Red, White & Royal Blue Prime Video
LIFESTYLE

เปิดบทสัมภาษณ์แบบเจาะลึกของ 2 นักแสดงนำจากภาพยนตร์ 'Red, White & Royal Blue'

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้นำเสนอแค่ภาพความหลากหลายของกลุ่มคน LGBTQ+ เท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของทั้งชาติพันธุ์ ความเชื่อ และวัฒนธรรมที่แตกต่าง เรื่อยไปจนถึงภาพของผู้หญิงเก่ง เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า 'นี่แหละ...โลกแห่งความเป็นจริงที่เราๆ อาศัยอยู่' #RedWhiteAndRoyalBlue #PrimeVideo

     เข้าฉายผ่าน Prime Video ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Red, White & Royal Blue ซึ่งดัดแปลงมาจากนวนิยายขายดีในชื่อเดียวกัน โดยได้นักแสดงหนุ่มมากด้วยเสน่ห์ถึง 2 คนมารับบทนำ เพื่อถ่ายทอดความอลวนระหว่างราชวงศ์อังกฤษและทำเนียบขาวแห่งสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น เทย์เลอร์ ซาคาร์ เปเรซ ที่มารับบทเป็นตัวละคร “อเล็กซ์ แคลร์มองต์-ดิแอส” ลูกชายของประธานาธิบดีหญิงแห่งสหรัฐอเมริกา และ นิโคลัส กาลิตซีน ที่มารับบทตัวละคร “เจ้าชายเฮนรี่” แห่งอังกฤษ ที่จะมาพร้อมเรื่องราวความรักเหนิความคาดหมายของทั้งคู่ ที่จะทำให้กลุ่มคน LGBTQ+ หัวใจพองโตไปตามๆ กัน ซึ่งโว้กไปพลาดที่จะนำบทสัมภาษณ์แบบเจาะลึกของทั้งคู่มาให้อ่านกันแบบเต็มๆ แล้วที่นี่ กับทุกแง่มุม ทั้งชีวิตส่วนตัว เรื่อยไปจนถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่ถูกจับตามองแห่งปี

Red, White & Royal Blue

     ก่อนจะมาออดิชั่นคุณรู้จัก Red, White & Royal Blue มาก่อนไหม ความรู้สึกแรกที่มีต่อเรื่องราวในนิยายต้นฉบับ รวมถึงบทภาพยนตร์ที่ Matthew Lopez (แมทธิว โลเปซ) เป็นหนึ่งในผู้ร่วมเขียนบทเป็นอย่างไร

     เทย์เลอร์: ก่อนมาออดิชั่น ผมไม่เคยรู้จัก Red, White & Royal Blue มาก่อนเลย มีคนโทรมาหาผมและบอกประมาณว่า ‘ตอนนี้กำลังมีโปรเจกต์ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งกำลังจะถ่ายทำในฮอลลีวูด และฉันคิดว่าคุณน่าจะเหมาะกับบทนี้’ ผมก็เลยซื้อหนังสือจาก Kindle มาอ่านในช่วงสุดสัปดาห์และมันก็เป็นนิยายที่ดีมากๆ เลยครับ ผมพบว่าตัวเองมีความรู้สึกร่วมไปกับตัวละครไปตลอดทั้งเรื่อง พออ่านจบ ผมก็รู้สึกมั่นใจมากว่าอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ หลังจากนั้นผมก็ได้รับบทภาพยนตร์ซึ่งมีการดัดแปลงและปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องตามความเหมาะสม เพราะว่าการทำภาพยนตร์มันไม่ใช่การท่องจำตามต้นฉบับ แต่มันเป็นงานศิลปะที่ต้องมีความแข็งแรงและสมบูรณ์ในตัวเอง ผมคิดว่าแมทธิวทำได้ดีมากในการรักษาหัวใจของหนังสือไว้ในบทภาพยนตร์ แม้ว่าตัวละครบางตัวในนิยายจะไม่ได้มาอยู่ในภาพยนตร์ แต่หัวใจสำคัญและความรักยังอยู่ ผมคิดว่าแมทธิวทำได้ยอดเยี่ยมในการวางรายละเอียดคาแรคเตอร์ของตัวละครให้ออกมาสมบูรณ์เมื่อดูผ่านจอ โดยเฉพาะเรื่องเส้นทางการเติบโตของอเล็กซ์ตั้งแต่เด็กจนเป็นผู้ใหญ่

     นิโคลัส: ผมไม่เคยรู้จักหนังสือเล่มนี้มาก่อนเลยครับ ผมเซอร์ไพรส์มากที่ได้เห็นว่ามีแฟนคลับที่รักหนังสือเล่มนี้ และได้เห็นความสำเร็จของหนังสือเล่มนี้ที่ไม่ได้มีแค่กลุ่ม LGBTQIA+ แต่มีกลุ่มผู้อ่านที่กว้างและหลากหลายมากๆ ในแง่ของบท ผมคิดว่าเป็นนี่คือตัวละครที่น่าสนใจมาก ตัวละครที่มีบุคลิกลักษณะหลายอย่างที่ผมอยากจะแสดง คือเป็นคนที่ภายนอกดูเหมือนแข็งแกร่ง แต่จริงๆ แล้วเป็นคนที่เปราะบางมากและภายในใจมีความรู้สึกมากมายเต็มไปหมด หนังเรื่องนี้มีบทภาพยนตร์ที่มีองค์ประกอบเด่นๆ หลายอย่างที่หนังโรแมนติกคอเมดี้ควรจะมี ในแง่ที่ว่ามันมีความสดใสอยู่ในตัว มันมีจังหวะในการเล่าเรื่องของตัวเอง และมีอารมณ์ขัน และผมก็รู้สึกได้ถึงความเป็นแมทธิวและงานของเขาในฐานะผู้เขียนบท ดังนั้นพอทั้งหมดนี้มารวมกัน มันก็เลยเป็นโปรเจ็กต์ที่ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในนั้นด้วยครับ

 

     คุณคิดว่า Red, White & Royal Blue ทำลายกรอบเดิมๆ ของภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ในสายตาผู้ชมในยุคนี้อย่างไรบ้าง

     เทย์เลอร์: ผมรู้สึกว่าแมทธิวทำได้ดีมากครับ ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเรื่องของหัวใจที่เป็นแก่นของเรื่อง ไม่สำคัญว่าตัวละครจะเป็นเพศไหน มันคือการเดินทางของพวกเขา จากในช่วงเริ่มต้น ตัวละครทั้งสองอาจจะมีนิสัยบางอย่างที่คนไม่ค่อยชอบ แต่ผู้ชมก็ตกหลุมรักพวกเขา และพวกเขาตกหลุมรักกันและกัน แล้วเรื่องอื่นๆ ก็ไม่สำคัญอีกต่อไป คุณจะรู้สึกอินไปกับผู้ชายสองคนนี้รวมถึงผู้คนที่อยู่รอบตัวพวกเขา คุณจะเชียร์ให้เรื่องราวของพวกเขาจบลงแบบแฮปปี้จริงๆ มีคนบอกผมว่าตอนที่ดูหนังเรื่องนี้ มีคนดูที่ส่งเสียงร้องด้วยความดีใจหลายครั้งและหัวเราะเฮฮาตลอดทั้งเรื่อง เขารู้สึกว่ามันเป็นประสบการณ์พิเศษที่แปลกใหม่และไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก ผมคิดว่านั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึงความเก่งกาจของ Casey (Casey McQuiston) ในฐานะนักเขียน ของ Matthew López และ Ted Malawer ในฐานะผู้เขียนบทภาพยนตร์ และของนักแสดง ผมคิดว่ามันทำลายรูปแบบเดิมของภาพยนตร์ในหลายด้าน และควรจะเป็นต้นแบบใหม่สำหรับภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ เพราะว่าสิ่งสำคัญที่สุดของภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้คือเรื่องของหัวใจ แล้วก็ความตลก

     นิโคลัส: ผมคิดว่าเรากำลังอยู่ในยุคที่ได้เห็นการนำเรื่องเกี่ยวกับเพศที่สามมาเล่ามากขึ้น Heartstopper และ Young Royals ได้รับความนิยมมาก แฟนหนังสือจำนวนมากก็กลายมาเป็นแฟนหนังด้วยเหมือนกัน และผมคิดว่าเรากำลังเดินไปในทางนั้นในรูปแบบของภาพยนตร์เช่นกัน ในมุมหนึ่งมันคือเรื่องราวความรักยุคใหม่ แต่สถานการณ์อาจจะต่างจากคนส่วนใหญ่นิดหน่อยเพราะว่าตัวละครตัวหนึ่งเป็นคนในราชวงศ์ ส่วนอีกคนเป็นลูกชายคนโตของประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่สถานการณ์ที่พวกเขาเจอก็เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าคนดูจะมีความรู้สึกร่วมได้ นอกเหนือจากการที่เป็นเรื่องราวความรักที่ของเพศที่สาม จริงๆ มันก็คือเรื่องราวของคนสองคนที่พบว่าตัวเองติดอยู่ในสถานการณ์ การเลี้ยงดู และหน้าที่ความรับผิดชอบซึ่งขัดขวางเส้นทางรักของพวกเขา ผมคิดว่ามันเป็นความรู้สึกที่เป็นสากลมาก ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องที่ทั้งทันสมัย สดใหม่ และอยู่ในขนบในเวลาเดียวกัน



WATCH




     คุณคิดว่า Red, White & Royal Blue ทำลายกรอบเดิมๆ ของภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ในสายตาผู้ชมในยุคนี้อย่างไรบ้าง

     เทย์เลอร์: ผมรู้สึกว่าแมทธิวทำได้ดีมากครับ ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเรื่องของหัวใจที่เป็นแก่นของเรื่อง ไม่สำคัญว่าตัวละครจะเป็นเพศไหน มันคือการเดินทางของพวกเขา จากในช่วงเริ่มต้น ตัวละครทั้งสองอาจจะมีนิสัยบางอย่างที่คนไม่ค่อยชอบ แต่ผู้ชมก็ตกหลุมรักพวกเขา และพวกเขาตกหลุมรักกันและกัน แล้วเรื่องอื่นๆ ก็ไม่สำคัญอีกต่อไป คุณจะรู้สึกอินไปกับผู้ชายสองคนนี้รวมถึงผู้คนที่อยู่รอบตัวพวกเขา คุณจะเชียร์ให้เรื่องราวของพวกเขาจบลงแบบแฮปปี้จริงๆ มีคนบอกผมว่าตอนที่ดูหนังเรื่องนี้ มีคนดูที่ส่งเสียงร้องด้วยความดีใจหลายครั้งและหัวเราะเฮฮาตลอดทั้งเรื่อง เขารู้สึกว่ามันเป็นประสบการณ์พิเศษที่แปลกใหม่และไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก ผมคิดว่านั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึงความเก่งกาจของ Casey (Casey McQuiston) ในฐานะนักเขียน ของ Matthew López และ Ted Malawer ในฐานะผู้เขียนบทภาพยนตร์ และของนักแสดง ผมคิดว่ามันทำลายรูปแบบเดิมของภาพยนตร์ในหลายด้าน และควรจะเป็นต้นแบบใหม่สำหรับภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ เพราะว่าสิ่งสำคัญที่สุดของภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้คือเรื่องของหัวใจ แล้วก็ความตลก

     นิโคลัส: ผมคิดว่าเรากำลังอยู่ในยุคที่ได้เห็นการนำเรื่องเกี่ยวกับเพศที่สามมาเล่ามากขึ้น Heartstopper และ Young Royals ได้รับความนิยมมาก แฟนหนังสือจำนวนมากก็กลายมาเป็นแฟนหนังด้วยเหมือนกัน และผมคิดว่าเรากำลังเดินไปในทางนั้นในรูปแบบของภาพยนตร์เช่นกัน ในมุมหนึ่งมันคือเรื่องราวความรักยุคใหม่ แต่สถานการณ์อาจจะต่างจากคนส่วนใหญ่นิดหน่อยเพราะว่าตัวละครตัวหนึ่งเป็นคนในราชวงศ์ ส่วนอีกคนเป็นลูกชายคนโตของประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่สถานการณ์ที่พวกเขาเจอก็เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าคนดูจะมีความรู้สึกร่วมได้ นอกเหนือจากการที่เป็นเรื่องราวความรักที่ของเพศที่สาม จริงๆ มันก็คือเรื่องราวของคนสองคนที่พบว่าตัวเองติดอยู่ในสถานการณ์ การเลี้ยงดู และหน้าที่ความรับผิดชอบซึ่งขัดขวางเส้นทางรักของพวกเขา ผมคิดว่ามันเป็นความรู้สึกที่เป็นสากลมาก ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องที่ทั้งทันสมัย สดใหม่ และอยู่ในขนบในเวลาเดียวกัน

 

     ถ้าต้องพูดถึง อเล็กซ์ แคลร์มองต์-ดิแอส และเจ้าชายเฮนรี่ พวกคุณจะอธิบายตัวละครของตัวเองแบบสั้นๆ ว่าอย่างไร

     เทย์เลอร์: อธิบายแบบสั้นๆ เหรอครับ ยากนะ อเล็กซ์เป็นลูกชายของประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกา (รับบทโดย อูม่า เธอร์แมน) ส่วนพ่อของเขาเป็นสมาชิกสภาคองเกรส (รับบทโดย คลิฟตัน คอลลินส์ จูเนียร์) เขาเป็นคนกระฉับกระเฉง มีแรงผลักดัน เป็นคนบ้าระห่ำ บางครั้งก็ใจร้อนและหุนหันพลันแล่น เขาเป็นคนมาตรฐานสูง ชอบความสมบูรณ์แบบและมีจุดอ่อนหลายอย่าง เขายังไม่เป็นผู้ใหญ่ในทางอารมณ์มากนักในช่วงแรกของเรื่อง และนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของเขา เขาเป็นแค่เด็กที่โตมาในชนชั้นแรงงานในสถานการณ์ที่พิเศษ ซึ่งก็คือการอาศัยอยู่ในทำเนียบขาวและกำลังเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ เขาคือตัวแทนความฝันแบบอเมริกัน (American dream)

     นิโคลัส: เฮนรี่กับผมเป็นคนที่แตกต่างกันมาก แต่ผมคิดว่าผมเข้าใจคนที่เห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นมากกว่าตัวเองนะครับ และผมก็คิดว่ามันเป็นเรื่องปวดใจมากๆ เฮนรี่เป็นตัวละครที่มีความยึดมั่นในหน้าที่ของตัวเองมาก เขาต้องการเป็นคนคนนั้นที่ผู้คนอยากให้เป็น เขาปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองอย่างสิ้นเชิง และผมคิดว่ามันเป็นการเสียสละมาก ถ้าไม่มองว่าเป็นเรื่องปวดใจนะครับ ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนน่าสนใจ เพราะด้วยบทบาทที่มาพร้อมกับชาติกำเนิด มันทำให้เขาอยู่ในจุดที่โดดเดี่ยวมากๆ มีฉากหนึ่งที่น่าสะเทือนใจที่อเล็กซ์เหมือนจะเข้ามาขอความรักจากเขา แล้วเขาก็พูดว่า ‘บางครั้งผมคิดว่าคุณลืมไปว่าเราไม่เหมือนกัน’ สถานการณ์ของเขามันไม่เหมือนใครเลย การที่ทายาทหนุ่มของราชวงศ์ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและภาระหนักอึ้ง จะเสี่ยงทำอะไรแหกคอกหรือแปลกไปจากความคิดความเชื่อของคนทั่วไป ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าติดตามมาก แล้วก็เป็นเรื่องน่าสนใจมากสำหรับผมในการเรียนรู้และทำความเข้าใจโลกของราชวงศ์

     เล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอเล็กซ์กับเฮนรี่ให้เราฟังหน่อย สิ่งที่คุณชอบที่สุดเกี่ยวกับการเติบโตและการตกหลุมรักระหว่างพวกเขาคืออะไร

     เทย์เลอร์: ในมุมหนึ่ง อเล็กซ์สามารถเป็นคนที่เห็นอกเห็นคนอื่นใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ และในอีกมุมก็กลายเป็นคนไม่น่าคบเลย พฤติกรรมของเขามีความขัดแย้งกันมาก ยิ่งเขาใช้เวลากับเฮนรี่มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเริ่มสนใจความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามากขึ้นเท่านั้น เมื่อเฮนรี่เริ่มเคลื่อนไหวก่อนในวันส่งท้ายปีเก่า มันทำให้อเล็กซ์สับสนไปหมดจนกระทั่งได้คุยกับนอร่าซึ่งทำให้เขารู้ว่าเขาชอบคนคนนี้จริงๆ ในความสัมพันธ์ครั้งใหม่นี้ อเล็กซ์อยู่ระหว่างการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ พร้อมๆ กับการสำรวจเรื่องเพศ และการค้นหาแรงบันดาลใจทางการเมืองของตัวเอง ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครทั้งสองคนเติบโตไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกลายเป็นรถไฟที่หยุดไม่ได้แม้จะมีอุปสรรคขวางกั้น ในการทำงานพวกเราต้องพิถีพิถันมากๆ ในรายละเอียดของแต่ละช่วงเวลาที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเดินหน้าหรือถอยหลัง เพราะเราคิดว่านั่นคือส่วนที่สำคัญที่สุดของการเดินทางในเรื่องของพวกเขา

     ฉากเลิฟซีนต่างๆ ในเรื่องได้รับการออกแบบมาอย่างดี และเราใส่ใจมากในการเจาะจงว่าช่วงเวลาไหนที่เป็นซีนที่เต็มไปด้วยความหลงใหล และฉากไหนที่อ่อนโยนนุ่มนวล ในโลกความเป็นจริงคุณต้องผ่านช่วงเวลาที่มีลึกซึ้งในระดับต่างๆ กันในแต่ละความสัมพันธ์ และคุณจะได้เห็นสิ่งเหล่านั้นในหนังเรื่องนี้ตลอดทั้งเรื่อง ท้ายที่สุดแล้ว ผมคิดว่าการเดินทางของพวกเขามันสวยงามและเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็สามารถรู้สึกเชื่อมโยงได้ มันเป็นเรื่องราวความรักระหว่างคนสองคนที่มีประสบการณ์ของมนุษย์ร่วมกัน และผมคิดว่ามันวิเศษมาก

     นิโคลัส: ในมุมมองของนักแสดง คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าฉากเค้กแต่งงานในงานเลี้ยงแล้วครับ มันเป็นหนึ่งในประสบการณ์การแสดงที่สนุกที่สุดเท่าที่ผมเคยสัมผัสมาเลย ตอนนั้นผมพยายามเอาน้ำตาลไอซิ่งออกจากหู ตามข้อพับและซอกต่างๆ ไปอีกสองสามวันข้างหน้าเลย ผมอาบน้ำทันทีหลังจากถ่ายทำเสร็จนะแต่ก็ยังล้างออกไม่หมด แต่มันเป็นความสนุกสุดๆ ไปเลยครับ ทีมงานทุกคนผลัดกันหยิบเค้กมาขว้างใส่เรา มันเป็นประสบการณ์สานสัมพันธ์ที่ดีมากๆ ส่วนถ้ามองจากมุมมองของตัวละคร ผมคิดว่าฉากที่พวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันในพิพิธภัณฑ์วิคตอเรียแอนด์อัลเบิร์ตคือช่วงเวลาที่แว๊บขึ้นมาในความคิดของผมในฐานะฉากที่กำหนดความสัมพันธ์ของพวกเขา เฮนรี่เปิดเผยความเปราะบางของเขาและทำในสิ่งที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาด้วยการบอกให้อเล็กซ์รู้อย่างชัดเจนตรงไปตรงมาว่านี่แหละคือชีวิตของผม ผมกลัว แต่ผมก็เต็มใจที่จะยอมรับความเสี่ยงนี้

 

     คุณคิดว่าการมีภาพแทนของผู้คนที่หลากหลายในสื่อบันเทิงกระแสหลักมีความสำคัญอย่างไรบ้าง และ Red, White & Royal Blue น่าจะมีความหมายต่อผู้ชมทั่วโลกอย่างไรบ้าง

     เทย์เลอร์: ไม่ว่าจะเป็นชุมชนคนข้ามเพศ ชุมชน LGBTQ ชุมชนอินเดีย ชุมชนเปอร์เซีย ชุมชนละติน ฯลฯ มีการนำเสนอภาพแทนของกลุ่มคนที่หลากหลายในหนังเรื่องนี้ ซึ่งก็รวมถึงภาพของผู้หญิงเก่งที่ต้องการเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ทุกอย่างถูกพูดถึงในหนังเรื่องนี้และพูดถึงในแบบที่ไม่รู้สึกว่าเข้าใจยาก หรือจงใจยัดเยียดว่า 'ดูสิว่าคนแบบพวกเราก็เป็นส่วนหนึ่งในสังคมนะ' แต่ในหนังเรื่องนี้ไม่ใช่แบบนั้น สิ่งที่หนังบอกคือ นี่แหละคือความเป็นจริงที่ไม่ไกลจากโลกความเป็นจริงที่เราอาศัย และผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่น่าตื่นเต้นจริงๆ

     มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ได้เห็นความหลากหลายของผู้คนในหนัง ทั้งในเรื่องเพศ เพศวิถี และเชื้อชาติ ทั้งในจอและหลังกล้อง และทั้งหมดนี้ทำให้รู้สึกได้ถึงความตั้งใจอย่างมากของทีมงาน และเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากที่ได้รู้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังจะเข้าถึงผู้ชมจำนวนมากขนาดไหน ผมหวังว่าหลังจากดูภาพยนตร์เรื่องนี้จบแล้ว ผู้ชมจะกลับไปพร้อมกับความรู้สึกที่เห็นอกเห็นใจคนที่ไม่เหมือนพวกเขา และเข้าใจมากขึ้นว่าตัวคุณมีบทบาทต่อชีวิตของผู้อื่นมากแค่ไหน หมายความว่าถ้าคุณไม่ได้รู้สึกอินไปกับตัวละคร ก็น่าจะมีใครบางคนในชีวิตของคุณที่รู้สึก และภาพยนตร์เรื่องนี้จะดึงความมีเมตตาของคุณออกมา รวมถึงความเข้าใจในความสัมพันธ์ของคุณมากขึ้นด้วย โดยรวมแล้ว ผมหวังว่าผู้ชมจะเข้าใจว่าหนังเรื่องนี้มันก็คือเรื่องราวความรักทั่วไปที่มีความหักมุมซึ่งก้าวข้ามเส้นแบ่งเรื่องเพศเท่านั้นเอง

     นิโคลัส: อุตสาหกรรมบันเทิงมีความเคลื่อนไหวและก้าวหน้าขึ้นมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และผมคิดว่ามันจะทำให้การได้เห็นเรื่องราวเหล่านี้บนหน้าจอเรื่องปกติ หนังเรื่องนี้เป็นหนังคุณภาพเยี่ยมและเข้าถึงแก่นแท้ของอารมณ์ มันมีองค์ประกอบเด่นๆ ของหนังโรแมนติกคอมเมดี้ที่เรารู้จักและชื่นชอบ ผมหวังว่าคนจะได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้และเห็นภาพแทนของตัวเองในเรื่อง หรือรู้สึกว่าเรื่องราวในภาพยนตร์มันเชื่อมโยงกับพวกเขา เราใส่ความรักและฉากที่จะถูกใจแฟนๆ เข้าไปในภาพยนตร์เยอะมาก ผมคิดว่ามันเป็นหนังเต็มไปด้วยเรื่องราวของความสุขและหวังว่าผู้ชมจะรู้สึกอย่างนั้นเมื่อพวกเขาได้ดูหนังเรื่องนี้ครับ

     สามารถตามไปชมภาพยนตร์เรื่อง Red, White & Royal Blue ได้แล้ววันนี้ที่ Prime Video

 

ข้อมูล : Courtesy of Prime Video

WATCH