รู้จักกับ 5 ภาพยนตร์มู้ดดีสัญชาติญี่ปุ่น ที่ดูกี่ครั้งก็ยังรู้สึกอบอุ่นใจ

     ปัจจุบันในอุตสาหกรรมภาพยนตร์เป็นอีกหนึ่งวงการที่มีการแข่งขันสูง ทั้งในแง่ของงานภาพที่นำเอาเทคโยโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการถ่ายทำ ไปจนถึงเนื้อเรื่องและมู้ดโทนของภาพยนตร์ที่ทำให้บรรดาผู้ชมและคนรักหนังได้เข้าถึงอารมณ์ของแต่ละตัวละครเป็นอย่างดี ซึ่งหนึ่งในประเทศอย่างญี่ปุ่นถือเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่ถ่ายทอดดีเอ็นเออันเด่นชัดผ่านม้วนฟิล์มให้เราได้สัมผัส และในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับภาพยนตร์สัญชาติญี่ปุ่น หนังมู้ดดีที่ใครๆ ต่างก็หลงรัก

 

ภาพจาก imdb.com

1. Love Letter (1955)

     เริ่มกันที่ภาพยนตร์เรื่องแรกอย่าง Love Letter เรื่องราวของ “ฮิโรโกะ วาตานาเบะ” หญิงสาวที่สูญเสียคู่หมั้นไปจากอุบัติเหตุการปีนเขา หลังจากใช้เวลาทำใจในสักระยะ เธอก็ได้เดินทางไปยังงานครบรอบวันเสียชีวิตของคู่หมั้น ทำให้ฮิโรโกะได้รับหนังสือรุ่นที่มีที่อยู่ของ “อิสึกิ ฟูจิอิ” เธอจึงได้ส่งจดหมายไปยังที่อยู่นั้น ทว่าหลังจากส่งจดหมายไป ฮิโรโกะกลับได้รับจดหมายจากอิสึกิกลับมา ทำให้ทั้งคู่ต่างได้เริ่มสานสัมพันธ์ ทั้งความทรงจำในอดีต ความสนุกสนานในวัยเยาว์ที่ไม่อาจลืมเลือน ก่อนที่เธอจะค้นพบว่า “อิสึกิ ฟูจิอิ” อีกคนที่ส่งจดหมายตอบกลับเธอนั้นเป็นผู้หญิง

     โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่โดดเด่นทั้งในด้านเนื้อหาที่มีความซับซ้อน มาพร้อมกับฉากและเสียงเพลงที่สอดประสานกันได้อย่างลงตัว จนทำให้ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวได้รับรางวัลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Japanese Academy Awards ปี 1996, Blue Ribbon Awards ปี 1996, Kinema Junpo Awards ปี 1996 และอีกมากมาย

 

ภาพจาก imdb.com

2. My Tomorrow, Your Yesterday (2016)

     My Tomorrow, Your Yesterday เป็นภาพยนตร์ไวบ์ดีอีกหนึ่งเรื่องที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เป็นเรื่องราวของ “ทะกะโตชิ มินะมิยะมะ” นักเรียนศิลปะในเคียวโตะที่ได้พบรักกับ เอมิ ฟุกุจุ ในขณะที่ทั้งคู่กำลังขึ้นรถไฟไปเรียนในตอนเช้า เขาได้สารภาพรักกับเอมิ ทั้งยังขอเบอร์โทรศัพท์ และเริ่มความสัมพันธ์ในฐานะคนรักกันเรื่อยมา จนกระทั่งเวลาผ่านไป 15 วัน ทะกะโตชิ ได้ค้นพบความสัมพันธ์ทางกาลเวลาอันลึกลับซึ่งเปิดเผยโดยเอมิ ทำให้ทั้งคู่ได้พบกันเพียงทุกๆ 5 ปี และพบกันครั้งละ 30 วันเท่านั้น

     ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในปี 2016 ซึ่งกวาดคำวิจารณ์ในเชิงบวกไปอย่างล้มหลาม ทั้งในด้านของพล็อตเรื่องที่มีความแปลกใหม่และน่าสนใจ ตลอดจนมุมมองการนำเสนอที่หยิบเอาความสัมพันธ์ของห้วงเวลามาเป็นไฮไลต์หลักในภาพยนตร์เรื่องนี้ นอกจากนี้งานภาพและเสียงของ My Tomorrow, Your Yesterday ยังช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมทำให้แฟนๆ หนังเข้าถึงตัวละครได้มากยิ่งขึ้น 

 

ภาพจาก imdb.com

3. Even If This Love Disappears from the World Tonight (2022)

     ถัดมากับ Even If This Love Disappears from the World Tonight ที่วางฉายในปี 2022 ภาพยนตร์แนวโรแมนติกดราม่าที่เข้าถึงอารมณ์ของคนดูได้เป็นอย่างดี เรื่องราวในครั้งนี้ว่าด้วยตัวละครหลักอย่าง “มาโอริ ฮิโนะ” หญิงสาวที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ความทรงจำของเธอนั้นจะหายไปเมื่อตื่นนอนขึ้นมา ด้วยปัญหาที่เธอได้พบเจอทำให้ฮิโนะได้จดบันทึกไดอารี่ประจำวันเรื่อยมา จนกระทั่งได้พบกับ “โทรุ คามิยะ” ชายหนุ่มที่เข้ามาสร้างความสดใสและสร้างแรงบันดาลใจการใช้ชีวิตให้กับเธอ ถึงแม้เรื่องราวจะดำเนินไปจนเกือบจะแฮปปี้เอนดิ้ง แต่สุดท้ายโทรุก็ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับมา ทำให้ฮิโนะต้องเผชิญกับโลกที่มืดมนอีกครั้ง นอกจากเนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีความเข้มข้นแล้ว ยังเป็นภาพยนตร์ที่ชวนให้เราได้ฉุกคิดถึงความรัก ความสัมพันธ์ในปัจจุบันว่าเรานั้นได้ทำมันได้อย่างเต็มที่แล้วหรือยัง นอกจากเนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีความเข้มข้นแล้ว ยังเป็นภาพยนตร์ที่ชวนให้เราได้ฉุกคิดถึงความรัก ความสัมพันธ์ในปัจจุบัน ว่าเรานั้นได้ทำมันได้อย่างเต็มที่แล้วหรือไม่

 

ภาพจาก imdb.com

4. Sky of Love (2007)

     ภาพยนตร์เรื่อง Sky of Love เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกดราม่าอีกหนึ่งเรื่องที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เรื่องราวบทนี้เริ่มต้นจากสายโทรศัพท์ที่ไม่รู้จักอย่าง “ฮิโรกิ ซากุไร” ซึ่งโทรหา “มิกะ ทาฮาระ” เพื่อบอกว่าเธอนั้นได้ทำโทรศัพท์หายไว้ที่ห้องสมุดของโรงเรียน หลังจากที่ได้โทรศัพท์คืนทั้งคู่ก็ยังคงติดต่อสานสัมพันธ์กันตลอดช่วงปิดเทอม ความสัมพันธ์ของทั้งสองดำเนินไปอย่างเข้มข้น จนกระทั่งวันนึงฮิโรกิได้ค้นพบว่าเป็นตัวเองนั้นป่วยเป็นมะเร็ง เขาจึงเริ่มออกห่างจากมิกะเพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องเสียใจ

     Sky of Love ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์น้ำดีอีกหนึ่งเรื่องที่น่าติดตาม ด้วยพล็อตเรื่องที่เรียกน้ำตาจากแฟนๆ ได้เป็นอย่างดี ตลอดจนทักษะของเหล่านักแสดงที่ถ่ายทอดคาแร็กเตอร์เข้าถึงอารมณ์ ทำให้ตั้งแต่เปิดตัวในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2007 ภาพยนตร์เรื่องนี้กวาดรายได้ไปแล้วกว่า 36,684,020 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งในบ็อกซ์ออฟฟิศของญี่ปุ่นและต่างประเทศ

 

 ภาพจาก imdb.com

5. Say 'I Love You' (2014)

     ภาพยนตร์แนวโรแมนติกมู้ดดีอีกหนึ่งเรื่องอย่าง Say 'I Love You' ที่สร้างมาจากการ์ตูนมังงะในชื่อเดียวกันนี้ เป็นภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ “เมอิ ทาชิบานะ” หญิงสาวที่เต็มไปด้วยความหม่นหมองและปราศจากเพื่อนหรือแฟน จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้พบกับ “ยามาโมโตะ คุโรซาวะ” นักเรียนหนุ่มสุดป๊อปของโรงเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ การช่วยเหลือในครั้งนั้นทำให้ยามาโมโตะ สนใจในตัวของเมอิเป็นอย่างมาก เรื่องราวของทั้งคู่ดูเหมือนจะจบลงตรงนี้ แต่หลังจากนั้นยามาโมโตะก็ได้มีโอกาสช่วยเมอิจากการถูกสะกดรอยตาม และเขาได้จูบเธอทำให้ความสัมพันธ์อันหวานซึ้งของทั้งคู่ได้เริ่มต้นขึ้น ถึงแม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีบทภาพยนตร์ตามเรื่องราวสุดคลาสสิกที่มักพบเห็นในการ์ตูนมังงะของญี่ปุ่น แต่ Say 'I Love You' ในเวอร์ชั่นคนแสดงก็ทำให้แฟนๆ การ์ตูนเรื่องนี้ต่างเข้าถึงอารมณ์และอินไปกับตัวละครไม่แพ้เวอร์ชั่นการ์ตูนแม้แต่น้อย นอกจากนี้ยังได้รับการการันตีคุณภาพด้วยรางวัล The Japanese Academy ในปี 2015 สาขา Newcomer of Year อีกด้วย