เปิดบทเรียนในวันที่มืดมัว...เมื่อ YG เลือกหันหลังให้ควีนแห่งเคป๊อป CL
Queen of Kpop อย่าง CL ผ่านสมรภูมิรบมากมาย แม้คนที่ไว้ใจที่สุดอย่างต้นสังกัด
"ดองเด็ก" "ยืดคัมแบ็ก" "ไม่ยุติธรรม" สารพัดถ้อยคำที่ใช้ต่อว่าค่ายดัง YG นี้มาจากแฟนคลับล้วนๆ แต่ไหนแต่ไรมาค่ายวายจีนอกจากจะเป็นที่พูดถึงในแง่ของความเท่ คูล และการผลิตศิลปินมากความสามารถแล้ว ก็ยังมาพร้อมกับชื่อเสียงลบๆ มากมายไม่ต่างกัน ตึกดำแห่งนี้กดดันเด็กเพื่อสร้างศิลปินคุณภาพ หากเวลาเดียวกันก็ดูแลอย่างไม่ยุติธรรม
ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือธุรกิจอย่างหนึ่งเมื่อค่ายลงทุนในตัวเด็กแล้ว เขาย่อมอยากได้ผลตอบแทนมหาศาลกลับมาเป็นของขวัญ เด็กหลายคนเสียนิสัยก็เพราะค่ายให้ท้าย เด็กบางคนถูกหลงลืมไปเพราะค่ายละเลยและปล่อยทิ้ง ความเท่าเทียมยุติธรรมไม่เคยเกิดขึ้น หลายคำถามจึงตามมาว่านอกจากผูกพันธ์ทางสัญญา ค่าตอบแทน และผลพลอยได้แล้ว ความผูกพันธ์ด้านจิตใจพวกเขาเคยมีให้กับศิลปินอย่างครอบครัวหรือไม่
เราได้ยินตลอดว่าศิลปินด้วยกันเองนั้นรักใคร่กลมเกลียวกันดี แม้แต่ตัวศิลปินและสตาฟเองก็รักกันราวกับคนในคนครอบครัว แล้วความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารค่ายและศิลปินล่ะ ประสบการณ์นี้ส่งตรงจากเรื่องจริงของศิลปินหญิงที่เยี่ยมที่สุดในค่าย เธอคือควีนแห่งเคป๊อปของแท้ Lee Chae Rin หรือชื่อที่เรารู้จักกันดี CL เพราะในวันที่หนทางริบหรี่ที่สุดค่ายตัดสินใจหันหลังให้กับเธอ
ภาพ: Pinterest
ซีแอลในช่วงวัยรุ่นนั้นมีหลายครั้งที่เธอรู้สึกเข้ากับที่ไหนไม่ได้เลย ด้วยความที่เธอเติบโตมากับวัฒนธรรมที่หลากหลาย เธอย้ายประเทศบ่อยครั้ง เปลี่ยนสภาพแวดล้อมและการใช้ชีวิตหลายรูปแบบ จากฝรั่งเศส ไปที่ญี่ปุ่น แล้วมาจบที่เกาหลีใต้ วัฒนธรรมต่างขั้วทำให้เธอไม่รู้สึกเป็นที่ยอมรับและลงเอยกลายเป็นว่าเธอเหมือนเอเลี่ยนและคนขี้แพ้ หากสิ่งที่เยียวยาหัวใจและจิตวิญญาณของเธอมาตลอดคือการร้องเพลง ซีแอลรู้ดีว่าเธอชื่นชอบการร้องเพลงและต้องการจะเป็นศิลปิน เมื่อเธอเรียนรู้ถึงคุณค่าและความสามารถของตัวเอง มันทำให้คนอื่นเชื่อมั่นในตัวเธอแบบนั้น แชรินคนใหม่ก้าวขึ้นมาในฐานะของซีแอล เธอเรียนรู้ฝึกฝนและพัฒนาจนกลายมาเป็นยอดพีระมิดสูงสุดของวงการ พร้อมๆ กับเพื่อนในวง 2NE1 ที่ประกอบไปด้วย Bom, Dara และ Minzy
ภาพ: Koreaboo
หลังวง 2NE1 ที่ซีแอลเป็นสมาชิกอยู่ประสบความสำเร็จที่อันดับหนึ่งของวงการ สัญญาณต่อไปคือการก้าวเข้าสู่ช่วงโซโล่ของตัวเอง เธอเซ็นสัญญาสำหรับทำงานเพลงในฝั่งตะวันตกกับ School Boy Records ไปด้วย และปล่อยเพลงในฐานะศิลปินเดี่ยวคือ THE BADDEST FEMALE ซึ่งผลตอบรับก็ดีแบบที่คาดไว้ เธอเริ่มไต่บันไดสูงขึ้นสู่ฟากฝั่งตะวันตก โดยมี Scooter Braun เป็นผู้จัดการขณะเป็นศิลปินเดี่ยวที่สหรัฐฯ โดยมีเพลง Hello Bitches เป็นซิงเกิลแรกก่อนจะตามมาด้วย Lifted หากว่าการทำงานที่ต่างประเทศไม่ได้สวยงามและง่ายดายอย่างที่คิด ซีแอลไปโดยมีทีมงานจากเกาหลีใต้เพียงหยิบมือ ทุกอย่างเธอต้องเริ่มต้นใหม่โดยไร้ความช่วยเหลือจากค่ายวายจี
เธอเคยเล่าถึงประสบการณ์มากมายผ่านรายการ Livin' The Double Life ที่ออกฉายทางช่อง tvN ว่าเธอต้องพบทั้งงบประมาณที่มีน้อยมากในการทำเอ็มวี หรือความเหงายามที่เธอต้องไกลบ้านโดยไม่มีใครให้คำปรึกษา แต่ซีแอลก็พยายามมาตลอดและฝ่าฟันที่จะตีตลาดอเมริกาด้วยความสามารถของเธอเอง หากระหว่างวิ่งวุ่นหัวหมุนกับงานโซโล่ที่ตะวันตก มรสุมลูกใหญ่ที่สุดก็ดันพัดมาตกที่เธอจนได้
ความสัมพันธ์ระหองระแหงระหว่างเธอกับค่ายเป็นที่รู้กันดีว่ามีมาแต่ช้านาน หากว่ามันขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น เมื่อวง 2NE1 ที่เคยทำรายได้มหาศาลให้กับค่ายนั้นต้องหยุดพักวงไปชั่วคราว เนื่องจากส่วนหนึ่งซีแอลเองไปทำโซโล่ ในขณะที่ดาราเองก็มีงานวาไรตี้โชว์มากมาย ส่วนสาวบอมเองต้องพักรักษาตัวจากสภาพจิตใจ และคนสุดท้ายอย่างมินจีที่สุ่มทำโซโล่แต่ค่ายก็ยังไม่อนุมัติ ความห่างเหินที่ก่อตัวขึ้นระหว่างวงก็มากขึ้นเรื่อยๆ 2NE1 เริ่มกระจัดกระจายกันออกไป
WATCH
ภาพ: Reddit
กระทั่งมินจีประกาศแยกวง โดยแฟนคลับแบล็กแจ็กคาดการณ์ว่าเธอคงรอการคัมแบ็กของวงไม่ไหว ในขณะที่บอมเองขอไม่ต่อสัญญา ด้วยมรสุมทั้งปัญหาด้านจิตใจและปัญหาข่าวด้านยาเสพติดที่เธอถูกลากเข้าไปพัวพันเริ่มขมวดแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งดำเนินมาถึงทางแยก ค่ายประกาศยุบวงอย่างเป็นทางการ ซีแอลให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเดียวกันว่าเรื่องนี้มันทำให้เธอใจสลายและรู้สึกว่ามันยากมาก เธอเล่าพร้อมน้ำตาคลอเบ้าและสารภาพว่าเธออยากทำอะไรสักอย่างกับมัน เธอรู้สึกว่าต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
แน่นอนว่าเธอต้องโทษตัวเองเพราะในวันที่วงกำลังอ่อนแอมากที่สุด เธอผู้เป็นหัวหน้าวงกลับไม่ได้อยู่ร่วมต่อสู้ไปพร้อมกับทุกคน ความรู้สึกผิดคงเกิดขึ้นในใจมากมายและอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน (ซึ่งในปี 2022 งาน Coachella ที่ผ่านมา เธอได้จัดรียูเนียนอีกครั้งบนเวทีระดับโลก เพื่อแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าพวกเธอยังไม่ยอมแพ้ในกันและกัน แม้ค่ายจะทิ้งพวกเธอไปแล้วก็ตาม ซีแอลเล่าว่านี่คือจุดเริ่มต้นความสำเร็จของเธอ นี่คือส่วนหนึ่งในชีวิตที่เธอภูมิใจมากที่สุด และเธออยากจะโชว์ให้เห็นว่าเธอเชื่อในกันและกันเสมอ)
หากชีวิตยังคงเดินต่อแม้ว่าหน้าที่ในวงสิ้นสุดแล้ว ซีแอลยังคงทำงานภายใต้วายจีต่อไป โดยลางร้ายที่เคยประสบมาคราวนี้ก็แย่ยิ่งกว่าเก่า ค่ายเองไม่ใยดีศิลปินเดี่ยวอย่างเธออีกแล้ว ทั้งละเลยและปล่อยเฉย ไม่สนับสนุนและดองงานของเธอไว้จำนวนหลายชิ้น ส่วนหนึ่งเพราะวายจีกำลังทุ่มเทไปกับการปั้นกลุ่มใหม่ด้วย หลังหาข้อตกลงร่วมกันไม่ได้ในสัญญาฉบับใหม่ ซีแอลมองไม่เห็นอนาคตของตัวเองในวงการกับค่าย เธอจึงเลือกที่จะเดินออกมาและสู้ต่อด้วยกำลังของตัวเอง ไม่ใช่ว่าเธอทิ้งค่าย แต่เป็นค่ายต่างหากที่ไม่เห็นเงาเธอและเลือกทิ้งเธอในวันที่เธอต้องการกำลังใจมากที่สุดต่างหาก
ภาพ: Pinterest
หนทางใหม่ที่สดใสที่สุดเมื่อซีแอลประกาศเปิดค่ายเป็นของตัวเองในชื่อ Very Cherry เธอใช้ความรู้และประสบการณ์ทั้งหมดที่มีในการพัฒนาระบบ ทีมงาน และไม่ยอมที่จะต้องกลับไปวนเวียนอยู่ในระบบเคป๊อปแบบเดิมๆ อีกต่อไป ซึ่งเธอยังทำงานร่วมกับค่าย Konnect Entertainment ที่จะเข้ามาช่วยเป็นแรงส่งให้เธอได้โปรโมตเพลงในเกาหลีใต้ อย่างอัลบั้มใหม่ ALPHA ต้องยอมรับว่าความนิยมของเธออาจลดน้อยถอยลง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าซีแอลดูมีความสุขในแบบของเธอ เหมือนเธอเจอตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดแล้วในวันนี้
ภาพ: Pinterest
ในด้านความเป็นศิลปินเราได้เห็นพัฒนาการด้านดนตรี และความไม่กลัวในการทดลองเพลงสไตล์ใหม่ เธอไม่ได้เน้นไปที่เคป๊อปจ๋าหรือตะวันตกจ๋า ทุกอย่างคือความลงตัวในแบบที่เธอเป็น ถ่ายทอดความเป็นตัวเองที่มีทั้งความเป็นเอเชียและตะวันตกผสมผสานกันอย่างลงตัว เธอเป็นตัวเองอย่างสุดขั้วและไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เข้ากับกรอบที่สังคมวาดไว้ ซีแอลผสมผสานหลากหลายซาวด์เพื่อหาจุดสมดุลและความลงตัวมากที่สุด ในช่วงแรกเธอเอนเอียงไปทางฮิปฮอปและอิเล็กทรอนิกส์บีตหนักๆ ไปจนถึงช่วงหลังๆ ที่มีการหยิบเอาสไตล์เรกเก้ฟิวชั่นดูสบายๆ มากขึ้นกว่าเก่ามาใช้ และเลือกเอาทรอปิคัลแดนซ์เข้ามาผสมผสาน ที่สำคัญคือทั้งวงการรู้ถึงการแสดงไลฟ์สดและการเล่นคอนเสิร์ตดี ว่าซีแอลมี Stage Presence ที่โคตรจะ Bad B*tch และทำโชว์ได้เจ๋งที่สุดในวงการ
ซีแอลสร้างประวัติศาสตร์มากมายให้กับอุตสาหกรรมเกาหลีใต้ ฉายา Queen of K-pop แลกมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเธอทั้งนั้น เธอคือผู้สร้างคลื่นลูกใหญ่แห่งวงการเคป๊อปให้เป็นที่รู้จักข้ามประเทศ เธอถางทางให้เด็กรุ่นใหม่ได้โอกาสมีหน้าตาในวงการ เพลงของเธอและวง 2NE1 มีอิทธิพลต่อการทำเพลงในยุคหลังเป็นอย่างมาก ซีแอลในวัย 12 ปีเคยกล่าวไว้ว่าตัวเธออยากเป็นตัวอย่างของเด็กรุ่นใหม่ที่ต้องการจะเป็นดาว เหมือนที่เธอได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปินหญิงทรงพลังทั้ง Madonna และ Lauryn Hill ซึ่งในวันนี้เธอเองก็ทำมันสำเร็จแล้ว
ข้อมูล : KoreaBoo, tvN
WATCH