LIFESTYLE

ชี้เป้า 6 หูฟังครอบหู เสียงชัด ทรงสวยใส่สบาย

หูฟังบลูทูธแบบครอบหูที่ให้เสียงชัดอย่างเป็นธรรมชาติ ดีไซน์ทันสมัย พกพาไปไหนก็สะดวก

     หูฟังครอบหูกลับมาเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา เป็นหูฟังอีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมไม่แพ้หูฟังไร้สาย เพราะมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดี และมีฟองน้ำนุ่มที่ช่วยรองหู จึงทำให้สวมใส่สบาย ไม่ปวดเมื่อยหู ทั้งยังกลายเป็นหนึ่งไอเท็มแอ็กเซสเซอรี่ที่สายแฟ(ชั่น)ไม่ควรพลาดอีกด้วย ในบทความนี้โว้กแนะนำ 6 หูฟังครอบหู ดีไซน์เรียบหรู ใช้งานสะดวก จับคู่กับการแต่งตัวได้หลากสไตล์

 

 

1. Sony WH-1000XM4

     หูฟังที่ถูกออกแบบมาด้วยดีไซน์สุดเรียบหรู มีความมินิมัล และ ตอบโจทย์การใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดดเด่นด้วยการทำงานของไดรเวอร์เสียงขนาด 40 มิลลิเมตร และชิปเชื่อมต่อไร้สายบลูทูธใหม่ SoC (System on Chip) และเซนเซอร์จับเสียงแบบคู่เพื่อตัดเสียงรบกวน ระบบการตัดเสียงรบกวนแบบเฉพาะบุคคลด้วยเทคโนโลยี HD Noise Cancelling QN1 และยังมีฟังก์ชั่นการทำงานที่สั่งได้ด้วยเสียงผ่านการใช้งานบนสมาร์ตโฟน ใช้งานง่าย พกพาสะดวก

 

 

2. Bose QuietComfort 45

     หูฟังไร้สายที่มาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวน Active noise cancelling พร้อมดีไซน์แบบคลาสสิกและการควบคุมการใช้งานแบบกดปุ่ม เมื่อสวมใส่จะครอบไปทั้งใบหู โดยฟองน้ำจะเป็น Memory Foam ที่มีความนุ่มนวล หุ้มด้วยหนังเทียมที่ช่วยกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี สำหรับการใช้งานใช้การเชื่อมต่อแบบ Bluetooth 5.1 โดยสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 24 ชั่วโมง มาพร้อมกับโหมดการทำงาน 2 รูปแบบได้แก่ Quiet Mode ที่จะเป็นโหมดการตัดเสียงรบกวน ที่จะเป็นการตัดเสียงรบกวนรอบตัวออกไป และโหมด Aware Mode ที่จะเป็นการดูดเสียงรอบตัวเข้ามาระหว่างใช้งาน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถได้ยินเสียงรอบๆ ตัวโดยที่ไม่ต้องถอดหูฟังออก ภายในกล่องจะมีเคสสำหรับพกพาและสาย USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่มาให้พร้อม

 



WATCH




 

3. Apple Airpods Max

     หูฟังครอบหูที่โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบหรู มีไดรเวอร์ที่ออกแบบโดย Apple เพื่อให้เสียงที่คมชัด เพราะการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็กทีฟระดับโปร ด้วยการใช้สัญญาณต้านเสียงรบกวนที่เท่ากันเพื่อตัดเสียงจากภายนอก จึงสามารถตัดเสียงรบกวนได้ดีขึ้นสูงสุด 2 เท่า มาพร้อมกับออกแบบที่มีส่วนโค้งเหนือศีรษะแบบตาข่ายถักและเมโมรี่โฟมรองหูแบบบุนุ่ม มีความกระชับพอดีและสามารถกันเสียงไม่ให้รั่วไหลได้อย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับใครที่เป็นสาวกแบรนด์นี้ สามารถจับคู่ AirPods Max ได้อย่างง่ายดายด้วยการวางใกล้ๆ กับอุปกรณ์เสริมแล้วแตะเชื่อมต่อบนหน้าจอได้เลย

 

 

4. JBL Tune 720BT

     ด้วยเทคโนโลยี 5.3 BT สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 76 ชั่วโมง และเพียงแค่ชาร์จแบตเตอรี่เพิ่มอีกเพียงแค่ 5 นาที ยังช่วยให้ใช้งานต่อได้อีกยาวนาน 3 ชั่วโมง สามารถปรับแต่งเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ได้ผ่านระบบ EQ ในขณะที่ Voice Prompts จะช่วยแนะนำเกี่ยวกับจัดการการโทร ระบบเสียง รวมทั้งปรับระดับเสียงจากเอียร์คัฟฟ์ง่ายๆ ด้วยปุ่มควบคุม ในส่วนของกรณีที่มีสายเรียกเข้าขณะที่กำลังใช้หูฟังบนอุปกรณ์อื่นๆ หูฟังจะสลับไปยังอุปกรณ์มือถือแบบอัตโนมัติ น้ำหนักเบา และสวมใส่สบายแม้จะฟังต่อเนื่องยาวนานหลายชั่วโมง สามารถพับเก็บในกระเป๋าได้ง่ายๆ

 

 

5. Marshall Major IV

     เอกลักษณ์อันโดดเด่นของหูฟังชิ้นนี้คือ Dynamic Driver ที่ปรับแต่งเองให้เสียงเบสที่กระหึ่ม เสียงกลางที่นุ่มนวล และเสียงปลายแหลมที่ชัดเจนมีมิติได้อย่างลงตัว รวมถึงสามารถเล่นได้นานถึง 80 ชั่วโมง พร้อมความสามารถในการชาร์จอย่างรวดเร็ว โดยชาร์จเพียง 15 นาที สามารถใช้งานได้นานถึง 15 ชั่วโมง และยังรองรับการชาร์จแบบไร้สาย เพียงวางหูฟังบนแท่นชาร์จเท่านั้นหรือจะชาร์จผ่านสาย USB-C ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ฟองน้ำครอบหูของยังมีความนุ่มและเข้ารูปกับหูมากยิ่งขึ้นด้วย มาพร้อมกับปุ่มควบคุมที่ถูกออกแบบมาให้ควบคุมได้ทั้งเสียงเพลงจากหูฟังและฟังก์ชั่นบนอุปกรณ์ของคุณ ช่วยให้สามารใช้งานได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ปลายนิ้ว

 

 

6. Soundcore Space One

     หูฟังครอบหูที่มีระบบตัดเสียงรบกวน Adaptive ANC สามารถลดเสียงรบกวนได้สูงสุด 98% และปรับระดับการตัดเสียงตามสภาพแวดล้อมแบบอัตโนมัติ มีความละเอียดสูงผ่านไดรเวอร์ไดนามิก 40 มม. ให้เสียงคมชัด และยังรองรับ LDAC และ Hi-Res Wireless audio ได้ มาพร้อมกับไมโครโฟนทั้งหมด 3 ตัวพร้อมกับ AI Algorithm ตัดเสียงรบกวนได้ดี เมื่อปิด ANC จะสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 55 ชั่วโมง และ 40 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC รวมถึงที่ครอบหูหมุนได้ 8° และแถบคาดศีรษะแบบนุ่มเพื่อความสบายตลอดทั้งวัน ดีไซน์สุดมินิมัลที่สามารถใช้งานได้ทุกโอกาส

 

ภาพ : Countesy of the brands

WATCH