LIFESTYLE

The Impossible: เส้นทางดนตรีของ ต้อย-เศรษฐา ที่กลายเป็นตำนานของอุตสาหกรรมบันเทิงไทย

อาต้อยที่ทุกคนรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นนักร้องนำของวงดนตรีไทยที่ได้ไปทัวร์ยุโรปถึง 2 ครั้ง

     The Impossible ชื่อวงดนตรีที่คนยุคใหม่อาจจะไม่คุ้นเคย แต่คนรุ่นเก่ารู้จักเป็นอย่างดี เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 ข่าวเศร้าได้แพร่กระจายไปทั่วทุกสื่อ “ต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา” หรือ “อาต้อย” เสียชีวิตจากโรคมะเร็งปอดที่รักษามานานหลายปี สิริรวมอายุ 77 ปี โว้กจึงหยิบเรื่องราวอันเป็นตำนานเสี้ยวหนึ่งของอาต้อยมานำเสนอให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสถึงความสุดยอด และคนรุ่นเก่าได้หวนนึกถึงความทรงจำอันหอมหวานที่ไม่มีวันลืมการบรรเพลงอันไพเราะของวงดนตรีวงนี้ คำว่า “ดิอิม” จะฟื้นคืนชีพอีกครั้งในบทความนี้

การรวมตัวกันครั้งท้ายๆ ของวง The Impossible / ภาพ: Sanook

     แน่นอนว่าย้อนกลับไปยุค ‘60s-‘70s วงการดนตรีในประเทศไทยยังไม่ได้มีความหลากหลายเฉกเช่นในปัจจุบัน ดนตรียุคนั้นเต็มไปด้วยแนวเพลงที่จำกัด โดยเฉพาะเพลงลูกกรุงฉบับไทยที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม กระโดดมาอีกฝั่งก็จะเป็นเพลงสตริงจากเมืองนอกที่มีเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้นการจะหาดนตรีสไตล์สากลแต่มีเนื้อร้องและจังหวะดนตรีของไทยเองนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ดิอิมพอสซิเบิ้ล ตอบโจทย์ตรงจุดนี้ได้ และกลายเป็นตำนานของอุตสาหกรรมบันเทิงไทยจวบจนปัจจุบัน

ปกซีดีชื่นรัก เริงรถไฟของวง The Impossible / ภาพ: กรุเพลงดังหนังเก่า

                เริ่มแรกวงใช้ชื่อ Holiday J-3 มีสมาชิกประกอบด้วย วินัย พันธุรักษ์, อนุสรณ์ พัฒนกุล, สุเมธ แมนสรวง, พิชัย ทองเนียม และมีนักร้องนำชื่อเศรษฐา ศิระฉายา ก่อนจะเปลี่ยนชื่อวงเป็น จอยท์ รีแอ็กชั่นในภายหลัง ซึ่งขณะใช้ชื่อวงจอยท์ รีแอ็กชั่นนั้นวงดนตรีคนหนุ่มวงนี้สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศจากเวทีการประกวดสตริงคอมโบ โดยสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยได้ถึง 3 สมัย หลังจากนั้นอาต้อยก็เปลี่ยนชื่อวงเป็นดิอิมพอสซิเบิ้ลตามชื่อภาพยนตร์การ์ตูนอันโด่งดังในยุคนั้น และชื่อดังกล่าวก็กลายเป็นตำนานที่ถูกหยิบมาเล่าขานบ่อยครั้ง

 



WATCH




บรรยากาศการทำงานของ The Impossible ที่ให้อารมณ์เหมือนศิลปินเมืองนอกในสมัยนั้น / ภาพ: Port Lennon

     “ครองตลาดเวทีกลางคืน” ต้องบอกว่าอาต้อยและสมาชิกทุกคนสร้างดิอิมพอสซิเบิ้ลให้กลายเป็นดาวเด่นได้อย่างรวดเร็ว ด้วยผลงานเพลงคัฟเวอร์ที่นำเพลงดังระดับโลกมาสร้างสรรค์ใหม่ในรูปแบบตัวเอง ทำให้ผู้คนสนใจและเรียกฐานแฟนคลับได้อย่างดี อีกทั้งยังมีเพลงที่แต่งเนื้อร้องและทำนองเองได้อย่างโดดเด่น อีกทั้งวงยังมีคาแรกเตอร์ที่ดูเป็นสากลทันสมัย ตอบโจทย์วัยรุ่นยุคใหม่ที่กำลังเฟ้นหา “ความโก้” ได้เสพดนตรีที่รู้สึกล้ำหน้ากว่าใคร ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ดิอิมพอสซิเบิ้ลได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจนสามารถครองตลาดเวทีกลางคืนได้อย่างอยู่หมัด พวกเขาได้เล่นในบาร์ตามโรงแรมชื่อดัง ซึ่งในสมัยก่อนถือเป็นเวทีที่มีการแข่งขันกันสูงมาก และมีแต่วงระดับแนวหน้าเท่านั้นที่ได้จองพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ดิอิมพอสซิเบิ้ลยังเป็นวงดนตรีไม่กี่วงที่ได้ทำการแสดงสดกลางศูนย์การค้า

เพลงเอกจากภาพยนตร์ของวง The Impossible / ภาพ: Discog

     “วงดนตรีไทยทัวร์ยุโรป” คงไม่มีอะไรเจ๋งไปกว่าการที่วงดนตรีจากประเทศไทยได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตในต่างแดน เหตุการณ์นี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ 1 หรือ 2 ทศวรรษก่อน แต่ดิอิมพอสซิเบิ้ลนำร่องการทัวร์คอนเสิร์ตไว้ตั้งแต่ช่วงปี 2517 ซึ่งเน้นประเทศแถบสแกนดิเนเวียประกอบด้วยสวีเดนและนอร์เวย์ ก่อนจะเปิดตลาดเพิ่มเติมในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในการทัวร์ยุโรปครั้งที่ 2 ปี 2518 และยุบวงในเดือนเมษายน 2519 ตลอดระยะเวลาดังกล่าวอาต้อยและสมาชิกโลดแล่นในวงการดนตรีได้อย่างสดใส และตัวอาต้อยเองก็ควบสถานะนักแสดงภาพยนตร์ไปด้วย อีกทั้งยังเริ่มแสดงละครโทรทัศน์หลังจากยุบวง เรียกว่าซูเปอร์สตาร์ที่เก่งรอบด้าน หนึ่งในดาวจรัสแสงแห่งวงการยุคนั้นก็ต้องยกให้ เศรษฐา ศิระฉายา

อาต้อยขณะรับหน้าที่พิธีกรในรายการ Academy Fantasia / ภาพ: True Music

     โคตรตำนานที่ถูกเล่าขานผ่านมุมมองแสนเซอร์เรียล...ต้องบอกว่าชื่อดิอิมพอสซิเบิ้ลอาจจะคุ้นหูคนรุ่นใหม่ขึ้นมาบ้างตอนภาพยนตร์ “เก๋า...เก๋า” นำเสนอเรื่องวงดิอิมพอสซิเบิ้ลเจอไมโครโฟนวิเศษทำให้เดินทางข้ามเวลามาเล่นในยุคปัจจุบัน นั่นทำให้ผู้คนสนใจวงดนตรีระดับตำนานที่ยุบวงไปเมื่อปี 2519 มากขึ้น ชื่อดิอิมพอสซิได้รับการขับขานอีกครั้ง อาต้อยเองก็ปรากฏตัวในภาพยนตร์และกลายเป็นฉากไอคอนิกของภาพยนตร์ไทยที่เล่าเรื่องราวของวงดนตรีประเทศเรา แม้มันจะไม่ใช่สารคดีที่ย้อนชมความยอดเยี่ยม หรือภาพยนตร์จำลองเหตุการณ์ แต่นั่นก็แสดงให้เห็นว่าดิอิมพอสซิเบิ้ลยังคงโดดเด่นแม้ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับดนตรีจะไม่ใช่ภาพยนตร์กระแสหลักของไทยก็ตาม

การกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของวง The Impossible ในคอนเสิร์ต The End of The IM / ภาพ: แนวหน้า

     ชื่อเศรษฐา ศิระฉายาไม่ได้โดดเด่นในฐานะสมาชิกดิอิมพอสซิเบิ้ลหรือนักแสดงเท่านั้น แต่เขายังมีชื่อเสียงมากในฐานะศิลปินเดี่ยว ด้วยเสน่ห์การขับร้องและการแสดงบนเวทีทำให้ผู้คนจดจำบุคคลผู้นี้ได้เป็นอย่างดี ถึงขนาดมีคอนเสิร์ต “70 ยังแจ๋ว เศรษฐา ศิระฉายา” เป็นของตัวเองเมื่อปี 2557 ก่อนจะรวมวงดิอิมพอสซิเบิ้ลมาร่วมแสดงกันอีกครั้งกับคอนเสิร์ต “The Impossibles' 50th Anniversary Concert” ในปีเดียวกัน และปิดฉากหน้าสุดท้ายด้วยคอนเสิร์ต “The End of The IM” ในปี 2558

เก๋า..เก๋า ภาพยนตร์ไทยที่ทำให้เราย้อนคิดถึงวง The Impossible ในตำนาน / ภาพ: Wiki Library

     ในช่วงวัยหลัก 70 ปี สมาชิกคนอื่นๆ ต่างโรยราและพักจากวงการไปใช้ชีวิตส่วนตัว แต่เศรษฐา ศิระฉายายังคงรักษาพื้นที่ในวงการบันเทิงได้อย่างเหนียวแน่น ช่วงก่อนเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเองเขายังแสดงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ยังรักษาหน้าที่พิธีกรได้อย่างดี ในปี 2554 เขายังได้รับตำแหน่งศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง) ด้วย แต่แล้วในปี 2562 เหมือนเส้นทางชีวิตของอาต้อยเปรียบเหมือนไม้ใกล้ฝั่ง เขาตรวจพบมะเร็งในปอด และในปี 2564 ก็ติดเชื้อโควิด-19 แต่ก็รักษาจนหาย แต่ไม่นานวาระสุดท้ายก็มาถึง วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 อาต้อยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งที่รักษายาวนานถึง 2 ปี สิริรวมอายุ 77 ปี ปิดตำนาน “อาต้อย” นักร้องนำวงดิอิมพอสซิเบิ้ล นักแสดง พิธีกร และผู้จัดละครระดับตำนาน โว้กขอร่วมไว้อาลัยแด่การจากไปมา ณ ที่นี้

WATCH

คีย์เวิร์ด: #TheImpossible #ต้อยเศรษฐา