LIFESTYLE
เค้นบทเรียนเหตุดราม่า แบมแบม แห่งวง GOT7 ช่วยโปรโมตให้จินยอง ที่่กลายเป็นดราม่ากระทบจิตใจคำถามสำคัญคือเราจะทำให้ศิลปินหรือคนดังกลายเป็นเครื่องมือรองรับอารมณ์อีกนานแค่ไหน หรือบางคนไม่ได้มองเขาเป็นมนุษย์อีกต่อไป |
“เครื่องมือรองรับอารมณ์” ดูเหมือนว่าคนดังระดับประเทศหรือระดับโลกหลายคนต้องก้าวผ่านสถานะนี้โดยไม่สามารถต่อต้านอะไรได้เลย ฟากศิลปินเกาหลีที่มีแฟนคลับหนาแน่นก็ต้องเผชิญกับความลำบากยากเข็ญในการรักษาตัวตน ในขณะที่ต้องแบกรับความคิดเห็นด้านลบที่ประเดประดังเข้ามาแบบไม่ขาดสาย แบมแบม แห่งวง GOT7 เป็นอีกหนึ่งคนที่ประสบเหตุการณ์ดราม่าบ่อยครั้ง บ่อยเสียจนครั้งล่าสุดในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2022 ถึงขั้นลบข้อความบางอย่างและเปลี่ยนภาพดิสเพลย์เป็นสีดำ สะท้อนความอึดอัดและยังต้องแบกรับ แม้ตัวเองอาจไม่ได้ทำอะไรผิด
ทวิตเตอร์ที่เต็มไปด้วยสีดำของแบมแบม
กระแสเกิดขึ้นจากการโพสต์โปรโมตเพื่อนร่วมวงอย่างจินยองด้วยภาพสกินเฮดพร้อมแคปชั่นว่า “I will find you….. and I will kiss you….” ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ใช่กับทุกคน มีแฟนคลับจินยองบางส่วนไม่พอใจที่แบมแบมเลือกภาพดังกล่าวมาช่วยสนับสนุน โดยมองว่าภาพนั้นดูไม่เหมาะสม แต่ไม่เหมาะสมอย่างไรก็ยังหาคำตอบที่แน่ชัดหรือเป็นประจักษ์ไม่ได้ แม้ตัวจินยองเองจะกล่าวขอบคุณแบมแบมแล้วก็ดูเหมือนไม่ได้รู้สึกเชิงลบใดๆ ทว่าแฟนคลับบางกลุ่มกลับออกตัวแทนและกำลังใช้หอกทิ่มแทงเพื่อนร่วมวงแบบไม่ปราณี
เหตุการณ์นี้ให้บทเรียนอะไรกับสังคมบ้าง ต้องบอกเลยว่าตอนนี้สังคมเราเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว คนใช้ชีวิตผ่านหน้าจอเยอะ บางวันเยอะกว่าการใช้ชีวิตจริงเสียอีก ดังนั้นการสร้างตัวตนหรือแสดงจุดยืนอะไรบางอย่างบนโลกออนไลน์จึงเข้มข้นและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่น่าแปลกใจที่หลายคนจะใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อแสดงพลังบางอย่าง ทว่าการแสดงด้านบวกอาจไม่เป็นประเด็น การแสดงมุมมองด้านลบเสียมากกว่าที่กำลังกัดกินมนุษย์คนหนึ่งอย่างช้าๆ บางครั้งพวกเขาไม่ได้เตรียมใจจะเจอสิ่งที่หนักหนาสาหัสและต่อเนื่องขนาดนี้ แต่ด้วยความเป็นบุคคลสาธารณะก็ต้องจำใจยอมรับไปในทางหนึ่ง
ภาพความสัมพันธ์ที่น่ารักของแบมแบมและจินยอง
ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ เคยพูดถึงเรื่องการโดนด่าฟรี...เรื่องนี้ของแบมแบมก็เข้าล็อกไม่ต่างกันนัก หลายครั้งคนบนโลกออนไลน์ใช้มาตรฐานตัวเองมาตัดสินทุกเรื่อง ด้วยพลังอำนาจล้นมือ ประกอบกับไม่มีการตีกรอบพิจารณาผ่านมุมมองอื่นๆ มีเพียงหัวเดียวความคิดเดียว การใช้พลังอำนาจโดยใช้ตนเองเป็นศูนย์กลางจึงเกิดขึ้นในแบบที่ผู้กระทำอาจไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เหยื่อของสนามอารมณ์ก็คือเหล่าคนดังที่ถูกแปะป้ายว่าเป็นบุคคลสาธารณะ บุคคลเหล่านี้ไม่สามารถชี้แจงทุกข้อมูลถึงขนาดเจาะเข้าไปในเจตนาก้นบึ้งของหัวใจ เมื่อคนส่วนใหญ่เห็นเพียงปลายยอดของภาพที่โผล่พ้นน้ำ พวกเขาก็ตัดสินจากสิ่งนั้น เพราะโลกออนไลน์ที่เราไม่ได้รู้จักใครลึกซึ้งจริงจังไม่มีรายละเอียดอื่นประกอบการพิจารณา
หลายครั้งสังคมทำให้เหล่าดาราเป็นเครื่องรองรับอารมณ์เต็มตัว และพวกเขาก็ไม่รู้จะปฏิบัติตัวต่อไปอย่างไรด้วย หากการวิจารณ์เกิดขึ้นซึ่งหน้าหรือวิจารณ์ในโลกออนไลน์แต่ประกอบเหตุผลอันเป็นรูปธรรมก็อาจส่งผลดีมากกว่าผลเสีย แต่ในแง่นี้บางครั้งคำด่ากราดอาจสร้างบาดแผลทางจิตใจ อีกทั้งยังตอบคำถามไม่ได้ว่าพวกเขาผิดอะไรหรือเหตุผลความผิดนั้นคืออะไร ไม่น่าแปลกใจที่คนดังจะเก็บตัวเงียบหรืองุนงงเมื่อเกิดดราม่า เพราะพวกเขาอาจไม่เข้าใจเลยว่าที่ต้องเป็นพื้นที่ระบายให้กับใครก็ไม่รู้เป็นเพราะอะไรกันแน่ สิ่งเหล่านี้กดทับความรู้สึกของมนุษย์คนหนึ่งชนิดค่อยเป็นค่อยไป เหตุการณ์เศร้าโศกเกิดขึ้นจากภาวะอึดอัดใจแบบนี้มานักต่อนัก แต่สังคมก็ยังไม่ได้ผลัดเปลี่ยนชุดความคิดให้เป็นไปในทางบวกเสียที เราต้องรอบุคคลที่เรารักและชื่นชมต้องจบปัญหาด้วยการหนีความวุ่นวายทั้งการซุ่มตัวเงียบเรื่อยไปจนถึงการปลิดชีพตนเองอีกแค่ไหน นี่คือถามสำคัญที่คนในสังคมต้องตระหนักรู้เสียที
WATCH
WATCH