'จอนจงซอ' กับข้อพิสูจน์ในบทโตเกียวใน Money Heist: Korea จุดชะงักทางอาชีพที่ต้องผ่านไปให้ได้
การขึ้นชื่อว่าเป็นนักแสดงน้ำดีจากผลงานที่ผ่านๆ มายิ่งทำให้คนคาดหวังกับบทบาทสำคัญในซีรี่ส์เรื่องล่าสุด ซึ่งกลายเป็นเรื่องที่ทำให้อาชีพของเธอมีรอยมลทินด่างพร้อยจากคำวิจารณ์องค์รวม
ความหมายของคำว่าขึ้นที่สูงและตกอยู่ในสภาวะอ้างว้างอาจใช้ได้กับหลายสถานการณ์ เฉกเช่นนักแสดงที่ขึ้นแท่นอยู่ในระดับแถวหน้าของวงการ ต้องบอกว่าจอนจงซอกำลังดำเนินชีวิตนักแสดงขาขึ้นอย่างเต็มที่หลังจากผ่านงานภาพยนตร์เรื่อง Burning และ The Call มาในปี 2018 และ 2020 ตามลำดับ ซึ่งเรื่องแรกพาให้เธอขึ้นแท่นเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งในอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลี พ่วงมาด้วยดีกรีผู้เข้าชิงรางวัลมากมายในปีดังกล่าว สร้างชื่อให้เธออย่างมาก และแน่นอนว่าต้องถูกคาดหวังไว้ว่าจะเป็นดาวจรัสแสงของวงการดวงต่อไป
ต่อมาในปี 2020 ดูเหมือนจอนจงซอกำลังไปได้สวยอย่างมาก เนื่องจากภาพยนตร์ The Call มีกระแสตอบรับไปในเชิงบวก จากเด็กที่ย้ายถิ่นฐานไปอยู่แคนาดา กลับมาศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในสาขาภาพยนตร์ และลาออกมามุ่งมั่นในเส้นทางนักแสดงเต็มตัว สุดท้ายก็เห็นผล ภาพยนตร์เรื่อง The Call ทำให้เธอได้รางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากเวทีภายในประเทศ มากไปกว่านั้นยังได้รับคำชื่นชมว่าสามารถถ่ายทอดเรื่องราวความระทึกขวัญออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกเหนือจากเรื่องการแสดงแล้ว ปลายปี 2021 ยังมีข่าวยืนยันเธอพบรักกับผู้กำกับอีชุงฮยอนด้วย นับเป็นชีวิตของเธอในฐานะนักแสดงกำลังไปได้สวยควบคู่ไปกับชีวิตส่วนตัวเลยทีเดียว
ก้าวข้ามมาถึงปี 2022 ดูเหมือนทุกอย่างจะปูทางมาให้จอนจงซอพุ่งทะยานขึ้นสู่ทำเนียบดาราแถวหน้าของวงการได้ไม่ยาก เพราะโปรเจกต์ซีรี่ส์รีเมกเรื่อง Money Heist: Korea มีคอซีรี่ส์ที่อยากสานต่อความสนุกจากเวอร์ชั่นสเปนรอชมกันเพียบ นับเป็นโอกาสดีที่เธอไม่เพียงโด่งดังในประเทศและละแวกทวีปเอเชียเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสจะสร้างความประทับใจให้กับแฟนเน็ตฟลิกซ์ทั่วโลก ดังนั้นสิ่งนี้มาพร้อมกับความคาดหวังระดับ 10 เต็ม 10 เพราะตัวละครหลักอย่าง “โตเกียว” ที่ Úrsula Corberó ทำไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมกำลังจะเป็นโจทย์สำคัญที่เธอต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ในที่สุด หากทำได้รับรองว่าชื่อจอนจงซออาจกลายเป็นชื่อดาราเกาหลีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอีกหนึ่งคน
ความจริงคืบคลานเข้ามาในวันที่ Money Heist: Korea เข้าฉายวันแรก ทุกคนเฝ้ารอว่าโตเกียวเวอร์ชั่นเกาหลีจะนำเสนอความจัดจ้านได้แบบที่นักแสดงสาวสุดเร่าร้อนชาวสเปนเคยฝากความทรงจำไว้ไหม และแน่นอนว่าความทรงจำเกี่ยวกับตัวละครนี้ยังฝังลึกในจิตใจผู้ชมอย่างชัดเจน เพราะโตเกียวเพิ่งลาจอไปไม่นาน เริ่มแรกจอนจงซอเริ่มบทโตเกียวด้วยมุมมองการใช้ชีวิตในประเทศเกาหลี มีวิธีฉีกคาแร็กเตอร์เดิมได้อย่างน่าสนใจ แต่ยังไม่ทำให้ผู้ชมลุ่มหลงไปกับปูมหลังได้ดีเท่าที่ควร นั่นอาจไม่ใช่ความผิดของเธอเสียทีเดียว เพราะวิธีการเล่าและความ “ซ้ำ” ในฉบับรีเมกนั้นไม่ได้ทำผู้ชมอยากจะทำความรู้จักกับตัวละครเหมือนกับซีรี่ส์เนื้อเรื่องใหม่ ดังนั้นเธอต้องทำงานอย่างหนักเพื่อขับเสน่ห์ของตัวละครออกมาให้ทะลุกำแพงความคาดหวังเดิมให้ได้
“เวอร์ชั่นสเปนดูดุเดือดแต่เวอร์ชั่นเกาหลีดูหน่อมแน้มไปหน่อย” คอมเมนต์หนึ่งในโลกออนไลน์บ่งบอกได้อย่างดีว่าองค์รวมของเรื่องนี้อาจไม่ได้เข้มข้นอย่างที่หลายคนคิด ตัวละครทุกตัวจึงดูดุดันน้อยกว่าฉบับดั้งเดิม เพราฉะนั้นไม่แปลกเลยที่ผู้คนจะรู้สึกว่าผู้มารับบทโตเกียวอย่างจอนจงซอจะทำได้ไม่ได้ตามความคาดหวัง ช่วงแรกเราได้เห็นการแสดงเดี่ยวของเธอ เนื่องจากเป็นตัวละครแรกที่ได้เล่าเรื่องราวเบื้องหลังในชีวิตก่อนเข้าร่วมแก๊ง แต่ดูเหมือนฉากสร้างความกดดันและบีบคั้นอารมณ์นั้นไม่ได้พาให้เราอินไปกับตัวละครขนาดนั้น ยังดูไม่ลึกซึ้ง และองค์ประกอบของเรื่องราวไม่ได้ส่งเสริมให้เราเชื่อในคาแร็กเตอร์ของตัวละครหญิงที่เปรี้ยวซ่าอย่างที่แฟนซีรี่ส์คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
ต้องบอกว่าผู้คนติดภาพการแสดงสุดเข้มข้นของจอนจงซอมาแล้วตั้งแต่ผลงานก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้นการที่ตัวละครโตเกียวไม่ได้รับการส่งเสริมจากทุกส่วนในซีรี่ส์มากพออาจกำลังทำให้คนคิดว่าเธอทำได้ต่ำกว่ามาตรฐาน แท้จริงแล้วเธอไม่สามารถขับความยอดเยี่ยมออกมาผ่านข้อจำกัดได้มากกว่า ผู้ชมจะไม่ได้ท่องไปในห้วงลึกของจิตใจโตเกียว แต่วิธีการถ่ายทอดความกดดันของนักแสดงก็ทำได้ตามมาตรฐาน อีกทั้งการปะทะคารมนั้นก็พอไปได้ตามบริบทของมัน เพียงแต่ว่าจอนจงซออาจไม่ได้นำเสนอความเด็ดขาดของโตเกียวในแบบที่ทุกคนจดจำได้นั่นเอง ลองจินตนาการว่าถ้านี่คือซีรี่ส์ต้นฉบับ ไม่มีข้อเปรียบเทียบ ไม่แน่จอนจงซออาจจะได้รับการพูดถึงมากกว่านี้ก็เป็นได้
WATCH
ทำไมผู้เขียนถึงคิดเช่นนั้น...เหตุผลสำคัญคือตลอดระยะเวลาที่เธอเข้าวงการมาเธอไม่เคยทำให้ผิดหวัง แต่ละเรื่องล้วนเป็นผลงานคุณภาพที่ขับศักยภาพของเธอออกมาได้อย่างเต็มที่ นอกจาก 2 เรื่องที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ยังมี Mona Lisa and the Blood Moon ภาพยนตร์น้ำดีอีกเรื่องที่เคยได้รับโอกาสไปฉายถึงเทศกาลหนังเมืองเวนิส ซึ่งภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวเธอฉีกมารับบทบาทแปลกแหวกแนวได้อย่างไร้ที่ติ ในขณะที่การกระโดดมาเล่นภาพยนตร์สายโรแมนติกอย่าง Nothing Serious เองก็ทำได้ดีอยู่ไม่น้อย ดังนั้นกราฟชีวิตการเป็นนักแสดงคุณภาพที่เธอค่อยๆ ไต่ระดับสูงขึ้นอาจต้องมาหยุดชะงักจากเรื่อง Money Heist: Korea แน่นอนว่านี่คือปราการด่านใหญ่ที่เธอต้องก้าวผ่านไปให้ได้ เรามิอาจตัดสินเธอได้จากการแสดงที่มีองค์ประกอบทั้งหลายถูกวิจารณ์แง่ลบ ทว่าเธอก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าแท้จริงแล้วเธอคือนักแสดงน้ำดีที่วงการต้องการ จุดชะงักตรงนี้อาจชะลอความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ณ ตอนนี้ในวัย 27 ปี จอนจงซอคงต้องกระโดดข้ามมลทินนี้และทำให้แฟนภาพยนตร์และซีรี่ส์เกาหลีจากทั่วโลกยอมรับเธอให้ได้อย่างเต็มปากว่านี่คืออีกหนึ่งเพชรเม็ดงามที่พร้อมจรัสแรงในอนาคต
ภาพ: Netflix
WATCH