ถ้าจะพูดถึงสุดยอดศิลปินแห่งยุค 2020s ก็คงต้องมีชื่อของ Billie Eilish ปรากฏขึ้นอย่างแน่นอน เพราะเธอคือศิลปินที่ได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตผลงานคุณภาพและมีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ ตลอดระยะเวลาหลายปีเธอเริ่มต้นจากเด็กสาวที่ค่อยๆ สร้างฐานแฟนคลับมากขึ้น อีกทั้งยังพัฒนาผลงานตัวเองอยู่เสมอ ความสามารถของเธอพาให้ชีวิตของศิลปินคนหนึ่งนำเสนอเพลงประกอบภาพยนตร์ ซึ่งเพลงที่บิลลี่รังสรรค์ขึ้นนั้นสามารถเข้าถึงผู้ฟังได้อย่างกว้างขวาง และกลายเป็นส่วนหนึ่งของศิลปินที่คลุกคลีกับแวดวงภาพยนตร์อย่างสมบูรณ์

     บิลลี่กำลังทำสถิติที่น่าสนใจ เมื่อปี 2022 เธอมาร่วมงาน Golden Globes ครั้งที่ 79 ในฐานะผู้เข้าชิงรางวัล ‘Best Original Song’ กับผลงานเพลง  ‘No Time To Die’ ประกอบภาพยนตร์ในชื่อเดียวกัน และวันนั้นเธอก็คว้ารางวัลกลับบ้านไปแบบไม่ค้านสายตาใครทั้งนั้น เหตุการณ์วันนั้นเปรียบดั่งจุดเริ่มต้นที่คนเริ่มคาดหวังกับบิลลี่ว่านอกจากจะรังสรรค์ผลงานดนตรีแล้วเธอน่าจะสรรสร้างผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์จนก้าวขึ้นสู่บุคคลสำคัญแบบข้ามวงการได้อย่างต่อเนื่อง และเวลาก็ก้าวข้ามมาถึงปี 2024 กับช่วงเวลาสำคัญที่เธอพร้อมทำสถิติอันน่าประทับใจ

     งานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 81 บิลลี่มาร่วมงานอีกครั้งในฐานะผู้เข้าชิงรางวัลสาขาเดิม ครั้งนี้มากับผลงานเพลง ‘What Was I Made For?’ เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง ‘Barbie’ ซึ่งเป็นผลงานภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลหลายสาขา รวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกด้วย แต่รางวัลที่น่าสนใจกว่ารางวัลใหญ่สุดของงานคงจะเป็นรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ ซึ่งถ้าบิลลี่คว้ารางวัลนี้ไปครองก็เท่ากับว่าเธอจะคว้ารางวัล 2 จาก 2 ครั้งที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง และแน่นอนว่าเธอทำสำเร็จ บิลลี่คว้ารางวัลลูกโลกทองคำกลับไปเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต เธอขึ้นรับรางวัลพร้อมกับ Finneas พี่ชายมากความสามารถเช่นเคย นับเป็นโมเมนต์อันน่าประทับใจและเป็นสถิติที่คาดหวังว่าในอนาคตเธอจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมต่อไป