'สเตฟาน' พระเอกหนุ่มหล่อของวงการ กับชีวิตที่เปลี่ยนไปสู่การเป็นขวัญใจแฟนบอลชาวไทย
คำว่าหล่ออย่างสเตฟานยังคงเป็นวลีตำนานจากยุคที่รุ่งเรืองในวงการบันเทิง แต่ตอนนี้เขาใช้ชีวิตทำสิ่งที่ตัวเองรักและกลายเป็นที่นิยมอีกครั้ง
ชื่อสเตฟานกลายเป็นคำนิยามการเรียกหนุ่มหน้าตาดีในยุคหนึ่งเลยก็ว่าได้ ต้นกำเนิดก็มาจากนักแสดงลูกครึ่งไทย-อิตาลี สเตฟาน ซาลาโมเน่ หรือ ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์ ที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างปรากฏการณ์เล่นละครและฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง จนเรียกได้ว่าสาวๆ ยุคนั้นหลงใหลในเสน่ห์ความหล่อของเขาเป็นอย่างมาก แต่แล้วช่วงเวลาหนึ่งเขาก็หายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิงโดยสิ้นเชิง แม้จะเป็นนักแสดงอนาคตไกล มีฐานแฟนคลับที่แน่นหนา ในเวลาหนึ่งเขาก็ตัดสินใจไม่เดินทางสายนี้ต่อและเลือกใช้ชีวิตในรูปแบบที่ตัวเองรักมากกว่า
“เด็กหนุ่มโรงเรียนอินเตอร์ที่มีอนาคตสดใส” สเตฟานเริ่มลืมตาดูโลกในวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2525 ปัจจุบันอายุ 40 ปี แรกเริ่มเดิมทีก็เป็นนักเรียนหนุ่มลูกครึ่งทั่วไปในโรงเรียนอินเตอร์ ได้รับการศึกษาตามระบบสากลจนถึงระดับปริญญา ก่อนจะกลับมารับงานโฆษณาและถ่ายแบบเป็นหลัก ความหล่ออันมีเสน่ห์ของเขาไปเตะตาผู้จัดละครค่ายหนึ่งจึงมีโอกาสได้โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 เป็นต้นมา โดยเปิดหัวด้วยเรื่อง ท้าลิขิต ก่อนจะร่วมทัพนักแสดงช่อง 7 และสร้างผลงานละครไว้นับ 10 เรื่อง
สเตฟาน และ กบ-สุวนันท์ สมัยเล่นละครร่วมกันภายใต้สังกัดช่อง 7 / ภาพ: Picpost
ต้องบอกว่าสเตฟานคือที่สุดแห่งยุคคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะตลอดชีวิตนักแสดงเขารับบทนำประกบกับนางเอกช่อง 7 ที่อยู่ในระดับท็อปมากมายทั้ง อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ, กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง, แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกร, จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา, ปู-ไปรยา ลุนด์เบิร์ก, และอื่นๆ อีกมากมาย เรียกว่าหากใครติดตามละครช่อง 7 ณ ตอนนั้นสเตฟานถือเป็นนักแสดงชายแถวหน้าที่กวาดคิวละครอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลาเกือบ 10 ปีที่เขาครองตลาดละครไทยและชื่อของเขากลายเป็นนิยามในการเรียกหนุ่มหล่อหน้าตาดีว่า “หล่อดั่งสเตฟาน”
สเตฟานกับผลงานเรื่องฟ้าจรดทราย ผลงานช่วงสุดท้ายก่อนอำลาวงการ / ภาพ: Picpost
แต่แล้วแพสชั่นในการทำงานในวงการบันเทิงก็ลดเลือนหายไป ผลงานเรื่อง ฟ้าจรดทราย ที่เขารับบทเป็นนักแสดงรับเชิญคือผลงานการแสดงเรื่องสุดท้ายที่เขาฝากไว้อย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2556 และแล้วในปีถัดมาเขาก็ตัดสินใจลาขาดจากวงการบันเทิงเพื่อประกอบธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับที่พัก เขาหายหน้าหายตาไปจากวงการในแบบที่หลายคนยังคิดถึงภาพลักษณ์ความหล่อดั่งสเตฟานอยู่ คงมีไม่กี่คนที่ชื่อของเขาทำให้คนเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันว่านี่คือต้นแบบของความหล่อในยุคสมัยหนึ่งเลยทีเดียว
WATCH
ตัวอย่างรายการทำอาหารของสเตฟานในช่อง MyQuest / ภาพ: MyQuest OFFICIAL
เส้นทางยูทูบกับความสำเร็จครั้งใหม่ที่สะท้อนตัวตนได้ดีกว่าเดิม...สเตฟานอาจไม่ใช่ดาวดังอีกต่อไป เด็กรุ่นใหม่หลายคนไม่ทันยุคทองที่เขาโลดแล่นในการรับบทพระเอกละคร แต่ตอนนี้เขาก็โดดเด่นบนเส้นทางของตัวเองอย่างอิสระ ยูทูบช่อง MyQuest ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับวิธีการนำเสนอเรื่องราวชีวิตส่วนตัวแบบเรียบง่ายสบายๆ พร้อมตอบคำถามที่หลายคนสงสัยว่าเลิกจากวงการแล้วไปทำอะไรบ้าง นอกจากนี้ยังสร้างสรรค์รายการอาหารและรายการพาชิมที่ดูเป็นกันเองราวกับผู้ชมเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อมรอบตัวเขาเลยก็ว่าได้ ภายในช่องเดียวกันยังมีทั้งเพื่อนและครอบครัวมาร่วมแจมบ่อยครั้ง น้องสาวของเขาก็มีรายการทำอาหารสไตล์ “Homie” อยู่ในช่องเดียวกัน
ตัวอย่างรายการบนยูทูบช่อง Antihero Thailand ที่สเตฟานพูดถึงสิ่งที่เขาหลงใหลอย่างฟุตบอล / ภาพ: Antihero Thailand
ขวัญใจแฟนฟุตบอล! สเตฟานเปิดช่องยูทูบอีกช่องชื่อ AntiheroThailand โด่งดังเรื่องการวิเคราะห์วิจารณ์ฟุตบอล และนำเสนอแง่มุมใหม่ๆ ผ่านความชื่นชอบของเขาเอง ด้วยรากฐานการเป็นแฟนบอลทีมยูเวนตุสพันธุ์แท้ทำให้เขาคลุกคลีกับฟุตบอลชนิดเข้มข้น การนำเสนอจึงไม่ใช่เพียงข้อมูลผิวเผิน แต่เขาคลั่งไคล้ถึงขนาดดูฟุตบอลแบบเจาะลึก รีเพลย์เต็ม 90 นาที เพื่อนำเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับเกมเพื่อผู้ชมทุกคน ในสายกีฬาผู้ชายสายบอลรู้จักสเตฟานกันอยู่แล้ว เพราะเขาเป็นยูทูบเบอร์ไม่กี่คนที่สามารถอ่านเกมได้อย่างเด็ดขาด พูดวิจารณ์แบบเป็นกลาง และนำเสนอในสิ่งที่เรียกว่า “ไม่เกรียน”
ท่าทางมินิฮาร์ตกวนๆ ของสเตฟานที่ปลดปล่อยตัวเองได้อย่างเต็มที่บนแพลตฟอร์มยูทูบเกี่ยวกับสิ่งที่เขารัก / ภาพ: วาทะ ลูกหนัง
ไวรัลเกิดขึ้นในหมู่สายฟุตบอลหลายครั้ง แต่ในปัจจุบันไวรัลจากช่องของเขากลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้างมากขึ้น ช่วงฟุตบอลโลก สเตฟานมีการพูดถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์โลกลูกหนังในปี 2002 ที่ทำให้เขาสัมผัสกับความหม่นหมองในเกมฟุตบอลเมื่อทีมชาติอิตาลีที่เขารักพลาดท่าแพ้เกาหลีแบบค้านสายตา เขาเล่าย้อนความหลังเกี่ยวกับเกาหลี และนั่นทำให้เขากลายเป็นมีมในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะท่าเต้นมินิฮาร์ตที่เขาจำลองท่าทางของหนุ่มเกาหลีเมื่อครั้งไปเยือนแดนกิมจิจนมีเรื่องมีราว หนำซ้ำเมื่อเกาหลีตกรอบในปีฟุตบอลโลก 2022 เขาก็กลับมาพร้อมท่าเต้นแสดงความดีใจ จนตอนนี้สเตฟานกลายเป็นไวรัลทั่วทั้งโลกโซเชียล ตอนนี้ไม่ใช่แค่กลุ่มแฟนบอลแล้ว แต่หลายคนมีโอกาสเห็นสเตฟานบนหน้าจออีกครั้งในคาแร็กเตอร์ที่ต่างไปอย่างสิ้นเชิง
ปัจจุบันสเตฟานยังคงโลดแล่นในเวทีโลกออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพลตฟอร์มยูทูบ เขาเปลี่ยนแปลงจากหนุ่มหล่อตลอดกาล สู่การเป็นแฟนบอลพันธุ์แท้และนักสร้างสรรค์ที่ผลิตผลงานที่ตนเองชื่นชอบ สะท้อนบทเรียนให้เราเห็นวิถีการดำเนินชีวิตที่นำทางด้วยความชื่นชอบส่วนตัว แน่นอนว่าเขาอาจไม่ใช่ดาวดังระดับประเทศเฉกเช่นแต่ก่อน ทว่าการที่ผู้คนจดจำจากช่องทางที่เขาตั้งใจทำมันด้วยความรักความใส่ใจจริงๆ สร้างกลุ่มสังคมที่หล่อหลอมสเตฟานให้กลายเป็นที่รักที่สุด “ถ้าเห็นด้วยกด 9” คงเป็นวลีเฉพาะที่แฟนคลับของเขาจะจดจำได้อย่างดีที่สุด
WATCH