จะไม่มีวันได้เห็นเราอีก! นักร้องนำวง Blur กล่าวอย่างหัวเสียกลางเวทีหลักงาน Coachella 2024

     ในขณะที่ทุกคนแห่แหนกันทุ่มความสนใจไปให้กับเทศกาลดนตรีอย่าง Coachella ซึ่งกลายเป็นกระแสและสัญญะแห่งวัฒนธรรมยุคใหม่ไปแล้วเรียบร้อย ศิลปินมากหน้าหลายตาจากหลากหลายแนว ตั้งแต่ศิลปินป๊อป ฮิปฮอป เรื่อยไปจนถึงศิลปินจากอุตสาหกรรมเคป๊อปก็ต่างหลั่งไหลกันขึ้นเวทีแสดงต่อหน้าผู้ชมเรือนแสน ดูเหมือนว่านี่จะเป็นเวทีอันยิ่งใหญ่ที่อ้าแขนรับผู้ชมและเปิดโอกาสให้ศิลปินได้แสดงความยอดเยี่ยมต่อหน้าคอดนตรีจำนวนมาก ทว่าสำหรับบางคนอาจไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเวทีโคเชลล่าอาจไม่เหมาะกับพวกเขาและมันก็อาจแสดงให้เห็นว่าบางครั้งเวลาและสถานที่ที่เป็นกระแสก็อาจไม่ใช่สิ่งที่เหมาะเจาะสมบูรณ์กับทุกคนเสมอไป

     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่องวันที่ 13 เมษายน 2024 วง Blur นำโดยนักร้องมากประสบการณ์อย่าง Damon Albarn ขึ้นเวทีหลักพร้อมเตรียมเซ็ตเพลงกว่า 13 เพลงขึ้นแสดงต่อหน้าผู้ชมหลักแสน โดยลิสต์เพลงประกอบด้วยเพลงดังอย่าง “Girls & Boys” และ “Song 2” ทว่าจากความคาดหวังอันงดงามมันกลายเป็นวันอันน่าขื่นขมของเดม่อนไปโดยปริยาย เพราะแฟนๆ เงียบกริบในขณะที่เขาต้องการให้ทุกคนมีส่วนร่วมกับเพลงชูโรงของวง เขาถึงขั้นสบถและกล่าวด้วยความหัวเสียว่า “You’re never seeing us again so you might as well f***ing sing it. Know what I’m saying ?” เรียกว่านักร้องระดับไอคอนคุมสติไม่อยู่และสับแหลกแฟนๆ ในงานเทศกาลแห่งนี้

     ต้องบอกว่าเดม่อนไม่ใช่ศิลปินหน้าใหม่หรือดาวดับแสง เขาคือนักร้องนำวง Blur และ Gorillaz ที่มีเพลงฮิตติดหูมากมาย นั่นทำให้คำวิจารณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แตกเป็น 2 ฝั่งชัดเจน บ้างก็ว่าวงของเขาตกยุคไปเสียแล้ว และยังไม่เหมาะกับเวทีโคเชลล่า ในขณะที่หลายคนมองมุมต่าง โดยพวกเขามองว่านี่คือตำนานแห่งวงการดนตรี การที่ฝูงชนในโคเชลล่าเงียบสงัดใส่เขาแบบนั้นมันช่างน่าอับอาย ซึ่งมันใหญ่โตจนกลายเป็นสิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์กันถึงประเด็นช่วงวัยผู้เข้าร่วมงานเทศกาลดนตรี รสนิยม และรูปแบบงานโคเชลล่ากันเลยทีเดียว

     หลายคนที่มองเป็นกลางก็มองว่าวงของเดม่อนอาจถูกบุ๊คมาอยู่ผิดที่ผิดทาง เพราะโคเชลล่ามีกลุ่มผู้ฟังดนตรีและเสพสมประสบการณ์แบบวัยรุ่นที่ต้องการความสดใหม่ อาจไม่ได้ต้องการเสพความไอคอนิกในหน้าประวัติศาสตร์วงการดนตรีขนาดนั้น หรือพูดอย่างง่ายว่าโคเชลล่าและเดม่อนอาจไม่ได้คู่สัมพันธ์ที่ลงตัวเท่าไหร่นักตั้งแต่แรก มันจึงเกิดเหตุการณ์ชวนหัวเสียและน่าอับอายแบบนี้ขึ้น เหตุการณ์นี้นำมาสู่การตั้งคำถามว่าโคเชลล่านั้นยังเป็นเทศกาลดนตรีอยู่หรือเป็นเพียงเทศกาลเฟสติวัลที่คนเข้ามาแต่งองค์ทรงเครื่องราวกับงานปาร์ตี้เพียงเท่านั้น มันถูกนำไปเทียบกับ Woodstock ดั้งเดิมหรือ Glastonbury ที่ให้ความสำคัญด้านดนตรีที่เป็นชิ้นเป็นอันมากกว่า ในวันที่ตำนานถูกละทิ้งกลางเวทีที่คนทั่วโลกนิยามว่ายิ่งใหญ่สุดของวงการดนตรี คำถามคือนี่ยังจะครองสถานะเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้หรือไม่ หรือเป็นเพียงงานเฟสติวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพียงเท่านั้น