เจาะเรื่องราวและแรงบันดาลใจผ่านโทนสีทั้ง 10 ปี ของ Pantone

     ในทุกปีเรามักจะพบเห็นประกาศการกำหนดโทนสีจากองค์กรชื่อดังอย่าง “Pantone” โดยเฉดสีที่กำหนดมาแต่ละปีนั้น ถือได้ว่าเป็นสีที่กำลังจะก้าวเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ ศิลปะ แวดวงธุรกิจ รวมถึงอุตสาหกรรมแฟชั่นอีกด้วย ซึ่งเฉดสีในแต่ละปีนั้น Pantone ก็ได้มีการนำเสนอเรื่องราวและแรงบันดาลใจต่างๆ ในบทความนี้โว้กเลยอาสาพาแฟนๆ ย้อนส่องความเป็นมาของแต่ละเฉดสีตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

 

 

1. Marsala ปี 2015

     เริ่มต้นกันที่โทนสีแรกอย่าง Marsala ในปี 2015 โทนสีน้ำตาลอมแดงที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ความมั่นใจ และความสง่างาม เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจจากความคลาสสิกที่ผสมผสานเข้ากับความมีชีวิตชีวา นอกจากนี้โทนสีดังกล่าวยังสื่อถึงความเหนือกาลเวลา และสามารถเข้าได้กับหลากหลายสไตล์ทั้งโมเดิร์น วินเทจ และร่วมสมัย ทั้งนี้ที่มาของโทนสี Marsala เกิดขึ้นจากสภาวการณ์ของโลกในปีนั้นที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งในแง่การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ทำให้ผู้คนต่างขวนขวายหาความมั่นคงและความแน่นอนในชีวิต จนเกิดเป็นโทนสีนี้ที่ให้ความรู้สึกตรงกับความต้องการในช่วงเวลานั้น

 

 

2. Rose Quartz และ ​Serenity ปี 2016

     ในปี 2016 เป็นอีกหนึ่งปีที่ Pantone ประกาศโทนสีออกมาพร้อมกันถึง 2 โทนสี คือ Rose Quartz และ ​Serenity โดยโทนสีทั้งคู่มาพร้อมแรงบันดาลใจที่ต้องการสร้างความหวังและปรารถนาถึงความสงบสุข ทำให้เฉดสีทั้งคู่เป็นเฉดสีที่มอบความรู้สึกสบายใจ อ่อนโยน และผ่อนคลายให้คนที่พบเห็น โดยสี Rose Quartz เป็นสีโทนชมพูอ่อนที่อบอุ่นและนุ่มนวล สื่อถึงความอ่อนโยน ความรัก และความเมตตา สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการความสมดุลในชีวิต ในขณะที่สี Serenity เป็นสีฟ้าอ่อนสดใสและผ่อนคลาย สื่อถึงความสงบ ความหวัง และความเป็นอิสระ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการความหวังและความเชื่อมั่นในอนาคต

 

 

3. Greenery ปี 2017

     สีประจำปีของ Pantone ในปี 2017 คือ Greenery สีเขียวสดใสที่ดูมีชีวิตชีวา แรงบันดาลใจของโทนสีนี้มาจากความเชื่อมโยงกับธรรมชาติและความสดชื่น เป็นสีที่สื่อถึงความรู้สึกสดใหม่ มีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยพลัง เปรียบเสมือนใบไม้สีเขียวที่งอกงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และยังเป็นสีที่ชวนให้นึกถึงโลกและธรรมชาติรอบตัว นอกจากนี้สี Greenery สะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ที่ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติมากขึ้น อีกทั้งยังสื่อถึงความปรารถนาที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ที่เต็มไปด้วยรู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย

 

 

4. Ultra Violet ปี 2018

     ถัดมากับสี Ultra Violet ปี 2018 เป็นโทนสีที่ “Leatrice Eiseman” กรรมการผู้บริหารของ Pantone ได้กล่าวเอาไว้ว่า "Ultra Violet เป็นสีที่สื่อถึงความลึกลับซับซ้อนของจักรวาล สะท้อนถึงความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจที่เชิญชวนให้ผู้คนออกไปค้นหาอะไรใหม่ๆ ในจักรวาลที่ไร้ขอบเขต ตลอดจนความเฉลียวฉลาด และการมีวิสัยทัศน์ในการกำหนดอนาคต" ดังนั้นโทนสีดังกล่าวนี้จึงเปี่ยมไปด้วยความลึกลับ น่าค้นหา ตลอดจนความคิดสร้างสรรค์ และจิตวิญญาณ เป็นโทนสีที่เชื่อมโยงเข้ากับวัฒนธรรมสมัยนิยม เช่น ดนตรี แฟชั่น และศิลปะ โดยศิลปินหลายคนมักใช้สีนี้เพื่อแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ เช่น ศิลปินเพลงอย่าง Prince, David Bowie และ Jimi Hendrix

 

 

5. Living Coral ปี 2019

     ต่อมาในปี 2019 กับอีกหนึ่งโทนสีที่มีความสดใสกับ “Living Coral” สีชมพูอมส้มที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อันน่าดึงดูด ที่ได้จากแรงบันดาลใจของความมีชีวิตชีวาในธรรมชาติ เฉดสีนี้ชวนให้นึกถึงแนวปะการังใต้ท้องทะเล ตลอดจนสัตว์ทะเลน้อยใหญ่ที่แหวกว่ายไปมาด้วยความสดใส นอกจากนี้สี “Living Coral” ยังถูกเชื่อมโยงเข้ากับเทรนด์และวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในสังคม ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ด้านสุขภาพ เทรนด์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และความนิยมบนสื่อออนไลน์ที่มีแนวโน้มพุ่งทะยานขึ้นไปเรื่อยๆ 

 

 

6. Classic Blue ปี 2020

     ในช่วงปี 2020 ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ทั่วโลกต่างประสบกับสภาวการณ์ที่ยากจะรับมืออย่างอย่างการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทำให้ช่วงเวลานั้น มนุษย์ต่างใฝ่หาความไว้วางใจ ความหวัง และความศรัทธา จนเกิดเป็นโทนสี “Classic Blue” ขึ้นมาในที่สุด ไม่เพียงสีดังกล่าวจะให้ความรู้สึกที่ชวนให้นึกถึงความหวังเท่านั้น แต่ยังเป็นโทนสีที่มีความคลาสสิก ให้ความรู้สึกหรูหรา สง่างาม แฝงไว้ซึ่งความสงบนิ่ง และผ่อนคลาย เหมาะกับช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง กระตุ้นให้มีความเชื่อมั่นที่พร้อมจะก้าวไปข้างหน้า

 

 

7. Illuminating และ Ultimate Grey ปี 2021

     ปี 2021 เป็นอีกปีที่สี Pantone ประจำปีนั้นถูกประกาศพร้อมกันถึง 2 สี โดยสี “Ultimate Gray และ Illuminating” เป็นสีที่สะท้อนให้เห็นถึงห้วงอารมณ์ของปี 2021 ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นปีที่ผู้คนทั่วโลกต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ตลอดจนเหตุการณ์ต่างๆ ที่นำมาซึ่งความเจ็บปวด สีเหล่านี้จึงเปรียบเสมือนความหวังที่ช่วยให้ผู้คนอดทนรอคืนวันอันสดใสที่กำลังจะก้าวเข้ามาอีกครั้ง โดยสี “Ultimate Gray” เป็นสีที่สื่อถึงความแข็งแกร่ง ความทนทาน และความน่าเชื่อถือ เปรียบเสมือนหินหรือดินที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน สื่อถึงความมั่นคงและความอดทน และสี “Illuminating” เป็นสีที่สื่อถึงความสดใส ร่าเริง และความหวัง เปรียบเสมือนแสงอาทิตย์ที่สาดส่องมายามเช้า สื่อถึงพลังบวกและอนาคตที่สดใส การรวมกันของสีทั้งสองอันเป็นการสื่อถึงข้อความแห่งความสุขที่สนับสนุนโดยความอดทน เป็นการรวมตัวกันของความแข็งแกร่งและพลังบวก 

 

 

8. Very Peri ปี 2022

     สี “Very Peri” เป็นสีประจำปีของปี 2022 โดยเป็นสีที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างสีฟ้าและสีแดง เกิดเป็นเฉดสีม่วงอมน้ำเงินที่สดใสและดูมีชีวิตชีวา สีดังกล่าวนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ตลอดจนเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น โดยสี “Very Peri” เป็นสีที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของวัฒนธรรมและสังคมในปี 2022 เป็นสีที่สื่อถึงความสร้างสรรค์ จินตนาการ ความกล้าหาญ และพลังของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการก้าวข้ามกรอบเดิมๆ เพื่อสร้างโลกที่สดใสมากขึ้น

 

 

9. Viva Magenta ปี 2023

     ถัดมากับโทนสี “Viva Magenta” โทนสีจาก Pantone ประจำปี 2023 มาในสีแดงอมม่วงที่มีความสดใสและมีชีวิตชีวา แรงบันดาลใจของเฉดสีนี้เกิดจากความกล้าหาญและความไม่กลัว อีกทั้งยังเต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายของชีวิตที่มีความเร้าใจ พร้อมทั้งส่งเสริมการเฉลิมฉลองที่สนุกสนานและมองโลกในแง่ดี นอกจากนี้สี “Viva Magenta” ยังสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของวัฒนธรรมและสังคมในปี 2023 ที่ผู้คนเริ่มมองโลกในแง่บวกและมีความหวังมากขึ้นหลังผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากมา ผู้คนเริ่มกล้าที่จะแสดงออกถึงความเป็นตัวเองและความคิดสร้างสรรค์ พร้อมที่จะรับเรื่องราวดีๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิต

 

 

10. Peach Fuzz ปี 2024 

     ปิดท้ายด้วยโทนสีในปีล่าสุดอย่าง “Peach Fuzz” สีที่ผสมผสานระหว่างโทนสีส้มและสีชมพู ให้ความรู้สึกอบอุ่น นุ่มนวล อ่อนโยน และโรแมนติก เป็นสีที่มีแรงบันดาลใจจากความปรารถนาที่จะรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ความเมตตา และความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมยุคใหม่กำลังต้องการ สี Peach Fuzz ยังสื่อถึงความปรารถนาที่จะได้รับการปลอบโยนอย่างอบอุ่น เป็นสีที่ชวนให้นึกถึงธรรมชาติ เช่น ดอกพีช ดอกกุหลาบ หรือแสงของพระอาทิตย์ยามเย็น ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสบายใจ เป็นสีที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันและกัน