MARTHA IS DEAD เกมสยองขวัญที่ไร้ Jumpscare แต่ทำให้หดหู่จนถึงก้นบึ้งของหัวใจ

     เกมสยองขวัญเป็นประเภทของเกมที่เขย่าขวัญผู้เล่นด้วยภาพ เสียง และเนื้อหา ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่วงการเกมมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เกมสยองขวัญหรือเกมผีที่เรียกกัง่ายๆ อย่างคุ้นปากก็พัฒนารูปแบบตามไปด้วยเช่นกัน ทั้งยังเพิ่มความน่ากลัวด้วยกราฟิกที่พัฒนาขึ้นอย่างสมจริง ทว่ารูปแบบของเกมมักติดอยู่ในวังวนของความน่ากลัวที่ซ้ำเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโมเมนต์กระชากขวัญกับฉาก ‘Jumpscare’ ซึ่งนั่นอาจเป็นเลเยอร์ของเกมที่ดูเข้าใจง่าย แต่ไม่ใช่กับเกมๆ หนึ่งที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2022 และสร้างความประทับใจให้คนทั้งโลก

     Martha Is Dead คือเกมจากสตูดิโอผู้พัฒนาอิตาเลียน ตัวเกมเริ่มต้นเรื่องราวขวัญผวากับการจากไปของหญิงสาวฝาแฝด ผูกโยงกับเรื่องราวเล่าขานในนิทานจากอดีต ตัวละคร Martha เสียชีวิต และแฝดอย่าง Giulia ก็พบกับความน่าหวาดกลัวภายในจิตใจ (มาร์ธาสวมชุดจูเลียขณะเสียชีวิต) นำมาสู่ความสับสนและประเด็นชีวิตเบื้องหลังของครอบครัวที่แม่เป็นชาวอิตาเลียน และพ่อเป็นนายทหารยศสูงของกองทัพนาซี เรื่องราวช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เล่าสอดประสานไปกับเรื่องส่วนตัวของครอบครัว

     ความน่าสนใจของเกมสยองขวัญคือความลุ้นระทึกที่เกิดจากการทำเอฟเฟกต์รูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพที่มักสร้างบรรยากาศความสยองหรือน่าหวาดกลัว เสียงที่ช่วยส่งเสริมอารมณ์ และจังหวะการสร้างความหวาดกลัวแบบตกใจช่วยกระตุ้นอดรีนะลีน ซึ่งเป็นแพตเทิร์นเดียวกับหนังสยองขวัญทั่วโลก แต่มิติของเกม Martha Is Dead ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง อารมณ์จากภาพและเสียงกลายเป็นความหดหู่ ความเศร้าโศก และยังรักษาความซับซ้อนภายในจิตใจมนุษย์ เล่นกับการคาดเดาทุกจังหวะเวลา ไม่จำเป็นต้องมีเสียงหรือภาพกระแทกหน้า แต่กลับเป็นจังหวะที่หลอนประสาทจนสามรถทำให้ผู้เล่นเข้าถึงประสบการณ์นั้น มันล้ำลึกถึงขนาดอาจรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเจอกับตัวจริงๆ

     แรกๆ บรรยากาศน่าสยองตั้งแต่การใช้ชีวิตท่ามกลางป่า การจากไปของตัวละคร และความน่ากลัวของบ้าน เหลี่ยมมุม แสงไฟ และการวางโลงศพแทบจะกลางบ้าน รวมถึงชั้นใต้ดินที่มีห้องล้างรูปเป็นสถานที่หลักของเกม มันเหมือนว่าทุกรายละเอียดถูกออกแบบมาอย่างเป็นธรรมชาติ ทว่ามันสอดแทรกความน่ากลัว มันเชื่อมโยงกับความกลัวของมนุษย์ในหลากมิติ ตลอดระยะเวลาหลายชั่วโมงตามเวลาเล่นเกมต้องบอกว่าแทบไม่มีจังหวะหลอกหลอนเชิงตกใจ แต่เป็นการสร้างห้วงอารมณ์แสนจะล้ำลึกและน่าค้นหาไปในเวลาเดียวกัน

     หากใครได้สัมผัสเกมนี้ไม่ว่าจะดูหรือเล่นเองจะพบว่าความสยองขวัญคือสภาพจิตใจที่ทั้งตัวละครและผู้สัมผัสประสบการณ์ของเกม ฉากอันโหดร้ายกัดกินจิตใจ ความบั่นทอนภายในหัวของตัวละครและผู้เล่น จากที่ตอนแรกคาดเดาฉากตกใจที่จะกระแทกจนหัวใจเต้นรัว ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะความน่ากลัวด้วยองค์ประกอบทั้งหลายแบบค่อยๆ สอดแทรกมาทีละนิด ผสมโรงกับความโหดเหี้ยมและสัญลักษณ์เปรียบเปรย ต้องบอกเลยว่ามันยิ่งกว่าหัวใจเต้นรัว แต่มันอาจถึงขั้นทำให้หายใจลำบากกับความสยองที่แสนจะอึดอัด

     เรื่องราวเข้มข้นตั้งแต่เรื่องการเสียชีวิต ปัญหาครอบครัว สงคราม คนรัก และประสบการณ์ในอดีต ทั้งหมดนี้กัดกินจนไม่เหลือซากแห่งความเป็นมนุษย์ บางทีเกมนี้อาจมีค่าเท่าซีรี่ส์ชั้นดีเรื่องหนึ่ง เพราะมันถ่ายทอดอารมณ์ด่ำดิ่ง เล่นกับสภาพจิตใจของมนุษย์ การทำความเข้าใจความโหดร้ายของครอบครัว และเป็นคำถามปลายเปิดที่สามารถเชื่อมโยงกับความคิดหรือประสบการณ์ได้หลากหลายรูปแบบ การหลอกหลอนคนดูให้เลือกว่าจะมองภาพแบบใด เชื่อแบบไหน และอะไรเกิดขึ้นจริงกันแน่คือบทสรุปของเรื่องที่ทำให้รู้สึกสยอง และเป็นความสยองส่วนบุคคล อยากแนะนำว่าถ้าไม่เล่นก็ลองหาชมเรื่องราว Martha Is Dead กันสักครั้ง เพราะนี่คือนิยามของความสยองขวัญในรูปแบบที่ไม่ได้ต้องทำให้ตกใจจนอะดรีนาลีนพุ่งกระฉูด มันคือความสยองที่บั่นทอนหัวใจจนดำดิ่งสู่มิติทางความคิดที่อาจไม่เคยรู้สึกมาก่อน