอนนี้ทาง Netflix

ข้อมูล : Courtesy of Netflix

WATCH