LIFESTYLE
สรุปบทเรียนสอนหญิงจาก How to Lose a Guy in 10 Days ทำแบบนี้ระวังผู้ชายเผ่นเปิด 5 บทเรียนสำคัญที่ได้จากการเดทในภาพยนตร์เรื่อง How to Lose a Guy in 10 Days |
How to Lose a Guy in 10 Days เป็นหนึ่งในภาพยนตร์รอมคอมยุค 2000s ที่อยู่ในใจของใครหลายคนรวมทั้งผู้เขียน แม้ว่าจะได้คะแนนจากเหล่าผู้วิจารณ์ฝีปากกล้าเพียงน้อยนิด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพยนตร์ที่สุดจะเดาทางได้ง่ายเรื่องนี้ ไม่ว่าจะหยิบมาดูสักกี่รอบก็ต้องยิ้มและรู้สึกดีไปด้วยทุกครั้ง
เรื่องสุดป่วนเกิดขึ้นเมื่อ Kate Hudson รับหน้าที่เป็น Andie Anderson นักเขียนคอลัมน์ How To ผู้จะมาสอนหญิงสาวทั้งหลายว่าการปฏิบัติตนแบบไหนทำให้ผู้ชายไม่อยากจะเข้าใกล้ ด้วยการออกเดทกับหนุ่มสักคนเพื่อใช้เขาเป็นหนูทดลอง ในขณะที่หนุ่มผู้โชคร้าย (หรือเปล่า) คนนั้นอย่าง Benjamin Barry รับบทโดย Matthew McConaughey เองก็ต้องหาทางทู่ซี้ผูกติดและงัดแงะสารพันทีเด็ดเพื่อมัดใจหญิงสาวให้มาตกหลุมรักเขาภายใน 10 วันเช่นกัน การตกเป็นเป้าหมายของกันและกันอย่างไม่รู้ตัวสร้างสถานการณ์สุดป่วนชวนขำ ที่สอดแทรกบทเรียนเรื่องการออกเดทมากมายให้เราได้หยิบไปปรับใช้ในชีวิตจริง
ภาพ: ScreentRant
เจ้ากี้เจ้าการและล้ำเส้นจนเกินงาม
คงไม่มีผู้ชายคนไหนรู้สึกดีที่ผู้หญิงที่เขากำลังเดทด้วย เข้ามาสต็อกข้าวของผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิงไว้บนชั้นเก็บของในห้องน้ำ หรือตกแต่งห้องของเขาแบบไม่ขออนุญาตหลังจากเดทกันได้เพียงแค่ครั้งหรือสองครั้งเท่านั้น เช่นเดียวกันกับเบนจามินที่อดจะกรี๊ดไม่ได้ที่แอนดี้ทำกับเขาแบบนั้น หรือแม้กระทั่งโทรไปคุยกับครอบครัวของเขาก่อนที่ฝ่ายชายจะรู้ตัวหรือแนะนำตัวให้ด้วยซ้ำ ไปจนถึงเจ้ากี้เจ้าการให้เขารับดูแลต้นเฟิร์น เพื่อเป็นสัญลักษณ์ถึงความรักที่งอกเงยระหว่างคนทั้งคู่ โดยไม่ถามเขาสักคำว่าเลี้ยงต้นไม้เป็นหรือเปล่า
ดูถูกศักดิ์ศรีของนักล่า (แม้จะไม่ได้ตั้งใจ)
ผู้ชายเป็นเพศที่โดยมากแล้วมักถือว่าตนเป็นนักล่า เขามองตัวเองเป็นเจ้าป่าในทุ่งกว้างเสมอ ดังนั้นการไปดูถูกศักดิ์ศรี (ที่ความจริงแล้วกินไม่ได้) โดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม มันเทียบเท่ากับการลดทอนความแกร่งของเขาให้หดเล็กนิดเดียว อย่างเวลาที่เจ้าป่ากำลังจะออกหากินแต่คุณสาวๆ ดันไปเรียกอุปกรณ์ประกอบฉากของเขาด้วยชื่อหวานฉ่ำแบบที่แอนดี้ตั้งชื่อน้องชายที่ติดตัวมาด้วยแต่เกิดของเบนจามินว่า ‘Princess Sophia’ ก็ทำเอาเขาทั้งหมดอารมณ์และเสียความมั่นใจไปในที่สุด เพราะฉะนั้นสาวๆ ควรให้เกียรติทั้งเขาและเพื่อนคู่ใจของเขาด้วยไม่ว่าจะกรณีไหนก็ตาม
ภาพ: ABCtv
ผูกมัดเขาเร็วเกินไป (หลังจากเดทแค่ไม่กี่ครั้ง)
การผูกมัดอีกฝ่ายไว้ไม่ได้ถือเป็นเรื่องผิด เพราะคนทั้งคู่จะได้เข้าใจความสัมพันธ์ให้ไปในทิศทางหรือวางเป้าหมายเดียวกันไว้ หากการที่แอนดี้วางแผนอนาคตร่วมกันกับเบนจามินด้วยการทำอัลบั้มรูปครอบครัวในอนาคตมาให้เขาดู หลังจากที่เดทกันเพียงไม่กี่ครั้งมันก็เป็นอะไรที่กดดันกันมากเกินไป เราไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพร้อมหรือมีปัญหาอะไรบ้าง หรือแม้แต่ผูกมัดเขาในอีกรูปแบบด้วยการหาหมามาร่วมกันเลี้ยงเพื่อรับผิดชอบบางสิ่งที่สำคัญด้วยกันก็ตาม การก้าวเร็วเกินไปโดยไม่ถามอีกฝ่ายเป็นเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ผู้ชายอาจก้าวออกไปจากคุณเองโดยที่ไม่รู้ตัว
ตัวติดกับเขายิ่งกว่าตังเม
แอนดี้ไม่ยอมปล่อยให้เบนจามินได้ไปสนุกกับเพื่อนชายแบบออกรสบ้าง แม้เบนจามินจะออกปากแล้วว่าวันศุกร์เขาไม่ว่างเพราะเป็น Boy’s Night ก็ตาม แต่เธอเลือกที่จะไม่ฟังและเดินหน้ารังควานตามแผนที่วางไว้ บุกเข้าไประหว่างวงไพ่และก่อกวนเสียจนฝ่ายชายถึงกับยอมแพ้ขอเลิกคบกันเลยทีเดียว (แม้เขาจะวิ่งตามไปง้อไม่นานจากนั้นก็ตาม) นี่จึงเป็นบทเรียนสำคัญสุดๆ ว่าสาวๆ ไม่ควรทำตัวติดกับคนรักมากเกินไป เว้นระยะให้แต่ละคนได้มีชีวิตเป็นของตัวเองบ้าง จำให้ดีว่าพื้นที่ความสัมพันธ์แบ่งออกเป็น 3 ส่วน พื้นที่เธอ พื้นที่ฉัน และพื้นที่เราที่คาบเกี่ยวกันอยู่ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไม่แบ่งส่วนพื้นที่ให้สมดุลกัน ความสัมพันธ์ก็จะไปต่อได้ยาก
WATCH
ภาพ: Glamour
ทำกับเขาเหมือนเป็นเด็กน้อย (หรือบางครั้งก็เป็นลูก)
ไม่ว่าฝ่ายชายจะมีอายุมากหรือน้อยกว่า สิ่งสำคัญก็คืออย่าไปทำกับเขาเหมือนเป็นเด็กน้อย คุณกำลังตามหาหนุ่มคนรักที่จะมาแชร์ชีวิตร่วมกัน ไม่ใช่น้องชายต่างพ่อแม่ หรือลูกน้อยที่ต้องคอยประคบประหงมแบบที่แอนดี้ทำกับเบนจามิน เช่นการเล่นจ๊ะเอ๋กับเขาราวกับหยอกเด็กเล็กๆ ในเวลาที่เขากำลังสังสรรค์กับเพื่อน หรือแม้แต่ไปปฏิบัติตัวเป็นแม่บังคับให้เขาสั่งน้ำมูกใส่กระดาษทิชชู่ที่ถืออยู่ เพื่อเช็คว่าร่างกายแข็งแรงหรือไม่ราวกับลูกน้อยก็ตาม แถมยังทำต่อหน้าเหล่าเพื่อนชายวัยฉกรรจ์อีกต่างหาก บอกตรงๆ ว่าแบบนี้มันก็เกินไปที่สุด
นี่คือ 5 บทเรียนสำคัญที่แม้ว่าสุดท้ายแล้วในภาพยนตร์จะลงเอยกันด้วยดีก็ตาม หากในชีวิตจริงไม่ได้เหมือนในหนังสักนิด การจะเป็นทั้งคนที่รักและคนที่ถูกรัก ทั้งหมดต้องยืนอยู่บนความพอดีและความเข้าใจ พื้นฐานของชีวิตคู่จะไปรอดคือการพูดคุยและปรับความเข้าใจให้ตรงกัน เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ และที่สำคัญคือต้องเป็นผู้ใหญ่ที่มีเหตุผลด้วย ส่วนใครก็ตามที่กำลังตามหารักแท้ที่จะร่วมเผชิญอุปสรรค หรือทั้งอยู่ทนและทนอยู่กับนิสัยของคุณได้ ผู้เขียนเองก็ขอให้คุณได้เจอกับคนนั้นไม่ว่าเขาจะเป็นแอนดี้หรือเบนจามินที่พร้อมจะก้าวผ่านบทเรียนแปลกๆ ไปด้วยกันในอนาคต
ข้อมูล : ScreenRant, Glamour
WATCH