Lisa Blackpink
LIFESTYLE

จากเด็กหญิง 'ป๊อกแป๊ก' สู่ 'ลิซ่า BLACKPINK' หนทางที่ต้องฝ่าฟันสู่รางวัลระดับโลกบนเวที MTV

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ ลิซ่า BLACKPINK จะไปถึงจุดนั้น และก็เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ประเทศไทยปล่อยให้พลเมืองที่มีความสามารถขนาดนี้หลุดลอยไป #LALISA #BLACKPINK

     นับเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญอีกครั้งของวงการ K-Pop เมื่อ YG Entertainment ได้ส่ง 4 สาววง BLACKPINK ให้ไปขึ้นแสดงโชว์บนเวทีงานประกาศรางวัลสุดยิ่งใหญ่อย่าง MTV Video Music Awards 2022 พร้อมคว้ารางวัลติดมือมาได้สำเร็จ โดยหนึ่งในสมาชิกวงอย่าง ‘ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล’ ยังได้สร้างปรากฏการณ์ให้กลายเป็นที่พูดถึง กับความสำเร็จครั้งสำคัญของเธอ ที่สามารถชนะรางวัลในสาขา Best K-Pop จากผลงานเพลง LALISA ท่ามกลางรายชื่อกลุ่มศิลปินผู้เข้าชิงสุดหินมาได้สำเร็จ ซึ่งนับเป็นศิลปินเดี่ยวหญิงคนแรกจากวงการเคป็อปที่สามารถทำได้ สร้างความดีใจให้กับเหล่าแฟนคลับ เพื่อนร่วมวง และยืนยันความแข็งแกร่งของกระแส K-Pop Power ได้อย่างดี

     (ตามไปอ่านเรื่องราวอื่นๆ เกี่ยวกับ BLACKPINK ได้ที่ https://www.vogue.co.th/lifestyle/article/blackpink-asian-power-at-mtv-video-music-awards-2022)

     กระนั้น กว่าที่สาวลิซ่าจะมายืนในจุดนี้ เธอยังต้องฝ่าฟันอุปสรรค และบททดสอบนับไม่ถ้วน ซึ่งเธอต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอเพื่อให้เป็นศิลปินที่สมบูรณ์แบบที่สุดเมื่อเข้าเส้นชัย

Lisa Blackpink

     ลิซ่า BLACKPINK คือเด็กสาวที่เกิดและเติบโตในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยใช้ชื่อเดิมที่หลายคนอาจไม่คุ้นหูว่า ‘ปราณปรียา’ พร้อมชื่อเล่นดั้งเดิมของเธอ ที่เคยกลายเป็นไวรัลบนโลกโซเชียลมีเดียอยู่ช่วงหนึ่งว่า ‘ป๊อกแป๊ก’ ก่อนเปลี่ยนเป็น ‘ลลิซ’ ในเวลาต่อมา หากจะพูดว่าลิซ่าคือเด็กที่คลุกคลีอยู่กับสายทางดนตรี การเต้น และงานเอ็นเตอร์เทนเมนต์มาตั้งแต่ไหนแต่ไรก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะเมื่อลิซ่าอายุได้ 4 ปี ลิซ่าก็เริ่มฝึกเต้นและร่วมลงแข่งขันในโครงการ To Be Number One และอีกมากมาย ซึ่งเป็นดั่งประตูนำทางที่ทำให้ลิซ่าได้ฝึกฝนตัวเองอยู่เรื่อยๆ ก่อนที่ในปี 2010 ชีวิตของเด็กผู้หญิงที่ชื่อลิซ่าจะเปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อค่าย YG Entertainment จากประเทศเกาหลีใต้ ได้บินลัดฟ้ามาเปิดออดิชั่นที่เมืองไทยเพื่อเฟ้นหาศิลปินฝึกหัดของค่าย และด้วยความชื่นชอบในอุตสาหกรรมเพลงเคป็อปเป็นทุนเดิมอยู่แล้วของลิซ่า จึงทำให้เธอตัดสินใจร่วมออดิชั่นในครั้งนั้นด้วยความมั่นใจ สร้างความประทับใจให้กับคณะกรรมการอย่างมาก และผ่านการคัดเลือกเข้าเป็นศิลปินฝึกหัดของ YG Entertainment ในเวลาต่อมา

Lisa Blackpink

     ผ่านเวลาไปเกือบ 2 ปี ในฐานะของศิลปินฝึกหัดของค่ายดัง ที่ต้องอดทนเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ อยู่เสมอ จนกระทั่งในช่วงปี 2012 ที่ค่าย YG Entertainment ได้เผยแพร่คลิปเต้นของลิซ่าลงบน Youtube ในชื่อ ‘WHO'S THAT GIRL???’ ซึ่งสามารถเรียกความสนใจจากเหล่าสาวกเคป็อปได้อย่างมากทีเดียว หลังจากนั้นลิซ่าก็ปรากฏตัวอยู่ในมิวสิกวิดีโอของศิลปินชื่อดัง และเริ่มปรากฏตัวในสื่อสาธารณะมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเวลาในการเป็นศิลปินฝึกหัดผ่านไปถึง 5 ปี ฝันของลิซ่าก็กลายเป็นจริง เมื่อเธอได้เดบิวต์ในฐานะของสมาชิกวง BLACKPINK ร่วมกับเพื่อนๆ ร่วมค่ายอีกสามคนนั่นคือ เจนนี่, โรเซ่ และจีซู พร้อมเปิดตัวด้วยเพลง ‘Whistle’ ที่สร้างปรากฏการณ์ All Kill ทันทีบนชาร์ตเพลงทุกชาร์ตในประเทศเกาหลีใต้ และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นของ 4 สาวมหัศจรรย์แห่งวง BLACKPINK จนถึงตอนนี้ที่พวกเธอได้กลายเป็นศิลปินระดับสากลไปแล้วจริงๆ

 

     สำหรับ ลิซ่า BLACKPINK นั้นคือสมาชิกลำดับที่ 3 ของวงที่ได้เดบิวต์ซิงเกิ้ลอัลบั้มในชื่อ LALISA ที่ไม่เพียงสร้างปรากฏการณ์ในวงการเพลงเกาหลีใต้เท่านั้น หากยังเปิดตัวบนชาร์ตของ Billboard 200 ในอันดับที่สองอีกด้วย การันตีความดังและกระแสนิยมในตัวของเธอ ที่สามารถหว่านเสน่ห์ และแสดงความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาคนทั่วโลกให้หลงรักในตัวเธอได้อย่างอยู่หมัด ทั้งหมดนั้นคือเส้นทางความสำเร็จของ ลิซ่า BLACKPINK ที่ต้องใช้ความพยายาม และฝ่าฟันอะไรหลายอย่าง สู้พิสูจน์ความสามารถจนไปได้ไกลถึงระดับโลกเช่นนี้

     ไม่เพียงแค่ประสบความสำเร็จในสนามของการเป็นศิลปินในอุตสาหกรรมเพลงเกาหลีใต้เท่านั้น หากลิซ่ายังประสบความสำเร็จอย่างถึงที่สุดในจักรวาลแฟชั่นและจิวเวลรีระดับโลก ในฐานะของแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของแบรนด์แฟชั่นระดับโลกของแบรนด์ CELINE และ BVLGARI ซึ่งทุกครั้งที่เธอปรากฏตัวในแฟชั่นแคมเปญของทั้งสองแบรนด์ ก็สามารถสร้างปรากฏการณ์ได้ทุกครั้ง ดังเช่นเมื่อครั้งที่ลิซ่าได้รับเชิญให้ไปเดินแบบบนรันเวย์เสมือนจริงของแบรนด์ CELINE ที่กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก อีกทั้งแฟชั่นไอเท็มที่เธอใช้ยังขายหมดแบบไม่ต้องโปรโมตให้ยุ่งยากอีกด้วย



WATCH




Lisa Blackpink won MTV Video Music Awards 2022

     อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงมีเรื่องที่ผู้เขียนรู้สึกอดสูจากเรื่องราวทั้งหมดที่ได้เล่ามาข้างต้น เมื่อหันกลับมามองที่ประเทศของตัวเองแล้ว ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยแม้แต่คำเดียวว่า หากวันนั้นลิซ่าไม่ตัดสินใจพาตัวเองไปออดิชั่นกับค่ายของ YG Entertainment และปล่อยโอกาสทองให้หลุดลอยไป ป่านนี้ลิซ่าก็อาจจะเป็นแค่ศิลปินคนหนึ่งที่มีความสามารถอย่างเปี่ยมล้น แต่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเท่าที่ควร และก็ยิ่งน่าเศร้าขึ้นไปอีกเมื่อผู้เขียนได้หันมองไปรอบตัวแล้วพบว่า รัฐบาลไทยในยุคนี้ไม่เคยให้การสนับสนุน หรือผลักดันสิ่งที่เรียกว่า Soft Power ได้เท่าที่ควร ปล่อยให้บุคลากรมากความสามารถหลุดลอยไปเติบโตในต่างแดน ได้รับน้ำ ปุ๋ย และดินที่ดีในพื้นที่อื่นที่ไม่ใช่แผ่นดินนี้ และนั่นเองคือผลลัพธ์ที่ทำให้เราไม่อาจเคลมได้ว่า 'ลิซ่า BLACKPINK' หรือศิลปินสัญชาติไทยคนอื่นๆ ที่ไปเติบโตในวงการระดับนานาชาติได้ว่า ‘พวกเขาคือความสำเร็จของคนไทย’ เพราะคุณไม่เคยให้ น้ำ ปุ๋ย หรือดินที่ดีกับพวกเขาเลยแม้แต่สักนิดเดียว นั่นแหละคือเรื่องที่น่าเศร้าที่สุด

ข้อมูล : Wikipedia-ลิซ่า ลลิษ มโนบาล

WATCH