
การเล่าเรื่องราวด้านมืดของสังคม ความสำเร็จของ Neon ที่ส่ง Parasite และ Anora ชนะออสการ์
การเจาะประเด็นสังคมพร้อมพาทุกคนไปสัมผัสบรรยากาศแบบลึกซึ้งคือกุญแจสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์จาก Neon อย่าง Parasite และ Anora ประสบความสำเร็จ
ศาสตร์การสร้างภาพยนตร์ที่สามารถก้าวถึงรางวัลระดับแถวหน้าได้สำเร็จนั้นส่วนใหญ่ต้องสามารถเข้าถึงอารมณ์ของผู้ชมได้อย่างลึกซึ้ง หรือสามารถสร้างเนื้อหาการสื่อสารได้อย่างหนักแน่น ดังนั้นหลายคนจึงมองว่าการสร้างภาพยนตร์ด้วยเรื่องจริงที่เปี่ยมด้วยความวุ่นวาย ประสบการณ์อันขื่นขม หรือแม้แต่บาดแผลทางจิตใจและร่างกาย ไม่ว่าจะในเชิงตรงไปตรงมาหรือเชิงเปรียบเปรยคือสูตรสำเร็จของการสร้างภาพยนตร์ชิงรางวัล ทว่าความเป็นจริงเนื้อหาความละเอียดอ่อนเหล่านั้นอาจจะเป็นส่วนสำคัญก็จริง แต่วิธีการเล่าและเรียบร้อยเนื้อหา พร้อมสอดแทรกองค์ประกอบเสียมากกว่าที่ทำให้ภาพยนตร์เหล่านั้นยอดเยี่ยม ซึ่งสตูดิโออย่าง Neon กำลังเดินหน้าผลิตผลงานออกมาจนสามารถคว้ารางวัลยักษ์ใหญ่ได้จนน่าจับตามอง
Anora
ไม่กี่ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ซบเซาลงไปพอสมควร ภาพยนตร์ระดับรางวัลออสการ์กลับไม่ได้หวือหวาเปรี้ยงปร้าง แต่ในปี 2025 หรือการประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 97 เหมือนการชุบชีวิตวงการภาพยนตร์ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ด้วยรูปแบบการนำเสนอและการผันเปลี่ยนของสังคมทำให้ผู้ชมได้เห็นมิติการนำเสนอที่หลากหลาย ทั้งเชิงเทคนิคไปจนถึงผลผลิตผ่านหน้าจอจากบทที่ถูกรังสรรค์อย่างละเอียดประณีต และแล้วภาพยนตร์สเกลไม่ได้ใหญ่มากก็มีพื้นที่ความอิสระ Anora ก็พุ่งทะยานคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครองได้สำเร็จ
ถ้าถามว่าเนื้อหาของ Anora นั้นเข้มข้นเพียงใด เมื่อกระแสข่าวส่วนมากมาจากความหวือหวาของฉากในภาพยนตร์เสียมากกว่า สิ่งเหล่านี้ที่สื่อเล่นล้วนบดบังความน่าสนใจที่แท้จริง Mikey Madison กับการรับบทบาท Anora นักเต้นระบำเปลื้องผ้าสาวพาทุกคนไปเจาะลึกชีวิตของเหล่า ‘Sex Worker’ ชนิดที่เห็นถึงความสมจริงและธรรมชาติของปรากฏการณ์ในสังคมที่เกิดขึ้นจริง สิ่งที่หลายคนอาจมองว่าเป็นมลทิน ใช้ร่างกายหากินแลกเงินจำนวนมากมาด้วยความง่ายดาย แท้จริงมันไม่ใช่เช่นนั้น เพราะประสบการณ์ของผู้หญิงที่ทำงานแบบนี้ไม่ได้สวยหรูงดงาม แต่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่เชื่อว่าหลายคนก็จินตนาการไปไม่ถึง
จากเรื่องราวตรงนี้นำเสนอผ่านความเร่าร้อนที่บางครั้งประเด็นหลายอย่างถูกสอดแทรกไว้อย่างแนบเนียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเหมารวม แนวคิดของคนในสังคมต่อคนทำงานเกี่ยวกับเซ็กซ์ การกดขี่ทางสังคม ความไม่เท่าเทียมทางเพศ เรื่อยไปจนถึงประสบการณ์ของบุคคลที่ขัดแย้งทางอารมณ์ ความรู้สึก และนำมาสู่การตัดสินใจหรือการนำเสนอตัวตนที่มีความพิเศษเฉพาะตัว ดังนั้น Anora จึงเป็นภาพยนตร์ที่พร้อมพาทุกคนด่ำดิ่งไปในเรื่องราวเข้มข้น ในขณะเดียวกันก็จำลองบรรยากาศของสถานบันเทิงแบบเทาๆ กึ่งดำไว้ได้แบบสมจริงสมจัง ถือเป็นผลงานชั้นยอดของผู้กำกับ Sean Baker และค่าย Neon ที่ส่งให้ผลงานเรื่องนี้คว้าออสการ์ไปถึง 4 สาขาคือ Best Film Editing, Best Original Screenplay, Best Director, Best Actress และ Best Picture
Parasite
ถ้าหากย้อนกลับไปค่าย Neon ถือเป็นค่ายภาพยนตร์ที่ได้รับการจับตามองอย่างมาก เพราะในปี 2019 ส่ง Parasite คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปได้สำเร็จ ซึ่งในตอนนั้นถือเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก เพราะถือเป็นภาพยนตร์สัญชาติเอเชียเรื่องแรกที่สามารถคว้ารางวัลใหญ่สุดในค่ำคืนออสการ์ไปได้สำเร็จ แต่เมื่อเจาะลึกรายละเอียดลงไป Parasite ไม่ใช่ภาพยนตร์กระแสที่โด่งดังและทำเงินเท่านั้น แต่เป็นการเจาะลึกถึงแก่นสังคมด้านมืดที่จิกกัดได้แบบแสบคันสุดๆ ซึ่งถือเป็นไม้เด็ดของผลงานจากค่าย Neon ที่กระแทกใจผู้ชมมาตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา
โครงสร้างของภาพยนตร์เรื่อง Parasite กับ Anora อาจไม่ได้ไล่เรียงลำดับหรือซ้อนเลเยอร์ด้วยกลไกเดียวกันเท่าไหร่นัก แต่สิ่งที่เหมือนกันคือวิธีการนำเสนอปัญหาสังคมและความดำมืดที่เกิดขึ้นจริง ที่สำคัญคือประสบการณ์เหล่านี้ที่ไม่ว่าจะเล่าแบบตรงไปตรงมาหรือเปรียบเปรยเชิงสัญญะมันสามารถเข้าถึงอารมณ์ผู้ชมแบบสุดกู่ Parasite พาทุกคนดำดิ่งไปถึงเบื้องลึกในจิตใจของครอบครัวยากจนในสังคมเกาหลี ทว่าการนำเสนอเรื่องราวนั้นไม่ได้ส่งผลแบบเฉพาะเจาะจงของสังคมต้นเรื่องเพียงเท่านั้น เพราะมันยังกระแทกจิตใจผู้ชมจากทั่วโลก และชวนให้เห็นถึงปัญญาในลักษณะเดียวกัน (แม้จะต่างในเชิงรายละเอียด) ในทั่วทุกมุมโลก
ความคาดหวังถึงการเล่าปัญหาทางสังคมกับความดำมืดที่เกิดขึ้นถือเป็นของคู่กัน จังหวะเวลาของการเล่าก็เป็นสิ่งสำคัญ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประเด็นเรื่องความเท่าเทียมจากเรื่อง Parasite กำลังร้อนแรง และยิ่งทวีความจัดจ้านเมื่อภาพยนตร์เข้าฉาย ในขณะเดียวกันประเด็นเรื่อง ‘Sex Worker’ ก็ถูกพูดถึงอย่างมาก แม้จะไม่ใช่บริบทของสาวเปลื้องผ้า แต่จังหวะเวลาของแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เปิดอิสระให้กับการทำงานเรื่องเซ็กซ์มากขึ้นก็ขมวดรวมเหมาะกันพอดี ซึ่งถ้าย้อนกลับไปจะพบว่าในช่วงที่เป็นจุดเริ่มต้นการเรียกร้องสิทธิ์ของคนผิวดำในโลกยุคใหม่ ภาพยนตร์หลายเรื่องก็ทะยานขึ้นสู่ยอดพีระมิดบนเวทีออสการ์ ยกตัวอย่างเช่น Green Book และ Moonlight เป็นต้น
หากจะกล่าวว่า A24 คือสุดยอดค่ายภาพยนตร์อิสระที่เตรียมจ่อคว้ารางวัล ก็ต้องบอกว่าเช่นกันว่า Neon ก็เป็นค่ายที่เป็นผู้ท้าชิงอย่างสมน้ำสมเนื้อ รูปแบบการนำเสนอและชั้นเชิงการเล่าเรื่องมีมิติที่ซับซ้อนและชวนสัมผัสประสบการณ์ในเหตุการณ์ ช่วงเวลา หรือบริบททางสังคมแบบเฉพาะเจาะจงก็จริง แต่ก็สามารถเชื่อมโยงหรือปรับเข้ากับประสบการณ์ชีวิตของผู้ชมทั่วโลกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง วันนี้ Anora เดินตามรอย Parasite คว้ารางวัลยิ่งใหญ่กลับบ้านไปได้สำเร็จ และเป็นข้อพิสูจน์ว่า Neon คือของจริงในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ยุคใหม่โดยแท้
WATCH
ภาพ : Courtesy of Neon
WATCH