'กรุงเทพ กลางแปลง' พาหนังรัก LGBTQ+ ขึ้นหิ้ง 'รักแห่งสยาม' กลับมาฉายอีกครั้งกลางสยามแสควร์

     นอกจากโครงการกิจกรรมดนตรีในสวนของกรุงเทพมหานครที่กลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วในช่วงนี้แล้วนั้น อีกหนึ่งกิจกรรมที่นับว่าเป็นไฮไลต์สำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้าในหลายเขตของกรุงเทพมหานครก็เห็นจะหนีไม่พ้นกิจกรรมเทศกาลภาพยนตร์ ‘กรุงเทพ กลางแปลง’ ที่เพิ่งมีการแถลงข่าวไปเมื่อไม่นานมานี้ โดย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยเหล่าภาคีเครือข่าย โดยเทศกาลฉายหนังกลางแปลงดังกล่าวจะเกิดขึ้นใน 10 สถานที่ทั่วกรุงเทพมหานคร ตลอดทั้งเดือนกรกฎาคม 2565 นี้

     กระนั้นไฮไลต์สำคัญที่ทำเอาชาวกรุงเทพมหานคร และคอหนังหลายคนนั่งไม่ติดเก้าอี้ก็คือ ลิสต์ภาพยนตร์ทั้ง 25 เรื่องที่ถูกแบ่งฉายตามเขตต่างๆ ได้แก่ 2499 อันธพาลครองเมือง, รถไฟฟ้ามาหานะเธอ, เวลาในขวดแก้ว, 36, แพรดำ, แม่นาคพระโขนง, RRR, 4Kings, มนต์รักทรานซิสเตอร์, Portrait of a Lady on Fire, บุญชูน่ารัก, One for the Road วันสุดท้ายก่อนบายเธอ, หมานคร, Fast and Furious, อนธการ, ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ, Wheel of Fortune and Fantasy, เพื่อนสนิท, รักแห่งสยาม, คู่กรรม, Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย, พี่นาค, สยามสแควร์, มือปืน, School Town King แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน และ One for the Road วันสุดท้ายก่อนบายเธอ ซึ่งกำลังได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามในโลกโซเชียลมีเดียขณะนี้ว่า “มีรสนิยมไม่แพ้ภาพยนตร์ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ดังๆ” อีกทั้งเมื่อได้มานั่งพิจารณารายชื่อของภาพยนตร์เหล่านี้แล้ว เราจะได้เห็นถึงการวางแผนของทีมงานเบื้องหลังที่ตั้งใจคัดสรรภาพยนตร์แต่ละเรื่องมาฉาย ไม่ใช่ความบังเอิญแต่อย่างใด และยังสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลาย ที่เราจะได้เห็ฯภาพยนตร์หลายประเภททั้งภาพยนตร์เก่ากรุของไทย, ภาพยนตร์ใหม่สัญชาติไทย, ภาพยนตร์จากต่างประเทศ ลากยาวไปจนถึงภาพยนตร์ LGBTQ+ ที่รวมอยู่ในลิสต์นี้ด้วย

     ทว่าสิ่งที่หลายคนต่างตั้งตารอ และเป็นกระแสให้ได้พูดถึงตั้งแต่เห็นกำหนดการฉายคงต้องยกให้กับภาพยนตร์ LGBTQ+ แนว Coming of Age ขึ้นหิ้งอย่าง ‘รักแห่งสยาม’ โดยฝีมือการกำกับของ มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ซึ่งจะถูกฉายในรอบวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 ณ สยามแสควร์ สถานที่เดียวกันกับสถานที่อันเป็นฉากหลังของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ซึ่งต้องยกให้ว่าเป็นความชาญฉลาดของทีมผู้จัดงานที่เชื่อมโยงชีวิตจริงและภาพยนตร์เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างแยบยลและน่าสนใจ

     ท่ามกลางบรรยากาศของสยามแสควร์ในปี 2022 ซึ่งบัดนี้เปลี่ยนไปจากเดิมจนมิอาจจำภาพเดิมที่เคยเป็นเมือเกือบ 20 ปีก่อนได้แล้วนั้น ภาพยนตร์เรื่องรักแห่งสยามนี้เองที่ทำหน้าที่พาทุกคนย้อนกลับไปสัมผัสบรรยากาศความอบอุ่นนั้นอีกครั้ง ในยุคที่สยามสแควร์ยังแน่นขนัดไปด้วยเหล่านักเรียนกางเกงน้ำเงิน, ร้านแผ่นเสียงและเทปเพลงที่แทบหาไม่ได้แล้วในตอนนี้, อากาศหนาวใจกลางกรุงเทพมหานคร และความทรงจำเกี่ยวกับความรักครั้งแรกของใครหลายคนที่เคยเกิดขึ้น และจบลงที่นี่ ทั้งหมดนั้นคือเหตุผลที่คุณไม่ควรพลาด

     อย่างไรก็ตาม นอกเสียจากภาพยนตร์เรื่องรักแห่งสยามแล้ว ยังมีภาพยนตร์น้ำดีอีกหลายเรื่องที่ทุกคนไม่ควรพลาดชม ไม่ว่าจะเป็น อนธการ ภาพยนตร์แนวลึกลับกับความสัมพันธ์ชายรักชาย โดยฝีมือการกำกับของผู้กำกับมือฉมังอย่าง นุชชี่-อนุชา บุญวรรธนะ หรือจะเป็น หมานคร ภาพยนตร์โรแมนติก-เมจิคัลเรียลิสม์ โดย วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการภาพยนตร์ไทยมาแล้วในปี 2547 หรือจะเป็น เวลาในขวดแก้ว ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายไทยชื่อดังของนักเขียน ประภัสสร เสวิกุล ที่ออกฉายในปี 2534 กระทั่งภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดบรรยากาศบ้านนอกได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดเรื่องหนึ่งของวงการภาพยนตร์ไทยอย่าง มนต์รักทรานซิสเตอร์ ของผู้กำกับ เป็นเอก รัตนเรือง ก็อยู่ในลิสต์ของเทศกาลฉายภาพยนตร์ ‘กรุงเทพ กลางแปลง’ ด้วยเช่นกัน

     กิจกรรม ‘กรุงเทพ กลางแปลง’ นั้นเกิดขึ้นด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการฟื้นคืนความคึกคักให้กับเมืองกรุงเทพมหานครอีกครั้ง และยังต้องการเป็นหนึ่งในโครงการที่ต้องการสนับสนุนอุตสาหกรรมจอเงินของประเทศไทยอีกด้วย และงานนี้ผู้ชมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น