
LIFESTYLE
ลิซ่า-ลลิษา ในฐานะบทบาท 'นักแสดง' กับซีรี่ส์เรื่องแรกของเธอใน 'The White Lotus Season 3'ลิซ่าพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เธอสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของอุตสาหกรรมดนตรีและแฟชั่น สู่การเป็นบุคคลสำคัญในวงการบันเทิงระดับโลกได้อย่างแท้จริง |
ปีนี้และปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ 'ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล' ศิลปินชาวไทยชื่อดัง ได้เผยผลงานและกลายเป็นที่จับตามองของอุตสาหกรรมบันเทิงระดับโลกมากขึ้น ไม่เพียงแค่ในบทบาทศิลปินเคป๊อปและศิลปินเดี่ยว แต่ยังขยายขอบเขตความสามารถไปสู่การแสดงในซีรี่ส์ระดับนานาชาติ "The White Lotus" ที่ได้เริ่มเข้าฉายในสตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม HBO Max วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025
บทบาท: นักร้องและนักเต้น
เป็นที่ทราบกันดีว่าลิซ่าเริ่มต้นและเป็นที่รู้จักในฐานะศิลปินเคป๊อปวง BLACKPINK และได้ก้าวเข้าสู่การเป็นศิลปินเดี่ยวแบบเต็มตัว และยังพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเธอในฐานะศิลปินเดี่ยวเมื่อเธอได้ขึ้นแสดงสดเปิดโชว์ Victoria’s Secret ประจำปี 2024 ที่ทำให้เธอมีแฟนคลับทั่วโลกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะครั้งนี้กับเป็นการกลับมาจัดโชว์ครั้งยิ่งใหญ่ในรอบ 6 ปีของแบรนด์ ซึ่งนับว่าห่างหายและเป็นแฟชั่นโชว์ที่รอคอยมากที่สุด
บทบาท: นางแบบ
ลิซ่าได้ถูกตอกย้ำถึงการเป็นที่ยอมรับและโด่งดังมากยิ่งขึ้นในฝั่งตะวันตก ด้วยการขึ้นปกนิตยสารร่วมเฟรมกับศิลปินฮอลลีวู้ดระดับท็อปของวงการ 11 คน อาทิ Zendaya, Nicole Kidman, Sydney Sweeney, Josh O’Connor และอีกมากมายที่คาดว่าศิลปินบนปกเหล่านี้จะกลายเป็นผู้ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในปี 2025 และลิซ่ายังขึ้นแท่นเป็นคัฟเวอร์เกิร์ลแห่งปีด้วยการเป็นนางแบบขึ้นปกนิตยสารชั้นนำระดับโลกทั้งใการขึ้นปก Vogue Japan, Vogue Korea และ Vogue Thailand ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นการการันตีแล้วว่าลิซ่าคือบุคคลที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดจนนำมาสู่การเฉลิมฉลองความสำเร็จของเธอผ่านแฟชั่นเซ็ตของวัฒนธรรมในแต่ละประเทศที่รังสรรค์ขึ้นแตกต่างกันไป แต่ยังคงคาเร็กเตอร์ของเธอไว้อย่างเข้มข้นเป็นผลงานที่ทำให้เธอได้แสดงถึงความสามารถในการเป็นนางแบบ พร้อมแสดงออกถึงอิทธิพลของเธอที่ในปี 2025 และไม่ว่าเธอจะปรากฏในงานใด ด้วยท่วงท่าและเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ทำให้เธอเป็นที่จับตามองของผู้คนได้เสมอ อย่างช่วงโปรโมตซีรี่ส์ที่เธอแสดงเป็นเรื่องแรกใน The White Lotus เธอก็มักจะนำเสนอความเป็นไทย โดยใส่ใจใส่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทั้งชุดเดรสและเครื่องประดับที่สะท้อนถึงความเป็นไทยอย่างดอกบัวสีขาวงานสั่งทำพิเศษของแบรนด์ SARRAN ที่ลิซ่าในงานรอบปฐมทัศน์ ณ เมืองลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา และดอกมะลิจำนวน 2,000 ดอกที่ทุกดอกมีรูปแบบ โทนสีที่แตกต่างกันประดับบนเดรสเกาะอก ในชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ที่รังสรรค์โดย SARRAN อีกเช่นเคย โดยความเชื่อว่าการร้อยพวงมาลัยมะลิเสมือนการกล่าวต้อนรับการกลับบ้าน และการกล่าวถึงพลังของผู้หญิงไทย ที่ลิซ่าสามารถถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้มาได้อย่างสมบูรณ์แบบเสมอมา
บทบาท: แบรนด์แอมบาสเดอร์
ลิซ่าไม่ได้เป็นเพียงศิลปินที่ได้รับการยอมรับในวงการดนตรีระดับโลกเท่านั้น แต่เธอยังเป็น ไอคอนแห่งวงการแฟชั่น ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในยุคนี้ ด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์และพลังในการถ่ายทอดเสน่ห์ของแบรนด์ให้โดดเด่น ทำให้เธอได้รับเลือกเป็น แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Bvlgari และ Louis Vuitton ซึ่งเป็นสองแบรนด์แฟชั่นและจิวเวลรีระดับไฮเอนด์ที่ทรงอิทธิพลระดับโลก โดย บุลการีแบรนด์จิวเวลรีชั้นสูงจากอิตาลี ได้ประกาศแต่งตั้ง ลิซ่าเป็น Global Brand Ambassador ตั้งแต่ปี 2020 และเธอได้กลายเป็นตัวแทนของความหรูหราและทันสมัยของแบรนด์อย่างสมบูรณ์แบบ ลิซ่ามักปรากฏตัวพร้อมกับ Bvlgari Serpenti คอลเล็กชั่นเครื่องประดับที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ โดยเฉพาะนาฬิกาและสร้อยคอประดับเพชรที่สะท้อนถึงความสง่างามและพลังของผู้หญิงยุคใหม่ นอกจากนี้เธอยังมีส่วนร่วมในการเปิดตัวแคมเปญระดับโลกของแบรนด์ เช่น Bvlgari Magnifica และ B.zero1 ซึ่งทำให้บุลการีเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ได้มากขึ้น รวมถึงร่วมงานอีเวนต์ที่เป็นโมเมนต์สำคัญของแบรนด์
Louis Vuitton แบรนด์แฟชั่นระดับโลกจากฝรั่งเศส ได้แต่งตั้งลิซ่าเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกในปี 2023 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของเธอในวงการแฟชั่นระดับโลก โดยลิซ่ายังได้ร่วมงานกับ Nicolas Ghesquière ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของหลุยส์ วิตตองในการโปรโมตคอลเล็กชั่นใหม่ๆ และเธอยังเป็นหนึ่งในบุคคลที่ช่วยทำให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภครุ่นใหม่ทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มคนแฟชั่นในเอเชีย สิ่งเหล่านี้ที่ทำให้ลิซ่าเป็นที่ต้องการของแบรนด์ระดับโลก ไม่ใช่เพียงเพราะชื่อเสียงของเธอเท่านั้น แต่เป็นเพราะ เสน่ห์และเอกลักษณ์ของเธอที่สามารถผสมผสานความหรูหรา คลาสสิก และความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างลงตัว
บทบาท: นักแสดง
การเป็นนักแสดง เป็นอีกศาสตร์หนึ่งของศิลปะเช่นกัน แต่ก็ฟังดูจะไม่ใช่เรื่ิองง่ายนักแม้ว่าลิซ่าจะเคยผ่านบทบาทของนักร้อง นักเต้น นางแบบมาแล้ว แต่การแสดงยังคงเป็นอีกศาสตร์ที่ลึกซึ้งอย่างมาก แต่ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจของเธอแล้วเชื่อว่าเธอจะทำออกมาได้ดีอย่างแน่นอน ถือเป็นอีกบทบาทของเธอ ที่ท้าทายและน่าติดตามในเส้นทางอาชีพศิลปิน พิสูจน์ว่าเธอมีความสามารถอีกหลากหลายด้านที่เธอจะได้เผยแพร่ให้ทุกคนได้เห็นลิซ่าในซีรี่ส์ The White Lotus ซีซั่นที่ 3 ผลงานของผู้กำกับ Mike White โดยลิซ่ารับบทเป็น 'มุก' พนักงานในโรงแรม The White Lotus พร้อมทัพนักแสดงไทยผู้คร่ำหวอดในวงการบันเทิงไทยอย่าง ครูเล็ก-ภัทราวดี ที่รับบทเป็นหนึ่งในเจ้าของโรงแรมแห่งนี้, ดอม เหตระกูล ซึ่งก็ดูเหมือนว่าการแสดงของเธอจะไม่ทำให้ผู้กำกับต้องผิดหวังเมื่อ Mike White ได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้กับสื่อ TIME ถึงการคัดเลือกลิซ่ามาเป็นนักแสดงว่า “บอกตามตรงนะ ผมค่อนข้างจะต่อต้าน เพราะผมไม่คิดว่าเราจำเป็นต้องได้รับความสนใจในซีรี่ส์ไปมากกว่านี้ แต่ลิซ่ากลับทำการออดิชั่นของเธอออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จนทำให้ผมคิดว่าเธอเป็นนักแสดงที่ดีได้ ผมมีความสุขอย่างมากที่เราคัดเลือกลิซ่ามาร่วมงาน เพราะลิซ่าเป็นความภาคภูมิใจที่แท้จริงสําหรับคนไทย ลิซ่าเหมือนเป็นซูเปอร์สตาร์และเป็นเจ้าหญิงไดอาน่าด้วย” แม้ว่าแฟนๆ และผู้ชมจะมองว่าการแสดงเป็นสิ่งใหม่ของลิซ่า แต่ในการสัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟท่ี่โว้กประเทศไทยได้พูดคุยกับลิซ่า เธอได้บอกถึงความคล้ายคลึงของการเป็นนักแสดงและศิลปินที่เธอยังใช้ทักษะความสามารถการแสดงออกของสีหน้าและสีหน้าแววตาที่เธอฝึกฝนมาจากการเป็นศิลปินนักร้องมาใช้ในงานแสดงได้เช่นเดียวกัน ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจและตื่นเต้นในผลงานนี้ในเวลาเดียวกัน
ไม่ว่าลิซ่าจะอยู่ในบทบาทของศิลปิน นักเต้น นางแบบ แบรนด์แอมบาสเดอร์ หรือแม้กระทั่งนักแสดง เธอได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถอันหลากหลายของเธอที่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลกที่พร้อมจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในงานแสดงเรื่องต่อๆ ไป และในวงการบันเทิงระดับนานาชาติ
View this post on Instagram
รูปภาพ : Courtesy of LLOUD, Getty Images / Emma Mclntyre, MAX
WATCH