เจาะลึกภาพยนตร์เรื่อง Dune กับปรากฏการณ์ Standing Ovation ยาวนานถึง 8 นาที ณ เมืองเวนิส

     Dune คือภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์ที่คอภาพยนตร์ทั่วโลกต่างรอคอย ตลอดปี 2021 เมื่อมีข่าวเกี่ยวกับอุตสาหกรรมจอเงิน ตั้งแต่งานเปิดตัวหรือเทศกาลต่างๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จะได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ และในเทศกาลหนังเมืองเวนิส ประจำปี 2021 ก็เป็นอีกครั้งที่ Dune กลายเป็นพาดหัวข่าวหลักที่ทั่วโลกให้ความสนใจ เนื่องจากการโปรโมตและรายชื่อนักแสดง รวมถึงทีมงานเบื้องหลังล้วนชวนให้เราคิดกันว่านี่จะเป็นสุดยอดผลงานแห่งปีเลยทีเดียว

     Denis Villeneuve คือผู้กำกับฝีมือระดับพระกาฬผู้รังสรรค์ภาพยนตร์คุณภาพสูงมาเสมอ ครั้งนี้กับ Dune เขาก็เฝ้ารอวันเปิดตัวมาอย่างยาวนาน เพราะกระแสทั้งจากการคัดเลือกนักแสดงและส่วนเนื้อเรื่องที่คนให้ความสนใจอย่างล้นหลามตั้งแต่เริ่มโปรเจกต์ มันจึงเหมือนดาบ 2 คมที่ถ้าทำดีก็จะกลายเป็นโคตรภาพยนตร์แห่งปีหรืออาจจะแห่งยุค แต่กลับกันถ้าทำออกมาแล้วไม่สมบูรณ์แบบก็จะโดนกระแสตีกลับที่อาจเกินรับไหวเลยทีเดียว ดังนั้นคำว่า “ธรรมดา” หรือ “ทั่วไป” สำหรับ Dune อาจหมายถึงความล้มเหลวในมุมใดมุมหนึ่ง

 

     ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์ที่ค่อนข้างยาวโดยมีข้อมูลระบุไว้อย่างเป็นทางการว่า Dune ฉบับเต็มนี้จะมีความยาวมากถึง 2 ชั่วโมง 35 นาที เทียบเท่าผลงานระดับตำนานหลายเรื่องที่ใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าในการพาผู้ชมดำดิ่งไปในโลกของเรื่องนั้นๆ อย่างแท้จริง โจทย์สำคัญโจทย์แรกคือการดึงผู้ชมมาผูกโยงกับเนื้อเรื่องให้ได้ตลอดระยะเวลาที่นานขนาดนี้ ซึ่งเดนิสก็ยอมรับว่าเป็นโจทย์ที่ยาก แต่การสร้างเส้นเรื่องจากวรรณกรรมของ Frank Herbert เมื่อปี 1965 นั้นก็มีข้อดีอยู่ เพราะนี่คือฐานเรื่องสำคัญที่สามารถเล่าได้โดยมีต้นแบบคอยปูทางให้

     Dune เป็นภาพยนตร์ที่มีส่วนผสมอันลงตัวในเรื่องนักแสดง เพราะได้ดารา Gen Z สุดฮอตมาแสดงนำทั้ง Timothée Chalamet และ Zendaya อีกทั้งยังมีดารามากประสบการณ์อย่าง Josh Brolin, Dave Bautista และ Rebecca Ferguson มาสร้างสมดุลได้อย่างลงตัว ตรงนี้ถือเป็นจุดแข็งที่คนให้ความสนใจมาตั้งแต่แรก ด้วยชื่อเสียงของทิโมธีและเซนดาย่าที่กำลังร้อนแรงมากตอนนี้ อย่างน้อยก็ทำให้ Dune คึกคักมาตั้งแต่ก่อนเข้าช่วงเทศกาลหนังเมืองเวนิสเสียอีก

 

     ความตื่นเต้นของผู้ชมทั่วโลกที่เฝ้ารอเหมือนจะคลายความกังวลเรื่องคุณภาพของ Dune ไปได้มากหลังจากได้ยินเสียงตอบรับในเทศกาลหนังเมืองเวนิส เพราะมีรายงานว่า Chloe Zhao หนึ่งในคณะกรรมการตัดสินรางวัลของเทศกาลนี้ได้ชมภาพยนตร์และชื่นชอบเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ก็มีเรตคะแนนจากเหล่านักวิจารณ์สูงถึง 83 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนที่สูงมากสำหรับฝั่งนักวิจารณ์ที่ปกติขึ้นชื่อเรื่องความเคี่ยวในการให้คะแนนภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่คนตั้งตารอแบบนี้ นับเป็นสัญญาณอันดีที่เมื่อ Dune เข้าฉายรอบปฐมทัศน์และผลออกมาค่อนข้างประสบความสำเร็จทีเดียว

     นอกจากคำวิจารณ์และเรตคะแนนชั้นยอดแล้ว Dune ยังสร้างปรากฏการณ์ให้กับเทศกาลหนังเมืองเวนิส 2021 ด้วยโมเมนต์การ “Standing Ovation” ของผู้ชมเพื่อชื่นชมผลงานชิ้นนี้ยาวนานถึง 8 นาทีเต็ม ซึ่งโคลอี้ก็เข้ามาสวมกอดกับเดนิสและกล่าวคำว่า “Fantastic” ท่ามกลางการยืนให้เกียรติและปรบมืออันแสนยาวนาน หากใครจินตนาการไม่ออกว่าการยืนปรบมือของคนหมู่มากเป็นเวลา 8 นาทีนั้นนานเพียงใด ลองนึกถึงเวลาชมเกมกีฬาที่แฟนๆ จะลุกขึ้นยืนปรบมือในโอกาสพิเศษต่อเนื่องกันเป็นเวลา 1 นาที ซึ่งถือว่านานมากๆ แล้ว แต่สำหรับ Dune ถ้าภาพยนตร์ไม่ยอดเยี่ยมจริงคงไม่ได้รับเสียงตอบรับที่ยอดเยี่ยมและเกิดเป็นปรากฏการณ์นี้ขึ้นอย่างแน่นอน

 

     เรื่องน่าห่วงอีกหนึ่งประเด็นของผู้กำกับ นักแสดง และเหล่าทีมงาน Dune หลังโยนความกดดันจากการฉายรอบปฐมทัศน์คือ พวกเขาจะนำเสนอภาพยนตร์ในโรงได้ในพื้นที่ยุโรปและสหรัฐอเมริกาเป็นหลักเท่านั้น เพราะสถานการณ์ของทั้ง 2 ทวีปดีขึ้นกว่าพื้นที่อื่นทั่วโลกอยู่พอสมควร โรงภาพยนตร์พอจะเปิดทำการได้แต่อาจจะต้องจำกัดที่นั่งอยู่ดี นั่นแปลว่า Dune ไม่สามารถถ่ายทอดความสมบูรณ์แบบผ่านจอเงินได้ แต่ก็ยังดีที่มีแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งออนไลน์ที่เข้ามาทดแทนในส่วนนี้ ทว่าหลายฝ่ายก็ยังกังวลอยู่ดี เพราะเทคนิคการถ่ายทำชั้นสูงและบรรยากาศที่ถูกออกแบบมาเพื่อโรงภาพยนตร์จะเข้าไม่ถึงผู้ชมที่ชมผ่านหน้าจอจากที่บ้าน

     หลังจากปรากฏการณ์ยืนปรบมือ 8 นาทีในรอบฉายปฐมทัศน์ คำวิจารณ์เชิงบวกในเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ ความคาดหวังของผู้ชมที่มีสัญญาณดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราคงต้องติดตามกันต่อไปว่า Dune จะประสบความสำเร็จได้ดั่งใจเดนิสเพียงใด เพราะเดนิสผู้รังสรรค์ผลงานขึ้นหิ้งอย่าง Bladerunner 2049 ก็คาดหวังให้ Dune เจริญรอยตามความเนี้ยบสมบูรณ์แบบของเรื่องนี้ โดย Dune จะเข้าฉายในทวีปยุโรปวันที่ 15 กันยายน และเข้าฉายในสหรัฐอเมริการวมถึงช่องทาง HBO Max ในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ ถึงวันนั้นเราจะได้รู้กันว่าภาพยนตร์ที่เฝ้ารอกันมานานนับปีจะสร้างความประทับใจสมกับคำว่า “ภาพยนตร์แห่งปี” หรือไม่

 

ภาพ: Dune Movie