เส้นลองจิจูดที่ 180 องศาลากผ่านเรา
LIFESTYLE

'เส้นลองจิจูดที่ 180 องศาลากผ่านเรา' มิติใหม่ของซีรี่ส์ชายรักชาย บทพูดปรัชญา และการแสดงแบบละครเวที

โว้กขอการันตีว่านี่คือซีรี่ส์ LGBTQ+ น้ำดีอีกหนึ่งเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด!

     หลายคนคงได้ดูตอนแรกของซีรี่ส์เรื่องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งออกอากาศทางช่อง One 31 ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมากันแล้ว สำหรับซีรี่ส์ที่มีชื่อยาวๆ ว่า ‘เส้นลองจิจูดที่ 180 องศาลากผ่านเรา’ โดยฝีมือของผู้กำกับ พรรณศักดิ์ สุขี ผู้กำกับละครเวทีชื่อดังของเมืองไทย จากค่ายน้องใหม่อย่าง Miti Art Media ซึ่งถูกโปรโมตเอาไว้ว่าเป็นซีรี่ส์แนว Multilayer Drama หรือซีรี่ส์ที่มีเนื้อหาลึกซึ้งซับซ้อน และเพียงแต่ตัวอย่างของซีรี่ส์ที่ถูกปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ไม่นาน ก็ทำให้ใครหลายคนต้องรอดูตอนแรกกันอย่างใจจดจ่อ

     ‘เส้นลองจิจูดที่ 180 องศาลากผ่านเรา’ คือซีรี่ส์แนวดราม่าที่นำเสนอความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ความสัมพันธ์แบบรักต่างวัย ไปจนถึงความสัมพันธ์ในครอบครัว ซึ่งนำแสดงโดย 3 นักแสดงมากความสามารถอย่าง "แหม่ม-คัทลียา แมคอินทอช", "ไนกี้-นิธิดล ป้อมสุวรรณ" และ "ปอนด์-พลวิชญ์ เกตุประภากร" โดยเล่าเรื่องราวของตัวละคร ศศิวิมล ผู้กำกับการแสดงหญิงผู้ประสบความสำเร็จสูงสุดของไทย ที่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่ แวง ลูกชายวัยรุ่นของเธอ มีความสัมพันธ์ที่เกินเลยไปมากกว่าอา-หลาน กับตัวละคร อินทวุธ เพื่อนรักเก่าของศศิวิมล หนำซ้ำทั้งอินทวุธและศศิวิมลยังมีเรื่องราวความหลังฝังใจที่เกี่ยวข้องกับพ่อของแวงอีกด้วย ซึ่งซีรี่ส์ LGBTQ+ เรื่องนี้จะสะท้อนภาพของความรัก ความสัมพันธ์ ความเข้าใจ การเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ระหว่างแม่กับลูกในยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งมิตรภาพที่กำลังจะเปลี่ยนไปตลอดกาล 

เส้นลองจิจูดที่ 180 องศาลากผ่านเรา

     หลังจากที่ผู้เขียนได้ดูตอนแรกจบลง สิ่งที่แล่นเข้ามาในความคิดแรกของผู้เขียนเลยก็คือ ซีรี่ส์เรื่องนี้คือซีรี่ส์ชิงรางวัลอย่างไม่ต้องสงสัย เริ่มตั้งแต่บทพูดที่มีการแฝงปรัชญา และประเด็นทางการเมืองลงไปอย่างมีนัยยะสำคัญในหลายๆ ฉาก แต่ไม่ถูกทำออกมาให้เหมือนบทละครลิเกจนน่าเบื่อ และกลับเข้าปากนักแสดงอย่างไม่ต้องเคอะเขิน หลายฉากที่บทพูดของตัวละครจุดประกายให้ผู้ชมนั้นต้องถอดรหัสและคิดตาม เนื่องจากสิ่งที่ตัวละครต้องการจะสื่อสารนั้นไม่ได้ตรงตามประโยคที่พูดแบบคำต่อคำ อย่างเช่นในตอนที่ตัวละครศศิวิมลสนทนากับอินทวุธ เพื่อนเก่าซึ่งไม่ได้เจอกันมานานกว่า 20 ปี ในคำพูดของตัวละครศศิวิมลที่เลือกใช้คำว่า ‘บังเอิญ’ นั้นแฝงนัยยะบางอย่างชัดเจน ทำให้ผู้ชมต้องรอติดตามตอนต่อไปเรื่อยๆ 

เส้นลองจิจูดที่ 180 องศาลากผ่านเรา

     นอกจากบทพูดของตัวละครที่สร้างเสน่ห์ให้กับซีรี่ส์เรื่องนี้แตกต่างออกไปจากซีรี่ส์หลายเรื่องแล้วนั้น การแสดงของเหล่านักแสดงก็นับว่าแปลกตาไม่น้อย เพราะนักแสดงทั้งสามบรรเลงเล่นซีรี่ส์เรื่องนี้ราวกับกำลังเล่นละครเวทีเรื่องหนึ่งก็ไม่ปาน ทั้งองค์ประกอบฉาก บล็อกกิ้ง อากัปกริยา การใช้ร่างกายของนักแสดง และมุมกล้องกว้างที่จับฉากหนึ่งฉากให้ไหลไปเรื่อยๆ ตามการแสดงของนักแสดงทั้ง 3 คน ยิ่งทำให้เรานึกถึงการนั่งดูละครเวทีน้ำดีสักหนึ่งเรื่อง

     สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดก็คงจะต้องยกให้กับอาร์ตโปรดักชั่นและงานตัดต่อ ที่ถูกสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างประณีต สวยงาม และลงตัวที่สุด จนไม่อาจทำให้ผู้ชมละสายตาไปจากภาพตรงหน้าได้เลยแม้แต่ฉากเดียว กระนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรมากนักที่ซีรี่ส์เรื่องนี้จะมีมู้ดแอนด์โทนสวยสะกด เนื่องจากได้  ณัฐ ประกอบสันติสุข ที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี มาเป็นอาร์ตไดเร็กเตอร์ ถ่ายทอดมุมมองระดับครูให้ทุกคนได้ชมกันถึงหน้าจอโทรทัศน์ที่บ้านนั่นเอง



WATCH




 

     แม้ว่าซีรี่ส์เรื่อง ‘เส้นลองจิจูดที่ 180 องศาลากผ่านเรา’ จะออกอากาศไปได้แค่เพียงหนึ่งตอนเท่านั้น ทว่าผู้เขียนก็ขอฟันธงตรงนี้เลยว่า นี่คือซีรี่ส์ LGBTQ+ ที่น่าจับตามองอย่างมากอีกเรื่องหนึ่ง ด้วยองค์ประกอบที่กล่าวไปทั้งหมด เราอาจได้เห็นซีรี่ส์ LGBTQ+ น้ำดีอีกหนึ่งเรื่องเกิดขึ้นในประเทศไทยแล้วก็เป็นได้

ข้อมูล : One31 และ True iD

WATCH