ความงดงามของชีวิต เทนนิส-พาณิภัค เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกที่ไม่ได้เกิดขึ้นได้ใน 7 วินาที

     ปรากฏการณ์เหรียญทองโอลิมปิกแรกของประเทศไทยในโอลิมปิก 2020 และเหรียญทองแรกของวงการเทควันโดไทยได้รับการพูดถึงอย่างหนาหู โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงเวลา 7 วินาทีชีวิตของ เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่บีบคั้นหัวใจคนทั้งประเทศ เมื่อเสียงสัญญาณจบยกที่ 3 ดังขึ้นเหมือนโลกของคนไทยทั้งประเทศเงียบไปเสี้ยวเวลาหนึ่ง หลังจากนั้นเสียงเฮก็ดังกึกก้องอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าภาพอันงดงามของเทนนิสไม่ได้เกิดขึ้นเพียง 7 วินาทีนั้น แต่ความงดงามของเทนนิสคือแรงบากบั่นพยายามมาทั้งชีวิต

ภาพ: Generation T

     เด็กจากสุราษฎร์ธานีคนหนึ่งเหมือนได้รับพรสวรรค์จากพระเจ้า แต่พรนั้นจะสำเร็จไม่ได้เลยหากขาดซึ่งพรแสวง ก้าวแรกแห่งความสวยงามคือการก้าวเท้าเข้าสู่วงการเทควันโดตั้งแต่อายุ 9 ปี และสามารถคว้าแชมป์กีฬาเยาวชนแห่งชาติเมื่อตอนอายุ 13 ปี ดอกไม้ดอกนี้เริ่มเบ่งบานอย่างรวดเร็ว แม้ลำต้นจะยังไม่สูงไม่แข็งแรงนัก แต่นี่คือความงดงามแรกที่เทนนิสมอบให้กับตัวเอง ครอบครัว และเปล่งแสงเตะตาวงการกีฬาไทย จนโค้ชชเว ยองซอก โค้ชเทควันโดทีมชาติไทยถึงกับต้องเรียกตัวมาฝึกซ้อม

ภาพ: Thairath

     ตลอดระยะเวลานานนับทศวรรษเทนนิสตระเวนแข่งเทควันโดทั้งรายการระดับเยาวชนและรายการโอเพ่น ก้าวแห่งความงดงามก้าวที่ 2 ของเทนนิสคือการนำชื่อเสียงของประเทศไทยเข้าสู่ระดับสากลอย่างรวดเร็ว เพราะถัดจากรุ่นพี่นักเทควันโดชื่อดังทั้งหลายก็มีเธอคนนี้ที่สามารถเดินทางไปกวาดเหรียญรางวัลมากมายตั้งแต่ กีฬาเยาวชนโลก, ซีเกมส์, เอเชียนเกมส์, โอลิมปิกเยาวชน รวมไปถึงเทควันโดชิงแชมป์โลกเมื่อปี 2015 ที่เธอคว้าเหรียญทองมาได้ ณ ประเทศรัสเซีย หากเปรียบเทนนิสเป็นต้นไม้ กิ่งก้านใบของเธอก็เติบโตแข็งแกร่งอีกทั้งยังผลิดอกให้ผู้พบเห็นชมความสวยงามอย่างสบายตาสบายใจ

ภาพ: Khaosod

     ความผิดหวังคือปุ๋ยชั้นดีในการเลี้ยงดูต้นไม้ต้นนี้ให้แข็งแกร่งขึ้น แน่นอนว่าความสวยงามที่ทั้งประเทศชื่นชมคือดอกไม้อันพลิ้วไหว เปรียบกับความสำเร็จที่เธอกวาดมาให้ประเทศไทย ทว่าความผิดหวังที่เธอต้องแบกรับในริโอเกมส์ปี 2016 กลับไม่ใช่จุดด่างพร้อย แต่คืออีกหนึ่งความงดงามที่เธอได้รับและเรียนรู้ “ความงดงามแห่งการพ่ายแพ้” สิ่งนี้คืออีกหนึ่งประเภทความสวยงามที่จะผลักดันมาตรฐานของเทนนิสให้กลายเป็น “เทนนิสร่างพัฒนา” ถ้าเทนนิสเป็นต้นไม้สักต้น ริโอเกมส์คือฝนห่าใหญ่ ฝนนั้นสร้างบรรยากาศของธรรมชาติอันสวยงาม และอาจพัดพาต้นไม้ล้มลงได้ แต่เมื่อเทนนิสเป็นต้นไม้ที่แข็งแรงพอแล้ว ฝนห่านั้นคือสมบัติล้ำค่าจากธรรมชาติที่ปลุกพลังให้ต้นไม้ต้นนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด

ภาพ: FirstSportz

     ปี 2017 เธอฟาดเหรียญทองกีฬามหาวิทยาลัยโลกพร้อมกับเหรียญเงินจากเทควันโดชิงแชมป์โลกในรุ่นน้ำหนักใหม่ (เดิมแข่งในรุ่นไม่เกิน 46 กิโลกรัม เปลี่ยนเป็นรุ่นไม่เกิน 49 กิโลกรัม) หลังจากฝนห่าใหญ่ที่ริโอเหมือนกับว่ารอยยิ้มของเธอจะผลิดอกออกผลและประดับความงามให้ต้นไม้ต้นนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนปี 2019 เธอก็คว้าแชมป์เทควันโดโลกอีกครั้งที่ประเทศอังกฤษ ตอกย้ำอย่างชัดเจนว่าเทนนิสผ่านอุปสรรคหฤโหด ผ่านมาทั้งชัยชนะอันหอมหวาน การพ่ายแพ้ที่สวยงาม และประสบการณ์ที่พาเธอเติบโตขึ้นทุกวัน

ภาพ: @ilovenissen

     พอมาถึงโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว เหมือนเทนนิสจะกลายเป็นตัวเต็งการแข่งขันเทควันโดรุ่นอายุไม่เกิน 49 กิโลกรัม เวทีสุดท้ายที่จะเติมกิ่งก้านใบและดอกไม้ของต้นไม้ต้นนี้ให้สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่นักกีฬาคนหนึ่งจะสร้างได้ ออกสตาร์ตทัวร์นาเมนต์เธอก็สร้างตำนานความสวยงามด้วยการฟาดแข้งบนสังเวียน ความงดงามแรกในเวทีโอลิมปิกคือการเฉิดฉายพร้อมกับแบกรับความกดดันในฐานะตัวเต็งของรายการ

ภาพ: News Founded

     ความงดงามที่ 2 แน่นอนว่าจะไม่พูดถึงไม่ได้คือความงดงามของการต่อสู้โดยไม่ย่อท้อ แม้จะผ่าน Avishag Semberg คู่แข่งรอบแรกจากอิสราเอลมาได้แบบสบายๆ แต่รอบ 2 เทนนิสคือผู้แสดงให้เห็นถึงความสวยงามของพลังการต่อสู้เพราะเธอพลิกกลับมาชนะคู่แข่งจากเวียดนามหลังจากตามหลังจนทำให้หลายคนใจหาย ด้วยเส้นทางตรงนี้ทำให้เธอสร้างเส้นทางเตรียมตัวกรุยทางสู่รอบชิง และต่อมาก็เอาชนะนักเตะจากญี่ปุ่นขาดลอย พลัง “Bounce Back” นี้คือความงดงามของเกมกีฬาที่เทนนิสแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในการแข่งขันครั้งนี้

ภาพ: Bangkok Biz

     รอบสุดท้ายเป็นอีกครั้งที่พลังของเทนนิสสร้างปรากฏการณ์ให้คนไทยทั้งประเทศลุ้นกับแบบตัวไม่ติดเบาะ สุดท้ายเฉือนชนะนักฟาดแข้งวัย 17 ปีจากสเปนด้วยคะแนน 11 ต่อ 10 คว้าเหรียญทองไปได้จากลูกเตะใน 7 วินาทีสุดท้าย ทุกคนคงจะจำภาพอันหอมหวานและความสวยงามของชัยชนะได้อย่างขึ้นใจ แต่ภาพความงดงามอีกภาพหนึ่งคือเทนนิสยังคงให้เกียรติคู่ต่อสู้เสมอ แรงพยายามที่เธอสัมผัสมาเหมือนกันตั้งแต่เด็กทำให้เข้าใจดาวเตะรุ่นน้องได้เป็นอย่างดี นอกจากชัยชนะแล้วความงดงามอีกอย่างหนึ่งที่เทนนิสมอบให้กับคนทั้งโลกคือผลสำเร็จของความพยายาม ความเคารพนับถือคู่แข่ง และการเป็นสุดยอดของโลกด้วยการกวาดเหรียญทองครบทุกรายการ!

ภาพ: Anadolu Agency

     นอกเหนือจากเกมกีฬาการสร้างความงดงามของต้นไม้ทองแห่งวงการเทควันโดยังไม่หมด เพราะความเป็นตัวเองเสมอ ดูมุ่งมั่น และที่สำคัญคือต้นไม้ต้นนี้ไม่เคยเหวี่ยงพัดร่างแหสร้างความเสียหายให้วงการกีฬาแม้แต่น้อย การเติบใหญ่ขึ้นในพื้นที่ของตัวเองรับทุกแรงสนับสนุนและฝ่าฝันอุปสรรคครั้งสำคัญ ทั้งหมดหล่อหลอมตัวตนของนักเทควันโดคนนี้เป็นอย่างดี มากไปกว่านั้นรอยยิ้มอันงดงามนอกสนาม อีกทั้งรองเท้าสีชมพูพราวที่เด่นดังไปทั่วโลกก็ยิ่งบ่งบอกว่าเทนนิสไม่ใช่แค่ผู้สร้างความตื่นตาให้วงการกีฬาด้วยเวลาเพียง 7 วินาที แต่ชีวิตทั้งหมดเธอเหมือนต้นไม้ที่ค่อยๆ โต ผลิดอกออกผลอันงดงาม เผยให้เห็นทุกแง่มุมไม่ใช่แค่เรื่องกีฬา ที่เธอลงทุนสร้างโดยใช้เวลาทั้งชีวิต เพราะฉะนั้นเหรียญทองที่เห็นนั้นผู้คนส่วนใหญ่คงนึกถึงเลข 7 บนหน้าจอแสดงเวลา แต่เราอยากให้ทุกคนเห็นว่าความเลอค่าของความสำเร็จถูกหล่อหลอมและสร้างออกมาเป็นผลผลิตอันงดงามจากความพยายามทั้งหมดของ เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ