หนึ่งในอาหารยอดนิยมของคนทั่วโลกอาจต้องพูดถึง “พิซซ่า” เมนูอาหารสัญชาติอิตาเลียนที่มีประวัติศาสตร์ด้านอาหารมาอย่างยาวนาน โดยอ้างอิงจากหลักฐานการค้นพบที่เก่าแก่ที่สุดคือตั้งแต่ปี ค.ศ. 79 ช่วงปีที่มีการพบว่าในเมืองปอมเปอีหลังจากที่เกิดการระเบิดของภูเขาไฟครั้งใหญ่ ในเตาอบขนมปังมีแป้งขนมปังบางส่วนติดอยู่ ซึ่งหลายคนเชื่อว่านั่นอาจจะเป็นแป้งพิซซ่านั่นเอง ทว่ายุครุ่งเรืองของพิซซ่าคือราวๆ ยุคกลาง โดยชาวนาในอิตาลีนิยมทำขนมปังแผ่นบาง จากนั้นโรยหน้าด้วยมะเขือเทศและเครื่องเทศต่างๆ เพื่อเป็นอาหารกลางวันหรืออาหารว่าง และอิทธิพลของพิซซ่าได้แผ่ขยายไปเรื่อยๆ ต่อมาในต้นศตวรรษที่ 18 ณ เมืองเนเปิลส์ ได้มีการประยุกต์โดยเติมชีสเข้าไปเป็นส่วนผสมด้วยนั่นยิ่งทำให้พิซซ่ากลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น

 

ภาพ: Shourav Sheikh บน Unsplash

     หลังจากนั้นในปี 1889 เชฟชาวอิตาเลียน Raffaele Esposito ต้องการสร้างสรรค์อาหารพื้นถิ่นให้แก่กษัตริย์อุมแบร์โตที่ 1 (King Umberto I) แห่งอิตาลีและพระราชินีมาร์การิต้า (Queen Margherita) ได้ลิ้มลอง โดยเขาได้ทำพิซซ่าที่ใช้ส่วนผสมที่มีสีแดง สีขาว และสีเขียว ซึ่งสื่อถึงสีธงชาติอิตาลี และพิซซ่าถาดนี้ถูกตั้งชื่อว่า "พิซซ่ามาร์การิต้า" ตามพระนามขององค์ราชินี จนกลายมาเป็นสูตรพิซซ่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก

 

ภาพ: Bckfwd บน Unsplash

     อย่างที่เรารู้กันดีว่าคนบางกลุ่มยังยึดถือว่าพิซซ่ามาร์การิต้าคือพิซซ่าสูตรดั้งเดิม และการเติมวัตถุดิบแปลกปลอมลงไปนั้นอาจถือเป็นการขบถทางอาหารอย่างร้ายแรง โดยหนึ่งในหน้าพิซซ่าที่ถูกตราหน้าว่าผิดบาปคือหน้า “ฮาวายเอี้ยน” ซึ่งเป็นพิซซ่าสุดสร้างสรรค์ที่ถูกนำเสนอโดย “Sam Panopoulos” เชฟผู้คิดค้นพิซซ่าหน้าสับปะรดนั่นเอง

 

ภาพ: Washingtonpost.com

     พิซซ่าหน้าฮาวายเอี้ยนถูกคิดค้นขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ. 1962 ณ เมืองแฮมิลตัน รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา โดยเชฟปาโนเปาลอส เจ้าของร้าน “Satellite Restaurant” กำลังคิดค้นสูตรพิซซ่าที่แปลกใหม่เพื่อดึงดูดลูกค้า ดังนั้นเขาจึงนำสับปะรดกระป๋องยี่ห้อ Hawaiian ถือเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมในขณะนั้นมาเป็นวัตถุดิบในพิซซ่า ซึ่งมันออกมาเป็นรสชาติที่แปลกใหม่และน่าสนใจ ต่อมาเขาได้นำเอาสูตรพิซซ่าฮาวายเอี้ยนไปขายให้กับบริษัทพิซซ่ายักษ์ในขณะนั้น นั่นจึงทำให้พิซซ่าหน้านี้ได้เผยแพร่ไปทั่วโลก และกลายเป็นหนึ่งในรสชาติที่หลายคนชื่นชอบ อย่างไรก็ตามถึงเวลาจะผ่านมานานแต่ยังคงมีหลายเสียงถกเถียงกันว่าพิซซ่าหน้าสับปะรดนี้ไม่นับว่าเป็นพิซซ่าตามแบบที่ควรจะเป็น