ข่าวที่สร้างรอยยิ้มพร้อมกับกระแสไวรัลไปทั่วโซเชียลมีเดียคือการให้สัมภาษณ์ของ Margot Robbie ที่เผยว่าเธอถือโอกาสด้นสดบทเพื่อจะได้จูบ Brad Pitt เรื่องนี้กลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลกเมื่อนักแสดงสาววัย 32 ปี เผยว่าเธอชักจูงให้ผู้กำกับเห็นด้วยกับฉากที่ตัวละครที่เธอรับบทจะต้องจูบตัวละครของแบรดเพื่อความสมบูรณ์แบบจนถูกแซวว่า “เดี๋ยวนะ เธออยากจูบแบรด พิตต์นี่” เรื่องราวดังกล่าวอาจจะฟังดูเป็นเรื่องตลกขบขัน แต่ภายในเรื่องนี้ยังมีสิ่งที่ซ่อนเร้นเกี่ยวกับความตระหนักรู้เกี่ยวกับเรื่องการละเมิดสิทธิ์ในเชิงอาชีพการงาน

Damien Chazelle ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง Babylon ที่อนุมัติฉากด้นสดของ Margot Robbie / ภาพ: Enclycopedia Britannica

     เรื่องราวดังกล่าวถูกมองเป็นเรื่องตลกและหลายคนก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก ส่วนใหญ่ก็แซวว่ามาร์โกฉกฉวยโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิต จุดเริ่มต้นเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเธอให้สัมภาษณ์กับสื่อบันเทิงชื่อดังอย่าง E! ซึ่งเธอเปิดเผยว่า เธอชักจูงผู้กำกับเรื่อง Babylon ให้เห็นดีเห็นงามกับฉากจูบที่เธอคิดมาเอง และถูกแซวว่าเธอก็แค่อยากจูบแบรด พิตต์ โดยเธอเผยอีกว่า “ฉันคิดว่าเมื่อไหร่กันที่ฉันจะได้มีโอกาสจูบแบรด พิตต์ ฉันเลยทำไปแบบนั้น” พร้อมเสริมว่า “ก็ได้ฟ้องฉันเลย โอกาสแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นอีกแน่” ซึ่ง Damien Chazelle ผู้กำกับก็เห็นดีเห็นงามว่าเหมาะกับตัวละคร ซึ่งนั่นทำให้ความคิดของเธอและเดเมียนสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน สรุปผลลัพธ์คือเธอได้จูบกับแบรดสมใจ

Margot Robbie กับแฟชั่นย้อนยุคในแบบภาพยนตร์เรื่อง Babylon / ภาพ: Lachlan Bailey

     ต้องบอกว่าฉากนี้เป็นฉากที่ทำให้ผู้กำกับพอใจเป็นอย่างมาก เพราะเดเมียนมองว่าเรื่องการด้นสดของมาร์โกทำให้เรื่องราวของภาพยนตร์ดำเนินไปได้อย่างสมบูรณ์แบบมากจนทำเขาอยากให้เธอเล่นฉากนี้ซ้ำอีก ซึ่งเธอเผยว่า “เขา(เดเมียน) อยากให้เล่นฉากนี้อีกครั้ง มันเวิร์กจริงๆ ฉันก็แบบ ‘ยอดเยี่ยมจริงๆ’” เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นไวรัลในชั่วข้ามคืนและยังคงได้รับการพูดถึงอยู่จนถึงตอนนี้ มาร์โกพูดออกมาเชิงติดตลกและทำให้ทุกคนยิ้มหัวเราะกับมุกขำขันที่เธอต้องการจะจูบดาราชายระดับไอคอนิกของวงการ และเป็นที่ใฝ่ฝันของสาวทั่วโลกมานานนับทศวรรษ ทว่าในอีกมุมหนึ่งถ้าเล่ากลับเพศกันมันยังจะกลายเป็นเรื่องราวชวนอมยิ้มแบบนี้ไหม นี่คือคำถามสำคัญ

Brad Pitt กับลุคสไตล์ย้อนยุคจากภาพยนตร์เรื่อง Babylon / ภาพ: IMDb

     แน่นอนการว่าการเล่าเชิงตลกพร้อมเหตุผลสนับสนุนเรื่องความสมบูรณ์แบบของบทบาทช่วยทำให้เรื่องนี้อ่อนโยนลงไปอย่างชัดเจน แต่ในอีกมุมหนึ่งนักแสดงหญิงคนหนึ่งต้องการจูบกับดาราชายที่ใฝ่ฝัน หากกลับเพศกันเป็นผู้ชายอยากจูบและขโมยจูบจากฝ่ายหญิงบ้างสังคมจะพูดถึงเรื่องนี้ว่าเป็นการล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่ บางครั้งกรอบการมองเรื่องนี้ไม่ได้มีขอบเขตหรือมาตรฐานชัดเจน ทุกคนล้วนถือไม้บรรทัดของตัวเองไว้ใช้ตัดสิน แท้จริงแล้วตราบใดที่ทั้งคู่พอใจและยินยอมกับเรื่องนี้ที่เกิดขึ้นเรื่องนี้อาจจะยอมรับได้ แบรดเองก็ไม่ได้ออกมาพูดให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ หรือถ้าออกมาพูดด้วยความตลกขบขันก็จบข้อสงสัยนี้ไปโดยปริยาย

     ในขณะเดียวกันหากเรื่องนี้เกิดขึ้นโดยฝ่ายชายบางครั้งกระแสอาจจะไม่ได้เป็นไวรัลเชิงบวกเช่นนี้ เพราะปัจจุบันการล่วงละเมิดทางเพศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมบันเทิงระดับโลกเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เดิมทีมีการฉกฉวยโอกาสกันบ่อยครั้ง จนพักหลังเริ่มมีการเปิดเผยความน่ากลัวแบบนี้มากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเรื่องนี้เราคงต้องหาคำตอบกันต่อไปว่าทำไมเมื่อฝ่ายหญิงออกมาเปิดเผยเรื่องนี้อย่างไม่ปิดกั้นถึงกลายเป็นไวรัลเรียกรอยยิ้มได้ แต่สำหรับผู้ชายเป็นเรื่องอันตรายที่จะถูกผูกโยงเข้ากับประเด็นการล่วงละเมิดทางเพศอย่างปฏิเสธไม่ได้ คำถามสุดท้ายคืออคติทางเพศมีผลต่อการตัดสินเหตุการณ์เหล่านี้หรือไม่ และการสร้างบรรทัดฐานการตัดสินโดยสังคมแบบผันเปลี่ยนไปมาตามความรู้สึกสามารถตั้งกฎเกณฑ์เรื่องการล่วงละเมิดทางเพศได้จริงหรือ ในท้ายที่สุดทุกคนคงต้องตอบคำถามกับตัวเองว่าเรื่องนี้เป็นการล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่เพราะอะไร นอกจากนี้ยังต้องถามต่อว่าหากเราจะถือไม้บรรทัดตัดสินเรื่องราวจริงๆ องค์ประกอบใดบ้างที่จะช่วยให้เราตัดสินเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านี้ได้อย่างดีที่สุด หรือเราไม่ควรตัดสินใจอะไรเลยจนกว่าจะได้รับสารครบทุกช่องทางจากทุกฝ่ายอย่างสมบูรณ์