จาก แฟนเดย์ ถึง Business Proposal ไขรหัสว่าทำไมเรื่องราวความรักในออฟฟิศจึงเป็นที่นิยม
เพราะโครงสร้างบางอย่างรักษาไว้ด้วยการสร้างเรื่องราวที่ผ่านการ Romanticize จนกลายเป็นเรื่องราวที่น่าติดตาม
ในขณะที่กระแสซีรี่ส์เรื่อง Business Proposal ขึ้นแท่นเป็นซีรี่ส์ยอดฮิตบนเน็ตฟลิกซ์ หลายคนประทับใจกับวิธีการนำเสนอแง่มุมความรักสุดปั่นป่วนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่สร้างรอยยิ้มให้กับผู้ชมตลอดหลายสัปดาห์ (ซีรี่ส์เรื่องนี้ปล่อยออกมาทีละตอน ไม่ใช่แบบปล่อยรวดเดียวทั้งเซ็ต) ความรักระหว่างประธานบริษัทสุดสมบูรณ์แบบ กับพนักงานกลายเป็นเรื่องราววุ่นๆ ที่ชวนติดตามแบบไม่มีเบื่อ ด้วยรูปแบบการเล่าที่ติดกลิ่นอายคอมเมดี้หน่อยๆ ผสานกับการผลักดันโมเมนต์น่ารักๆ ก็ยิ่งทำให้ Business Proposal ครองใจผู้ชมได้อย่างต่อเนื่อง
คลิกอ่านประวัติของพระเอกใน Business Proposal ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.vogue.co.th/lifestyle/article/ahn-hyo-seop-business-proposal
โปสเตอร์ซีรี่ส์เรื่อง Business Proposal / ภาพ: Netflix
แม้เราจะเห็นกระแสความนิยมซีรี่ส์หรือผลผลิตด้านบันเทิงที่กล่าวถึงความรักในสถานที่ทำงาน มันมักเกิดขึ้นและเชื่อมโยงประสบการณ์ระหว่างตัวละครกับผู้ชมได้อย่างดีไม่แพ้ความรักในวัยเรียนเลยทีเดียว แล้วอะไรที่ทำให้ความรักในออฟฟิศมันถึงมีเสน่ห์นัก และถูกผลิตซ้ำอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมบันเทิงฟากเอเชีย ทำไมความรักในออฟฟิศที่นำเสนอผ่านมุมมองคนเอเชียถึงได้กลายเป็นที่นิยมในแต่ละประเทศ หรืออาจจะในสเกลระดับโลกเลยด้วยซ้ำ คำตอบที่เรากำลังตามหาผู้คนอาจเผชิญอยู่ทุกวันแต่มันอาจเป็นปกติเสียจนไม่ได้รู้สึกอะไรนัก
คิมมินกยูกับลุคหนุ่มแว่นทรงเสน่ห์จาก Business Proposal / ภาพ: Hallyu K Star
กฎข้อห้ามและความรักอันหอมหวาน ประการแรกต้องบอกว่าสิ่งที่ทำให้ความรักในออฟฟิศท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหลายบริษัทที่ในเอเชียที่ห้ามคบกันในบริษัทหรือห้ามมีแฟนเลยด้วยซ้ำ ปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นเรื่องท้าทายที่กระตุ้นผู้ชมหลายคนที่อาจมีประสบการณ์ร่วมได้อย่างดี อีกทั้งความรักในภาพยนตร์หรือซีรี่ส์อาจคอย Romanticize และสร้างความรู้สึกของการถูกเติมเต็มได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะฉะนั้นซีรี่ส์ที่นำเสนอความรักในออฟฟิศจึงเปรียบดั่งกาวเชื่อมสัมพันธ์ของมนุษย์ระหว่างโลกความจริงกับโลกภาพยนตร์ได้อย่างยอดเยี่ยม
WATCH
บรรยากาศความรักเหนือจินตนาการในภาพยนตร์เรื่องแฟนเดย์ / ภาพ: GDH
ระดับชนชั้นและความแตกต่างเชิงสถานะในบริษัทอาจกำลังเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสังคมจริงด้วยสเกลเล็กลงได้ จากภาพยนตร์เรื่องแฟนเดย์เราเห็นว่าฝ่ายชายหลงใหลฝ่ายหญิง แต่ด้วยกำแพงด้านสถานะและตำแหน่งงานทำให้เขาทำได้เพียงสร้างโลกในจินตนาการขึ้นมาเอง เหตุผลต้นเรื่องมันกลับไม่ใช่อะไรที่ซับซ้อนนัก แต่การตีตราให้ค่ากับอาชีพหรือระดับทางชนชั้นคือกำแพงที่ปรากฏขึ้น พนักงานที่ทำงานเบื้องหลัง คอยสนับสนุนและบำรุงผู้ทำงานสร้างผลผลิตมักถูกมองว่าอยู่ในระดับชั้นที่ต่ำกว่า ทั้งช่างซ่อมบำรุง พนักงานคอมพิวเตอร์ แม่บ้าน และอีกหลายต่อหลายตำแหน่ง พวกเขาจึงเป็นเหมือนผู้ดำรงอยู่ในชนชั้นที่ต่างออกไป และไม่ได้เป็นเหมือนพนักงานทั่วไปในออฟฟิศ ทั้งๆ ที่จริงแล้วเขาก็เป็นมนุษย์เหมือนกับเรา ลองคิดดูว่าถ้าทุกคนให้ค่าความเป็นมนุษย์เท่ากัน มันคงไม่เกิดจินตนาการอันสูงส่งและคำเปรียบเปรยว่า “ดอกฟ้ากับหมาวัด” ในออฟฟิศอย่างแน่นอน ปัจจัยนี้นับเพียงเรื่องในบริษัทเท่านั้น ยังไม่รวมบริบทอื่นๆ ภายนอกด้วยซ้ำ
ความแตกต่างกันของหน้าที่อันนำมาซึ่งอุปสรรคด้านความรัก / ภาพ: Major Cineplex
เรื่องสถานะอันแตกต่างคือเรื่องอมตะที่บอกเล่าสร้างความบันเทิงมาโดยตลอด จากภาพยนตร์และซีรี่ส์โรแมนติกนับร้อยนับพันเรื่อง มีจำนวนไม่น้อยที่พูดถึงความรักระหว่างบุคคลที่แตกต่างกันด้านสถานะทางสังคม การเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และค่อยๆ ปรับตัวนั้นคือมนต์เสน่ห์ที่ทำให้ผลผลิตดังกล่าวดูมีมิติมากขึ้น อย่างซีรี่ส์เลขาคิมที่ทุกคนคุ้นหูกันนั้นก็มีการวางรากฐานตัวละครไว้อย่างดี ประธานและเลขาไม่ได้มีแค่เรื่องความสัมพันธ์เท่านั้น แต่เรื่องราวเบื้องหลัง รวมถึงการตัดสินใจต่างๆ มีเหตุและผล เรื่องนี้จึงเหมือนการยกระดับซีรี่ส์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในออฟฟิศได้ชัดเจนเรื่องหนึ่ง
โมเมนต์แห่งความทรงจำที่ทุกคนนึกถึงจากซีรี่ส์ที่ทุกคนเรียกว่า 'เลขาคิม' / ภาพ: MonoMax
โลกความจริงไม่ได้หนีห่างจากโลกบันเทิงเสียทีเดียว ทุกอย่างล้วนมีเหตุและผลอันเหมาะเจาะที่เกิดขึ้นได้จริง ความสัมพันธ์ของคนเอเชียถูกจัดลำดับไว้เป็นลำดับขั้นบันไดชัดเจน ไม่ได้พูดถึงเรื่องตำแหน่งหรือสายการทำงาน แต่ยังหมายถึงสภาพสังคมที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อคนในออฟฟิศ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นทั่วโลก แต่ลองมองให้ชัดเจนจะเห็นว่าในประเทศแถบเอเชียมีการแบ่งแยกชนชั้นภายในออฟฟิศอย่างโจ่งแจ้ง สุดท้ายเรื่องราวดังกล่าวก็ถูกนำมาเล่าเสียที แต่น่าเสียดายที่มันก็ถูกเล่าด้วยเทคนิคการใช้อารมณ์นำ มีความรู้สึก มีความสงสาร เต็มไปด้วยคราบน้ำตา หรือบางครั้งอาจเล่าผ่านมุมมองแสนเบาสบาย ติดตลกนิดหน่อย กลายเป็นซีรี่ส์คอมเมดี้ที่น่าจดจำ ดังนั้นมนต์เสน่ห์ที่ทำให้เรื่องราวประเภทนี้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าคือ ผู้คนเข้าใจมัน ผ่านประสบการณ์นั้นมา และที่สำคัญคือมันคอยเป็นยาสำหรับเยียวยาผู้คนที่ตั้งความหวังให้ออฟฟิศเต็มไปด้วยบทสรุปของความสัมพันธ์ที่ดี บริบททางสังคมที่มันควรถูกมองเห็นและผู้คนเริ่มตระหนักรู้ด้วยตัวเองก็ถูกมองข้ามไปอีกครั้งอย่างน่าเสียดาย...
WATCH