dawn-of-old-day-the-weeknd
LIFESTYLE

เต้นรำไปกับ 'The Weeknd' ผ่านดนตรีกลิ่นอาย 1980 ที่ทั่วโลกต่างหลงรักในอัลบั้มใหม่ Dawn FM

“คุณอยู่ในความมืดหม่นนานเกินไปแล้วถึงเวลาเดินทางเข้าสู่แสงสว่าง และอ้าแขนรับชะตากรรมของตัวเองด้วยความเต็มใจ”

     “ขณะนี้คุณกำลังฟัง 103.5 Dawn FM” จากประโยคข้างต้น ลองจินตนาการถึงเสียงทุ้มนุ่มของดีเจดูสิ นี่คืออินโทรอย่างเป็นทางการสำหรับการต้อนรับเข้าสู่การฟัง Dawn FM อัลบั้มชุดใหม่ของ The Weeknd ศิลปิน นักร้อง และนักแต่งเพลงชาวแคนาดาวัย 31 ปี กับคอนเซปต์คลื่นวิทยุที่นักฟังเพลงทั่วโลกคุ้นหูกันเป็นอย่างดี มาพร้อมดนตรีกลิ่นอายเอตตี้ส์เฉพาะตัว ฟังครั้งแรกก็หลงรักหัวปักหัวปำกันแล้ว

dawn-of-old-day-the-weeknd

     ถ้าจะบอกว่าในตอนนี้เดอะ วีกเอนด์หรือชื่อจริงว่า Abel Makkonen Tesfaye คือซูเปอร์สตาร์ของวงการดนตรีระดับโลกก็คงไม่มีใครท้วง ด้วยเครดิตงามๆ จากเวทีประกาศรางวัลชั้นเซียน ได้แก่ 3 รางวัลแกรมมี่, 19 รางวัลบิลบอร์ด มิวสิก อะวอร์ด, 6 รางวัลอเมริกันมิวสิก อะวอร์ด, 15 รางวัลจูโน...นี่แค่ตัวอย่างเครื่องการันตีความสำเร็จนับตั้งแต่อัลบั้มชุดที่ 2 Beauty Behind the Madness (2015) ซึ่งมีเพลงดังอย่าง The Hills และ Can’t Feel My Face ต่อยอดมาจนถึงอัลบั้ม Starboy (2016) กับอภิมหาเพลงฮิต Starboy, I Feel It Coming, Die for You รวมไปถึงอัลบั้มก่อนหน้านี้ After Hours (2020) และแทร็กที่ร้องตามกันได้ทั่วโลก Heartless, Blinding Lights และ Save Your Tears ทั้งหมดนี้ส่งเดอะ วีกเอนด์เข้าสู่โชว์พักครึ่งศึกซูเปอร์โบว์ลแสนอลังการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว

dawn-of-old-day-the-weeknd

     การมาถึงของอัลบั้ม Dawn FM จึงเป็นสิ่งที่นักฟังเพลงทั่วทุกสารทิศต่างรอคอย น้ำจิ้มถ้วยแรกของเขาปล่อยออกมาเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วด้วยเพลง Take My Breath จังหวะดิสโก้กับดนตรีซินท์ป๊อปยุค 1980 เดือดๆ ที่ฟังแล้วอดโยกตามไม่ได้ ก่อนจะทิ้งช่วงมาปล่อยอัลบั้ม Dawn FM ที่เขาให้คำนิยามว่าเป็น “ประสบการณ์เกี่ยวกับเสียง” แบบเต็มๆ รับปีใหม่ปี 2022 จัดหนักจัดเต็มถึง 16 แทร็ก!!! พร้อมเนรมิตใบหน้าและทรงผมของเจ้าตัวให้แก่ชรา อีกทั้งยังทยอยส่งมิวสิกวิดีโอออกมาอย่างต่อเนื่องในเพลง Sacrifice และ Gasoline

     ฟังแยกเป็นซิงเกิลไม่เท่าไร ขอให้ทุกคนลองฟัง Dawn FM แบบเรียงแทร็ก อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าอินโทรของอัลบั้มนี้ให้ความรู้สึกเหมือนคุณกำลังฟังคลื่นวิทยุหลังจากไฟออนแอร์สว่าง เพลงซินท์ป๊อป จังหวะชวนโยกย้ายก็เริ่มบรรเลงทีละเพลงๆ มีช่วงพักเบรกเป็นเพลงจังหวะมีเดียมกึ่งช้าก่อนจะกลับไปเต้นรำกันอีกครั้งในช่วงท้าย นอกจากกลิ่นอายดนตรียุค 1980 ที่ชัดเจนแล้ว เดอะ วีกเอนด์ยังผสมผสานบรรยากาศแบบอาร์แอนด์บี ฟังกี้ โซล และอิเล็กทรอนิกส์เข้าไปด้วย



WATCH




     อัลบั้มชุดนี้มีศิลปินและโปรดิวเซอร์ชื่อดังมาร่วมงานด้วยเพียบ เช่น Quincy Jones สุดยอดโปรดิวเซอร์ผู้อยู่เบื้องหลังอัลบั้ม Off the Wall และ Thriller ของ Michael Jackson, Oneohtrix Point Never โปรดิวเซอร์สายทดลองน่าจับตามอง, แร็ปเปอร์ Lil Wayne และ Tyler, the Creator ก็มาร่วมแจมกับเขาด้วยเช่นกัน อ้อ! เสียงวอยซ์โอเวอร์ที่มาทำหน้าที่เป็นดีเจพูดชื่อคลื่น รวมถึงในเพลง Phantom Regret by Jim ก็ไม่ใช่เสียงของใครที่ไหน Jim Carrey นักแสดงฮอลลีวู้ดชื่อดังผู้ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านคนสนิทของเขานั่นเอง

dawn-of-old-day-the-weeknd

“คุณอยู่ในความมืดหม่นนานเกินไปแล้วถึงเวลาเดินทางเข้าสู่แสงสว่าง และอ้าแขนรับชะตากรรมของตัวเองด้วยความเต็มใจ”

...อีกหนึ่งบทพูดของจิม แคร์รีที่สะท้อนเรื่องราวในอัลบั้มนี้ได้เป็นอย่างดี ผู้คนทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับโรคระบาดโควิด-19 มายาวนาน เหมือนตกอยู่ในความมืดมนอนธการ การได้ฟังแต่ละแทร็กในอัลบั้มชุดนี้เปรียบเสมือนได้รับแสงสว่างที่ช่วยให้จิตใจสดชื่นเบิกบาน เต็มไปด้วยความสุข ยืนยันได้จากการพุ่งทะยานขึ้นอันดับ 1บนชาร์ตเพลงกว่า 10 ประเทศ (ส่วนในอเมริกาแตะสูงสุดที่อันดับ 2 เลยทีเดียว!)

     ใครที่บอกว่าเดอะ วีกเอนด์ทำงานตามใจตัวเอง ไม่ทำเพลงตามกระแสหลัก เราขอแก้แทนว่านั่นแหละคือตัวตนที่ทำให้ศิลปินผู้นี้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถพาดนตรียุคแปดศูนย์มาเฉิดฉายในปัจจุบันได้ แม้ว่าจะมีบางคนเคยหยิบซินท์ป๊อปจากยุคดังกล่าวมาสร้างกระแส แต่ก็แค่ผิวเผิน เทียบไม่ได้กับชุดนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในทำเนียบคอนเซปต์อัลบั้มที่น่าตื่นเต้นที่สุดในรอบปีนี้...แม้ว่าปี 2022 เพิ่งจะผ่านมาเพียงไม่กี่เดือนก็ตาม

WATCH

คีย์เวิร์ด: #TheWeeknd #DawnFM