เสื้อกีฬาและชุดสำหรับเล่นกีฬาถือเป็นไอเท็มที่สำคัญสำหรับสายสปอร์ต ไม่เพียงที่ชุดจะถูกออกแบบมาเพื่อซัปพอร์ตการเล่นกีฬาต่างๆ เท่านั้น แต่ยังมีการออกแบบที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้แบรนด์กีฬาต่างได้พัฒนาเทคโนโลยีและดีไซน์ต่างๆ เพื่อสร้างฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์สปอร์ตไลฟ์สไตล์ และดีไซน์อันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ โดยก่อนจะไปถึงแบรนด์เสื้อกีฬาที่สายสปอร์ตห้ามพลาด เราขอเสนอวิธีการเลือกเสื้อผ้ากีฬาหรือชุดออกกำลังกายมาฝากกันก่อนที่ด้านล่างนี้

 

วิธีเลือกเสื้อกีฬา หรือ ชุดออกกำลังกาย

1. เลือกให้เหมาะสมกับชนิดกีฬาและรูปแบบของการออกกำลังกาย เพราะจะช่วยเพิ่มความกระชับและความถนัดในการเล่นกีฬาชนิดนั้น

2. วัสดุที่ใช้ผลิตเสื้อผ้ากีฬานั้นควรจะเป็นเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ทำให้เหงื่อแห้งเร็ว ไม่อับชื้น และด้วยเทคโนโลยีได้พัฒนาขึ้นบางแบรนด์ได้สร้างเนื้อผ้าที่มีความเบาบางมากจะยิ่งช่วยให้ผู้สวมใส่สบายมากยิ่งขึ้น

3. ดีไซน์สวยงาม สามารถสวมใส่ได้หลายโอกาส เช่น สวมใส่ออกไปเที่ยวได้นอกเหนือจากการไปออกกำลังกาย

 

ภาพ: Lacoste

1. Lacoste

     เริ่มต้นด้วยแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นที่มีสัญลักษณ์ “จระเข้” อย่าง Lacoste ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน วางขายมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1933 และได้มีการเพิ่มคอลเล็กชั่นกลุ่มสินค้าเสื้อผ้ากีฬาในปัจจุบัน โดยเนื้อผ้าของลาคอสต์นั้นมักจะผลิตจากผ้าฝ้ายเป็นหลัก จึงทำให้เสื้อกีฬานั้นมีความนุ่ม เบาสบาย สามารถระบายความร้อนได้ดี สร้างความคล่องตัวกับการเล่นกีฬา เป็นแบรนด์ที่มอบลุคที่หรูหราเหมาะกับกีฬาประเภท กอล์ฟ เทนนิส ขี่ม้า เป็นต้น

 

ภาพ: Oakley

2. Oakley

     มาถึงแบรนด์ Oakley ที่หลายคนได้ยินชื่อแล้วคงคิดว่าเป็นแบรนด์แว่นตากีฬามากกว่าเป็นแบรนด์เสื้อกีฬา โดยโปรดักส์ไลน์ชุดกีฬานี้เริ่มต้นธุรกิจมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1975 ซึ่งโอ๊กลี่ย์โดดเด่นในเรื่องของสีสันที่เน้นการออกแบบกราฟิกที่สวยงามสะดุดตา ประกอบด้วยการถักทอด้วยความประณีต โดยภาพลักษณ์ของโอ๊กลี่ย์นี้ยังคงเน้นไปทางกีฬาที่ต้องมีแว่นตากันแดดร่วมด้วยอย่างกีฬากลางแจ้ง เช่น วิ่ง ขี่จักรยาน เป็นต้น

 

ภาพ: FBNew Balance

3. New Balance

     แบรนด์ที่ไม่ได้มีดีแค่รองเท้ากีฬา แต่เสื้อผ้ากีฬาก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน เป็นไลน์โปรดักส์ที่เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1906 ,uดีไซน์ที่เท่ไม่แพ้ใคร โดดเด่นด้วยการใช้สัญลักษณ์ตัว N พร้อมเลือกใช้เนื้อผ้าที่เน้นความยืดหยุ่น ให้คุณสมบัติที่แห้งเร็ว สวมใส่กระชับ และจากการที่ทีมฟุตบอลในยุโรปได้ใช้เสื้อของนิวบาลานซ์เป็นเสื้อทีม ทำให้ได้รับความนิยมขึ้นอย่างมาก จึงทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ถูกมองไปทางกีฬาที่เน้นการเคลื่อนไหวที่คล่องตัวเป็นหลัก เช่น ฟุตบอล และกีฬาประเภทกรีฑา เช่น วิ่ง เป็นต้น

 

ภาพ: FBAsics

4. Asics

     มาถึงแบรนด์ญี่ปุ่นที่เน้นไปทางเรื่องรองเท้าอย่าง Asics โดยแบรนด์นี้ได้เริ่มก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1949 ซึ่งสำหรับเสื้อผ้ากีฬาก็ถือว่ามีความเท่อยู่ไม่น้อย ตอบโจทย์ในแง่ของแฟชั่นที่ทันสมัยซึ่งแบรนด์เน้นทำการตลาดในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ภาพลักษณ์ของเสื้อกีฬาเอสิกส์เหมาะกับกีฬาสายลุย ที่ผสมผสานเรื่องแฟชั่นเข้ากันอย่างลงตัว เช่น กีฬาปีนเขา ไตรกีฬาสายลุยทั้งวิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ และกีฬาเอ็กซ์ตรีม เป็นต้น

 

ภาพ: FBUnder Amour

5. Under Armour

     ปิดท้ายด้วยแบรนด์เสื้อกีฬามาแรงอย่าง Under Armour แม้จะเพิ่งก่อตั้งในปี ค.ศ. 1996 ทว่าสำหรับแบรนด์นี้มีจุดเด่นคือการนำเทคโนโลยีที่หลากหลายในการสร้างคอลเล็กชั่นต่างๆ อาทิ  HeatGear ซึ่งมีเทคโนโลยีการระบายเหงื่ออย่างดี หรือจะเป็น Coldblack เทคโนโลยีการสร้างเนื้อผ้าสะท้อนแสงแดด ทำให้ผู้ใส่ไม่รู้สึกร้อน เป็นเสื้อกีฬาที่เหมาะกับวิ่ง สกี อเมริกันฟุตบอล หรือเทนนิส เป็นต้น