เพิ่งจะฉลองวันเกิดครบรอบปีที่ 75 ไปหมาดๆ สำหรับนักร้องหญิงในตำนานอย่าง Cher ที่หลายคนไม่เพียงจดจำเธอในฐานะของศิลปินอันเลื่องชื่อ แต่ยังจดจำเธอในฐานะของแฟชั่นไอคอนคนสำคัญ ที่สร้างบรรทัดฐานด้านการแต่งตัวให้กับวงการเพลง และโลกแฟชั่นตั้งแต่ยุค 1970s เป็นต้นมา ซึ่งล่าสุดความเก๋าประสบการณ์หลายทศวรรษในวงการเพลง และวงการฮอลลีวู้ดของเธอผู้นี้ ก็กำลังจะถูกหยิบยกขึ้นมาตีแผ่เป็นภาพยนตร์สารคดีชีวิตเป็นครั้งแรก

     จากอัพเดตล่าสุดของศิลปินหญิงวัย 75 ปี ผ่านบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวของเธอ เผยเกี่ยวกับภาพยนตร์สารคดีตีแผ่ชีวิตเรื่องนี้เอาไว้ว่า นักเขียนบทชื่อดังอย่าง Eric Roth ผู้ที่เคยฝากผลงานเอาไว้กับภาพยนตร์ขึ้นหิ้งเรื่อง A Star Is Born และ Forest Gump (ที่เคยเป็นผลงานที่ทำให้เขาขึ้นรับรางวัลออสการ์ ปี 1995 มาแล้ว) จะร่วมมือกับค่ายภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ Universal Pictures พร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพอีกมากมายที่พร้อมจะรังสรรค์ให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ครบรสมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ยังจะได้โปรดิวเซอร์จากภาพยนตร์เรื่อง Mama Mia! ที่เคยร่วมงานกับแชร์มาแล้ว มาร่วมงานเป็นโปรดิวเซอร์ร่วม โดยแชร์ยังเซอร์ไพรส์เหล่าแฟนคลับด้วยว่า “เธอจะลงมาเป็นโปรดิวเซอร์ด้วยตัวเอง”...

     สำหรับแชร์แล้วอาจเรียกได้ว่าเธอคือ “ดาวค้างฟ้า” คนหนึ่งแห่งวงการฮอลลีวู้ดอย่างแท้จริง เธอประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงยุค 1960s และ 1970s ในฐานะของนักร้อง กับซิงเกิ้ลที่ทำให้เธอเฟื่องฟูถึงขีดสุดอย่าง Gypsys, Tramps & Thieves และ Half-Breed ก่อนที่ในช่วงยุค 1980s เธอจะได้ท้าทายนิยามครั้งใหม่ของตัวเอง ด้วยการกระโดดออกมาจับงานแสดงเป็นครั้งแรกๆ ในบทนำภาพยนตร์ที่ส่งให้เธอกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่อง Silkwood, Mask, The Witches of  Eastwick และ Moonstruck ที่ทำให้เส้นทางการแสดงของเธอนั้นรุ่งโรจน์จนถึงขีดสุด กระทั่งได้ขึ้นรับรางวัลออสการ์ในสาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยมเมื่อปี 1988 มาแล้ว ทว่าความโด่งดังของเธอยังเตะตาเหล่าสายแฟ(ชั่น)หลายคน จากการสวมใส่ชุดสวยสะดุดตาในหลากหลายงานจนกลายเป็นที่จดจำ ดังเช่นภาพถ่ายสุดไอคอนิกจากงานรางวัลออสการ์ในปีนั้นที่เธอได้รับรางวัล กับชุดซีทรูสีดำแนบเนื้อ ปักเลื่อมสุดหรู โดยฝีมือของดีไซเนอร์ Bob Mackie ที่ถูกยกย่องให้เป็นชุดที่น่าจดจำที่สุดตลอดกาลบนพรมแดงไปโดยปริยาย นอกจากนี้แชร์ยังมีอีกหนึ่งบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนสิทธิในสังคมของกลุ่ม LGBTQ+ ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน และทั้งหมดที่กล่าวมาก็คงจะเป็นคำตอบแล้ว่า ทำไมคุณต้องรอดูภาพยนตร์สารคดีชีวิตเรื่องนี้