ยังคงเป็นที่พูดถึง สำหรับนัดชิงแชมป์ฟุตบอลโลก FIFA World Cup Qatar 2022 ระหว่างอาร์เจนติน่าและประเทศฝรั่งเศสที่เพิ่งจบลงไปเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย พร้อมด้วยชัยชนะของทีมฟ้าขาวแห่งประเทศอาร์เจนติน่า ด้วยการดวลจุดโทษที่คะแนน 4-2 หลังเสมอกันในเวลา 120 นาที ด้วยคะแนน 3-3 ทำให้อาร์เจนติน่าสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 3 ได้สำเร็จ หลังจากที่ได้แชมป์ครั้งล่าสุดเมื่อปี 1986 ซึ่งไฮไลต์สำคัญในนัดชิงแชมป์ครั้งนี้ก็เห็นจะหนีไม่พ้นดาวเด่นของสนามอย่าง Lionel Messi นักเตะแข้งทองที่สร้างตำนานไว้มากมายให้กับวงการฟุตบอลระดับโลก โดยในครั้งนี้เขายังสามารถทำประตูให้กับอาร์เจนติน่าจนคว้าชัยชนะมาครองได้สำเร็จ ก่อนบอกลาฟุตบอลโลกอย่างเป็นทางการ

     หนึ่งในโมเมนต์สำคัญที่เมสซี่เฝ้ารอมาทั้งชีวิตก็เห็นจะหนีไม่พ้นการขึ้นไปรับถ้วยรางวัลเกียรติยศฟุตบอลโลก ซึ่งปีนี้ก็นับเป็นปีที่ 4 แล้วที่แบรนด์แฟชั่นระดับตำนานอย่าง Louis Vuitton มีส่วนร่วมในการออกแบบ Trunk ใส่ถ้วยรางวัลดังกล่าว ทว่าได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันระหว่างที่เมสซี่กำลังจะขึ้นไปรับรางวัล และทำให้โลกโซเชียลมีเดียต่างตั้งคำถามก็คือ...

     ทีมงานของประเทศเจ้าภาพผู้จัดการแข่งขันในปีนี้อย่างกาตาร์ ได้บังคับให้เมสซี่สวมเสื้อคลุมอาหรับเพื่อขึ้นไปรับรางวัลดังกล่าว สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกเป็นสองขั้วชัดเจน ในทางหนึ่งมองว่าเป็นการโฆษณาแฝงทางวัฒนธรรมของประเทศกาตาร์ ที่ต้องการให้ผู้คนรับรู้และได้ชื่นชมชุดคลุมอาหรับอันเป็นเครื่องแต่งกายสำคัญของชาติชุดนั้น นับเป็นการหาผลประโยชน์จากการรับจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในอีกทางหนึ่ง

     ทว่าบางคอมเมนต์ในโลกทวิตเตอร์ยังคงถกเถียงต่อไปว่า “เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เนื่งจากโมเมนต์ที่เมสซี่ขึ้นไปรับรางวัลนั้น ควรเป็นโมเมนต์แห่งการเฉลิมฉลองของประเทศผู้ชนะ ไม่ใช่โมเมนต์ของเจ้าภาพแต่อย่างใด” อีกทั้งยังทวีความไม่พอใจให้กับเหล่าแฟนบอลเข้าไปอีก เมื่อมีหลายคนจุดประเด็นว่าชุดคลุมสีดำซีทรูดังกล่าวนั้นได้ไปบดบังเครื่องแบบนักกีฬาอาร์เจนติน่า และหมายเลขบนตัวนักกีฬา จนอาจเรียกได้ว่านี่คือการไม่ให้เกียรติกันเท่าที่ควร

     แล้วผู้อ่านล่ะ...คิดว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องที่ควรทำหรือไม่ แล้วถ้าประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันบอลโลกขึ้นมาจริงๆ เราจะสามารถฉกฉวยผลประโยชน์จากพื้นที่สื่อนี้อย่างไรดี