LIFESTYLE

ปลีกวิเวกไปพักผ่อนไกลเมืองที่ Pimalai Resort & Spa เกาะลันตา ดำน้ำเกาะห้า และสารพัดกิจกรรมในโรงแรม

ไม่เบื่อแน่นอนเพราะที่ Pimalai Resort & Spa มีกิจกรรมทุกรูปแบบให้ทำเพลินๆ โดยไม่ต้องออกไปไหน

ในช่วงที่เรายังคงต้อง Social Distancing ตัวเลือกของการท่องเที่ยวที่หลายคนกำลังมองหาคงเป็นการท่องเที่ยวแบบปลีกวิเวก สถานที่ที่ไกลเมือง ให้ความเป็นส่วนตัวสูง มีคนไม่พลุกพล่าน และที่สำคัญคือต้องมีกิจกรรมภายในโรงแรมให้เลือกทำ เพื่อให้ไม่รู้สึกเบื่อกับการใช้เวลาว่างไปเปล่าๆ วันนี้ Vogue Travel ชวนไปเที่ยวกันที่เกาะลันตา เกาะสวยห่างไกลเมืองที่เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดกระบี่ และเมื่อมาที่นี่แล้วมีโรงแรมแห่งหนึ่งที่คุณควรเข้าไปเช็คอิน นั่นคือ Pimalai Resort & Spa

Pimalai Resort & Spa เป็นรีสอร์ทแบรนด์ไทยแท้ระดับ 5 ดาวบนเกาะลันตาที่ดำเนินกิจการมากว่า 20 ปีแล้ว โดยมีคุณอนุรัต ตียาภรณ์เป็นผู้บุกเบิกและก่อตั้งรีสอร์ทแห่งนี้ขึ้นมาจากที่ดินรกร้างว่างเปล่า ซึ่งมีทายาทอย่างคุณชรินทิพย์ ตียาภรณ์เป็นผู้บริหารในปัจจุบัน โดยตั้งชื่อว่า "พิมาลัย" ซึ่งแปลว่าสวรรค์น้อยๆ ในภาษาอินเดียโบราณ เปรียบเสมือน "สวรรค์ลับแห่งการพักผ่อน" ซึ่งสวรรค์ลับแห่งนี้แม้จะอยู่ห่างไกลจากเมืองมาก แต่ความสะดวกสบายนั้นเต็มสิบ

เมื่อเข้ามาเช็คอินที่ Pimalai Resort & Spa แล้ว วิวแรกที่คุณจะได้เห็นคือวิวทะเลกว้างขวางสุดลูกหูลูกตาที่ทอดยาวอยู่บริเวณหน้าล็อบบี้ พร้อมกับสระว่ายน้ำที่คดเคี้ยวไปตามทิวเขา และมองเห็นห้องอาหารของโรงแรมซึ่งอยู่ถัดออกไป ที่นี่เองที่เราจะมานั่งชมวิวเพลิดเพลินกับอาหารเช้าหลากหลายสัญชาติ และชมบรรยากาศวิวทะเลจรดท้องฟ้า



WATCH




โต๊ะนั่งรับประทานอาหารบริเวณห้องอาหารเช้าที่อยู่ถัดจากล็อบบี้ ซึ่งทุกโต๊ะจะได้เห็นวิวทะเลที่แตกต่างกัน ให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่ในทุกๆ เช้า

วันนี้โว้กชวนมาเช็คอินที่ห้องฮิลไซด์ โอเชี่ยน พูลวิลล่า 1 ห้องนอน ไฮไลต์ของห้องนี้คือความกว้างขวางโอ่โถง แต่ในขณะเดียวกันยังแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน ประกอบด้วยเรือนห้องนอนที่ถูกแยกคนละหลังจากเรือนห้องนั่งเล่น โดยมีศาลาพักผ่อนขนาดใหญ่และสระว่ายน้ำคั่นกลาง 

ข้อดีของการแบ่งพื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนออกจากกันอย่างชัดเจน คือสมาชิกในวิลล่าสามารถมีมุมพักผ่อนส่วนตัวได้เสมอ ไม่ว่าจะพัก 2 คนหรือมากกว่านั้น ทุกคนก็ยังสามารถมีพื้นที่ให้ปล่อยใจอย่างเป็นส่วนตัว รวมถึงห้องน้ำยังแยกออกเป็น 2 ห้องสำหรับเรือนแต่ละหลังเพื่อความสะดวกสบาย ข้อดีอีกอย่างคือในวิลล่าห้องเดิมคุณสามารถเปลี่ยนบรรยากาศในการนั่งเล่นได้อย่างไม่เบื่อ เพราะวิวจากเรือนทั้ง 2 หลังจะไม่เห็นกันเสียทีเดียว เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณทิวเขา ทำให้มองเห็นวิวได้หลากหลายมุมมอง

ช่วงบ่ายแก่ๆ แดดร่มลมตกเราขอแนะนำให้ลงไปแช่น้ำแหวกว่ายในสระว่ายน้ำส่วนตัวสักครู่ ชมวิวทะเลที่เบื้องหน้า หรือจะนั่งชิลในศาลาทรงไทยภายในวิลล่า ก่อนจะเริ่มลิ้มลองเมนูเด็ดในมื้อเย็นที่ปรุงโดยเชฟประจำโรงแรม

ในช่วง Social Distancing สำหรับใครที่เคร่งครัดในเรื่องการรับประทานอาหารแยกจากผู้อื่น สามารถสั่งอาหารมารับประทานภายในวิลล่าได้เลย แต่การใช้บริการ In-Villa Dining ของที่นี่ไม่จำเป็นต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้อง เพราะสามารถมีโต๊ะรับประทานอาหารแบบเอาท์ดอร์ในบริเวณวิลล่าได้ เป็นส่วนตัวและโรแมนติก

อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคู่หรือกลุ่มที่ต้องการดินเนอร์แบบส่วนตัว คือการจัดดินเนอร์บนชายหาด ส่วนใครที่อยากดื่มด่ำกับบรรยากาศของร้านอาหารในโรงแรม สามารถเลือกดินเนอร์ได้ที่ทั้ง 3 ห้องอาหารของโรงแรม ได้แก่ SPICE’N RICE, RAK TALAY และ SEVEN SEAS ซึ่งห้องอาหารแต่ละห้องมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน

SPICE’N RICE เป็นห้องอาหารไทยดั้งเดิมที่เสิร์ฟรสชาติไทยแท้ โดยใช้สมุนไพรและเครื่องแกงต่างๆ จากฟาร์มออร์แกนิกของรีสอร์ท ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนคออาหารใต้ไม่ควรพลาดมารับประทานอาหารที่นี่ดูสักครั้ง มาพร้อมกับรสชาติจัดจ้านและถึงเครื่อง

"รักษ์ทะเล" ร้านอาหารติดริมชายหาดของโรงแรมที่ประกอบไปด้วยส่วนรับประทานอาหารและส่วนบาร์ เสิร์ฟเมนูอาหารฟิวชั่นตลอดวัน พร้อมบาร์บีคิวซีฟู้ดตามช่วงเวลาที่กำหนด ความชิลของการมาใช้บริการที่ร้านอาหารแห่งนี้คือสามารถเดินลงทะเลได้เลย หรือจะเดินเล่นชิลๆ ย่อยอาหารหลังจากรับประทานอาหารก็เป็นไอเดียที่ดี ที่สำคัญคืออากาศไม่ร้อนเลย เนื่องจากมีหลังคาและศาลาครอบเป็นร่มเงาให้กับโต๊ะอาหารทุกตัว

บริเวณหน้าบาร์ของร้านรักษ์ทะเล ตัวบาร์ถูกออกแบบให้เป็นรูปทรงกลม รับกับขอบหาดที่โค้งทอดยาวไปตามแนวทิวเขา นั่งดื่มชิลๆ ชมวิวทะเลได้ตลอดทั้งวัน

ห้องอาหาร SEVEN SEAS คือห้องอาหารติดล็อบบี้ที่เรามารับประทานอาหารเช้ากัน ในช่วงค่ำห้องอาหารแห่งนี้ยังแปลงร่างเป็นร้านดินเนอร์สุดโรแมนติก เสิร์ฟอาหาร Chef Table ที่ปรุงโดยเชฟระดับมิชลินด้วย

กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงเมื่อมาที่เกาะลันตา คือการออกเดินทางไปสัมผัสโลกใต้ทะเลที่ "เกาะห้า" อุทยานแห่งชาติอันแสนอุดมสมบูรณ์ที่ได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำทั่วโลก น้ำทะเลสีเขียวมรกตใสสะอาด โอบล้อมเกาะเล็กๆ ที่ปกคลุมด้วยหาดทรายขาวที่กลางเกาะ ที่ Pimalai Resort & Spa มีบริการทัวร์เกาะห้าพร้อมอุปกรณ์ดำน้ำ และผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ ในราคาเพียงหลักพันเท่านั้น ออกเดินทางด้วยเรือยอร์ชขนาดใหญ่ที่สามารถชมวิวได้ถึง 2 ชั้น พร้อมห้องน้ำในตัว ถือว่าคุ้มค่ากับการได้เดินทางไปสัมผัสเหล่าเพื่อนใต้ทะเลที่หาชมได้ยาก

ความสวยงามของ "เกาะห้า" ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเกาะลันตา 

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาพักที่พิมาลัย คือการทำสปาแบบอโรม่าที่ผ่อนคลายตั้งแต่ทางเข้า ทางเดินภายในบริเวณสปาถูกออกแบบให้โอบล้อมด้วยต้นไม้สีเขียวขจี ให้ความรู้สึกสงบ ทางเดินไม้ทอดยาวตั้งแต่ทางเข้าของสปาไปจนถึงห้องทำสปาตลอดแนว ที่สำคัญคืออยากให้คุณลองสังเกตการดูแลต้นไม้ของที่นี่ว่าเขาเอาจริงเอาจังในการจัดสวนเป็นที่หนึ่ง เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณ Patrice Landrein ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมซึ่งเล่าว่า "เราจะขับรถตรวจเช็ครอบรีสอร์ททุกเช้าเพื่อดูแนวต้นไม้ทั้งหมดว่ายังสวยสดงดงามดีหรือไม่"

นี่คือจุดที่เรียกได้ว่า "ชิลที่สุด" ในรีสอร์ทแห่งนี้เลยก็ว่าได้ หลังจากทำสปาเสร็จเรียบร้อยแล้ว พนักงานจะเชิญให้คุณมานั่งพักดื่มน้ำสมุนไพรร้อนๆ เอนหลังชมบ่อปลาที่อยู่เบื้องหน้า พร้อมชมวิวสวนสีเขียว ลมที่พัดเอื่อยทำให้เราเคลิ้มจนอยากหลับตาลงอีกครั้ง

การเข้าพักที่ Pimalai Resort & Spa คือการมาเที่ยวเพื่อพักผ่อนและค้นพบตัวเองอย่างแท้จริง เราขอแนะนำให้คุณปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แล้วใช้เวลาอยู่กับเสียงคลื่น ต้นไม้ ธรรมชาติ และพูดคุยกับผู้คนที่แสนเป็นมิตรในโรงแรมแห่งนี้ แล้วคุณจะกลับไปพร้อมกับแบตเตอรี่ในตัวที่ชาร์จจนเต็มอีกครั้ง

WATCH