นักแสดงหนุ่มสุดฮอตจากประเทศออสเตรเลีย ‘Jacob Elordi’ ผู้ครองใจสาวๆ ทั่วโลกด้วยบทบาทตัวละครแบดบอย ‘Nate Jacobs’ จากซีรี่ส์ยอดนิยมจากค่าย HBO อย่าง ‘Euphoria’ ได้เผยถึงประสบการณ์ยากลำบากก่อนจะประสบความสำเร็จเหมือนทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับความนิยมจากภาพยนตร์มหากาพย์ 3 ภาคอย่าง ‘The Kissing Booth’ แต่เขาก็เกือบหมดตัวหลังจากการถ่ายทำภาคสุดท้ายสิ้นสุดลง

1 / 2

2 / 2

จาคอบเผยกับทาง GQ ประเทศสหรัฐฯ ว่าเขาได้ย้ายไปอยู่กับเพื่อนที่เมืองลอสแอนเจลิสในปี 2017 หลังจากได้กระแสตอบรับที่ดีจากภาพยนตร์เรื่อง The Kissing Booth แต่กลับไม่มีใครจ้างงานเขา ทำให้เขาต้องอาศัยและนอนอยู่ในรถเก่าเป็นเวลานาน สลับกับโซฟาในอพาร์ตเมนต์ของเพื่อน และเขามีเงินอยู่ในบัญชีเพียงแค่ 400 ถึง 800 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งในขณะที่เขากำลังตัดสินใจจะทิ้งความฝันในฮอลลีวู้ด การออดิชั่นสุดท้ายของเขาก่อนจะบินกลับประเทศออสเตรเลียได้พลิกผันชะตาชีวิต และนั่นคือบทตัวละคร Nate Jacobs จากซีรี่ส์วัยรุ่นอันโด่งดังเรื่อง Euphoria ที่ทำให้เขานั้นดังเป็นพลุแตกและมีงานสายแฟชั่นและการแสดงเข้ามาอย่างล้นหลาม

หลังจากที่จาคอบได้คอนเฟิร์มรับบทเป็นเนตแล้ว เขายังต้องอาศัยอยู่ในรถในขณะที่กำลังถ่ายทำตอนแรก ต่อมา Sam Levinson โปรดิวเซอร์ผู้สร้างซีรี่ส์ Euphoria ได้รับรู้ในภายหลังว่านักแสดงของเขานั้นยังต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบาก เขาจึงช่วยจาคอบโดยการเช่าห้องโรงแรมให้อยู่อาศัยจนกว่าจะถ่ายทำซีรี่ส์จบ เรื่องราวของนักแสดงหนุ่มได้สร้างความตกใจให้กับแฟนๆ เป็นอย่างมากเพราะเขาคือนักแสดงมากฝีมือที่สามารถเป็นนายแบบได้อีกด้วย จึงไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหลังชีวิตของเขาเป็นอย่างไร และเรื่องนี้ยังได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คนที่กำลังต่อสู้อยู่บนเส้นทางความฝันของการเป็นนักแสดงอีกด้วย

Jacob Elordi บนพรมแดงในงาน Met Gala ประจำปี 2022