เกิดเป็นประเด็นอย่างต่อเนื่องในโลกภาพยนตร์ที่เหล่าคอหนังต่างจับตามองอย่างใกล้ชิด แม้ว่าภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่นจากค่าย Disney อย่าง “The Little Mermaid” และ “Spider-Man: Across the Spider-Verse” จากค่าย Sony Pictures จะเป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวไม่เหมือนกัน ทว่าเหล่าแฟนๆ ก็ยังไม่วายจะนำมาเปรียบเทียบกันตั้งแต่ยอดผู้ชม รายได้การเข้าฉาย รวมถึงสถิติในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งสรุปได้ว่าสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นนี้ทำรายได้นำโด่งไปอย่างราบคาบ แต่มีอีกสิ่งที่ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องนี้ไม่แตกต่างคือมีตัวละครนำเป็นชาวผิวดำเช่นกัน แต่ประเด็นในครั้งนี้จึงเกิดขึ้นว่า ทำไมภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องนี้ใช้ตัวละครผิวดำในการดำเนินเรื่อง แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

 

ตัวละคร Miles Morales จากภาพยนตร์แอนิเมชั่น Spider-Man: Into the Spider-Verse / ภาพ: CinemaBlend

     จากคำถามข้างต้นที่มีการถกเถียงกันบนโลกโซเชียลในขณะนี้ ในเรื่องของสไปเดอร์แอนิเมชั่นภาคนี้ Miles Morales เป็นตัวละครหลักผิวสีที่ค่ายต้นสังกัดสร้างขึ้นเพื่อมารับบทเป็นสไปเดอร์แมน ทว่าผู้คนไม่แม้แต่จะเหยียดถึงชนชาติหรือสีผิวเลย อาจจะมีบ้างแต่ก็ถือว่าอยู่ในจำนวนน้อย ไม่มากเท่ากับที่ Halle Bailey ศิลปินสาวเสียงหวานที่รับบทเป็นเจ้าหญิงแอเรียลในเวอร์ชั่นนี้ เรียกได้ว่าโดนเหยียดทุกอย่างตั้งแต่สีผิว เชื้อชาติ และชาติพันธุ์จนทำให้กลายเป็นกระแสโด่งดังที่ว่าเธอไม่เหมาะสมกับบทบาทเจ้าหญิงเงือกน้อยผิวขาวคนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว มิหนำซ้ำการตอกย้ำกระแสดังกล่าวให้ทวีคูณไปอีกคือการตอบโต้สื่อของฮัลลีที่หลายครั้งเธอมีปากเสียงเชิงลบ ทำให้เธอโดนด่าโดยไม่เกี่ยวกับบทภาพยนตร์อีกด้วย

 

ศิลปินสาว Halle Bailey / ภาพ: IMDb

     คำตอบง่ายๆ  ที่ผู้เขียนมองเห็นจากประเด็นนี้คือ สไปเดอร์แมนในเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นคือตัวละครที่ต้นสังกัดจงใจสร้างขึ้นใหม่เพื่อลบภาพจำตัวละครเดิมให้ไม่เหลือเค้าเดิม ทั้งยังวาดเส้นเรื่องโดยไม่อิงจากเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ใช้คนแสดงเลยทั้งสิ้น เหตุนี้จึงทำให้ผู้ชมนั้นเข้าถึงบทบาทและพร้อมยอมรับเรื่องราวใหม่ๆ รวมถึงตัวละครใหม่ๆ อีกด้วยแบบไร้ข้อกังขา ผิดจาก The Little Mermaid โดยสิ้นเชิงที่มีตัวละครต้นฉบับอยู่แล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องราวที่นำเสนอเนื้อเรื่องตามแบบฉบับแอนิเมชั่นที่สร้างไว้แต่เริ่ม เมื่อมีการปรับเปลี่ยนตัวละครให้แปลกไปจากเดิม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีเสียงวิจารณ์มากมายถึงเพียงนี้ ทว่ามันกลับเกินขอบเขตและใช้คำด่าทอเกินความจำเป็นก็เท่านั้นเอง

     อย่างไรก็ตามการวิจารณ์หรือการเปรียบเทียบมันสามารถเกิดขึ้นได้ แต่ก็ควรให้เกียรติในฐานะตัวตนของแต่ละคนที่เขามีมาแต่แรกเริ่ม ไม่ผิดที่ครั้งนี้ทั้งสองค่ายหนังอาจจะได้รับเสียงผู้ชมที่แตกต่างกัน เพราะเสียงเหล่านั้นก็เป็นสิ่งที่บอกเหตุผลได้แล้วว่าคะแนนความนิยมนั้นเกิดจากอะไร อย่างไรแล้วก็อยากให้กล่าวถึงเรื่องราวของภาพยนตร์หรือการรับบทของนักแสดงเท่านั้นพอ อย่าลามไปถึงเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องจนเกิดคำว่า ‘เหยียด’ ขึ้นอีกเลย