
การชิงบัลลังก์ระหว่าง Demi Moore กับ Mikey Madison สะท้อนกลิ่นอาย The Substance ชีวิตจริง
แม้จะไม่ได้มีเรื่องราวแฟนตาซีหรือโหดเหี้ยมเท่ากับในภาพยนตร์ The Substance แต่ตัวอย่างของการผันเปลี่ยนยุคทองของดาราหญิงอาจบ่งชี้ถึงในรูปแบบที่เชื่อมโยงกับภาพยนตร์
โลกแห่งความสวยงามฉากหน้าในอุตสาหรกรรมบันเทิงคืออุปสรรคอันท้าทายที่จะพิสูจน์ความเด็ดขาดเรื่องฝีมือการแสดงและความอมตะเหนือกาลเวลา บรรทัดฐานความสวยงามกลายเป็นเรื่องใหญ่และการพัฒนาเดินหน้าอย่างรวดเร็วนำมาสู่การแทนที่กันของนักแสดง เซเลบริตี้ หรือคนดังระดับโลกที่นับวันจะมีอายุงานสั้นลงเรื่อยๆ ภาพที่สะท้อนออกมาผ่านเรื่องราวในภาพยนตร์ The Substance จึงไม่ใช่ความสยอง การจิกกัดสังคม หรือการแสดงสัญญะเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างการเปรียบเทียบและเป็นหลักการที่สามารถนำมาใช้วิเคราะห์ปรากฏการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นจริงได้อีกด้วย
เส้นเรื่องหลักของ The Substance คือการถวิลหาร่างกายสาวสวยสะพรั่งทดแทนตัวตนที่แท้จริงซึ่งค่อยๆ เสื่อมไปตามกาลเวลา ช่วงเวลาของนางเอกอย่าง Demi Moore คือนักแสดงรุ่นใหญ่ที่อาจมีเวลาในอุตสาหกรรมบันเทิงพร้อมสถานะนักแสดงตัวหลักน้อยลงไปทุกที ในขณะเดียวกันนักแสดงสาวมาแรงอย่าง Mikey Madison คือดาวดวงใหม่ที่พร้อมเฉิดฉายด้วยลักษณะทางกายภาพที่อ่อนเยาว์กว่า สดใหม่กว่า ทั้งยังสร้างกระแสนิยมผูกโยงกับโลกยุคใหม่ได้เป็นอย่าง แม้ตัวเธอเองจะไม่มีแอคเคาต์โซเชียลมีเดียของตัวเองอย่างเป็นทางการก็ตาม
Demi Moore กับการรับบท Elisabeht Sparkle ในภาพยนตร์เรื่อง The Substance
ภาพการเปรียบเปรยเนื้อเรื่องของภาพยนตร์เรื่อง The Substance สามารถเชื่อมโยงถึงการช่วงชิงตำแหน่งนักแสดงเบอร์ 1 แห่งปี 2025 ได้อย่างน่าสนใจ เพราะเป็นการต่อสู้กันระหว่างแรงฮึดเฮือกท้ายๆ ของนักแสดงนำหญิงระดับไอคอนอย่างเดมิ มัวร์ ในขณะที่อีกด้านสาวสะพรั่งคือไมกี้ เมดิสันผู้กำลังพุ่งทะยานสู่การเป็นนักแสดงระดับแถวหน้าที่เริ่มคว้ารางวัลจากเวทีชั้นนำเป็นระยะ แน่นอนว่ายุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลงอาจทำให้ไมกี้ได้เปรียบ ทั้งนี้เดมิเองก็กลับไม่เคยคว้ารางวัลยักษ์ใหญ่มาก่อนเลยด้วยซ้ำ เพียงแต่เคยเป็นนักแสดงที่สร้างความทรงจำให้กับผู้ชมมายาวนานหลายทศวรรษ
การแข่งขันและแย่งชิงรางวัล สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จที่แบ่งแยกความแตกต่างระหว่างนักแสดงเจนสนามแต่ไร้มงกุฎ (ก่อนลูกโลกทองคำ) กับสาวไฟแรงผู้มาพร้อมความมุ่งมั่นในการก้าวสู่ความสำเร็จระดับสูง หากเปรียบกับเรื่องราวใน The Substance จะเห็นภาพอย่างรวดเร็วว่าเดมิคือดาวจรัสแสงที่กำลังโรยรา (มาก่อนหน้านี้) เหมือนกับ Elisabeth Sparkle กำลังต่อสู้กับร่างใหม่ในวงการอย่าง Sue ภาพความเข้มข้นและห้วงอารมณ์การต่อสู้ดูเหมือนได้เห็นการปะทะกันของตัวละครหลักที่มีเงื่อนไขการเดินหน้าที่แตกต่างกัน ซูในเรื่องเปรียบเปรยถึงไมกี้ที่กำลังสดสะพรั่งเต็มรูปแบบ
อีกหนึ่งข้อสำคัญคือเดมิกับการเปรียบถึงตัวละครอลิซาเบธที่กำลังเผชิญกับสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างการแก่ตัว แน่นอนว่าอลิซาเบธและผู้รับบทอย่างเดมิตัวจริงยังคงความสวยสง่าสะกดตาผู้ชม ทว่าความเปลี่ยนแปลงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นี้ก็ปิดประตูโอกาสหลายๆ อย่างและนำไปสู่ประตูบานใหม่ที่เปิดต้อนรับสาวร้อนไฟแรงอย่างซูหรือไมกี้ในโลกความเป็นจริง นอกจากการเปรียบเชิงสัญญะที่อาจตัดทอนรายละเอียดของเรื่องราวในภาพยนตร์บางส่วนออกไปบ้าง แต่ลองจินตนาการภาพถึงเดมิกับบทเอลิซาเบธที่กำลังเน่าเปื่อยทั้งร่างกายและจิตใจ ในขณะที่บทของไมกี้สวนทางกันอย่างชัดเจน ความเซ็กซี่เย้ายวน เสน่ห์ดึงดูดด้านเพศ และเสน่ห์อื่นๆ อีกมากมายใน Anora ช่างมีส่วนทางกายภาพและการนำเสนอที่คล้ายกับตัวละครซูอยู่ไม่น้อย
Mikey Madison กับการรับบท Anora Mikheeva ในภาพยนตร์เรื่อง Anora
แน่นอนว่าการเปรียบเทียบและเชื่อมโยงถึงภาพยนตร์เรื่อง The Substance กับการแย่งชิงตำแหน่งยอดพีระมิดในสาขานักแสดงนำหญิงอาจไม่ได้เปรียบแบบเสมือนตามเส้นเรื่องหรือองค์ประกอบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ไอเดียหลักของภาพยนตร์ชวนให้นึกถึงการแข่งขันที่มีความแตกต่างด้านอายุและความรุ่งโรจน์ตามเวลาทองเข้ามาเกี่ยวข้อง มันชวนผู้ชมสัมผัสถึงแก่นแท้ของวัฏจักรความเป็นไปของวงการบันเทิง และยุทธการครั้งท้ายๆ สำหรับการเหนี่ยวรั้งสิ่งที่ดีที่สุดหรือสิ่งที่เคยเป็นของตัวเอง (กระแสนิยม ความสนใจจากคนทั่วโลก เรื่อยไปจนถึงบทบาทสำคัญบนหน้าจอ) เชื่อว่าด้วยตัวเลขอายุ 62 ปีของเดมินี่น่าจะเปรียบเป็นสนามรบครั้งท้ายๆ ในชีวิต ในขณะที่ไมกี้คืออัศวินสาวคนใหม่ที่กำลังจะล้มแม่ทัพประสบการณ์สูง
อีกหนึ่งความท้าทายที่ไมกี้ต้องเผชิญไม่เพียงแต่การชิงรางวัลกับนักแสดงระดับแนวหน้าของวงการ แต่หมายถึงการฉีกกรอบการด่วนตัดสินหรือการมองภาพลักษณ์ภายนอกของตัวเธอเอง มิติความเซ็กซี่เย้ายวนและลักษณะทางกายภาพอันงดงามคือสิ่งที่ยั่วยวนดึงดูดผู้ชมให้สนใจได้อย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าหากเธอจะพิสูจน์ถึงฝีมือการแสดงก็ต้องเป็นผลงาน Anora ที่นำเสนอฉากวาบหวิวไปพร้อมกับเนื้อเรื่องและการแสดงอันเข้มข้น มิเช่นนั้นก็คงเป็นเหมือนตัวละครซูที่เข้ามาฉกฉวยโอกาสด้วยเรือนร่างและเสน่ห์แห่งความเยาว์วัยเพียงเท่านั้น การแย่งชิงรางวัลยิ่งใหญ่บนเวทีสำคัญระดับโลกคือความท้าทายที่จะหลีกหนีจากข้อครหาและคำสบประมาทที่เธออาจเป็นเพียงวัตถุทางเพศบนหน้าจอแบบซู ซึ่งตั้งแต่เปิดช่วงฤดูกาลแห่งการประกาศรางวัลไมกี้ก็พิสูจน์ตัวเองระดับหนึ่งแล้วกับการเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงแทบทุกเวที และยังสามารถคว้ารางวัลไปได้กับเวทีอย่าง BAFTA Awards มาแล้ว
จุดที่แตกต่างและเป็นเรื่องที่น่ายินดีคือ The Substance เล่าเรื่องความขัดแย้งและความโหดร้ายที่จะแย่งชิงพื้นที่สปอตไลต์ แต่สำหรับชีวิตจริงเดมิและไมกี้ไม่เป็นแบบนั้น ความพยายามของเดมิไม่ใช่การพยายามฝืนความแก่หรือถวิลหาความสนใจจนเกินพอดี หรือแม้แต่การเรียกร้องความยิ่งใหญ่เดิมๆ แบบยึดติด ในขณะที่ไมกี้ก็เป็นนักแสดงสาวผู้พร้อมพิสูจน์ตนเองด้วยความท้าทาย ไม่ได้มุ่งเป้าเพียงการนำเสนอตัวเองเป็นดั่งวัตถุทางเพศหรือใช้ความได้เชิงกายภาพเป็นบันไดความสำเร็จ ถึงตรงนี้การแข่งขันของเดมิและไมกี้คือการช่วงชิงความสำเร็จก็จริง แต่มิติความโหดร้ายและกลืนกินกันและกันจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน คอยติดตามกันว่าตลอดช่วงฤดูกาลประกาศรางวัลต่อจากนี้เดมิหรือไมกี้จะครองความสำเร็จในฐานะนักแสดงนำหญิงแห่งปีไปได้มากกว่ากัน
(สามารถอ่านเรื่องราว The Substance ขึ้นแท่นตัวเต็งรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งยุโรปในปี 2024 เพิ่มเติมได้ทีนี่)
WATCH
ภาพ : Courtesy of Studios
WATCH