เผยอุทาหรณ์ยูทูบเบอร์สายกินจุ ‘Nikocado Avocado’ ว่าด้วยอาชีพที่เขารักกำลังทำลายสุขภาพให้ย่ำแย่ลง

     ‘ไม่ว่าจะเครียดเรื่องอะไร แค่เยียวยาด้วยการกินสิ่งที่ตัวเองต้องการก็หายเครียดแล้ว’ ประโยคทำนองนี้คงมีใครได้ยินมาหลายครั้งคราในเวลาที่ตัวเองเหนื่อยหรือท้อกับชีวิตประจำวัน การกินอาหารอร่อยๆ ถือเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาความเครียดเสมอ แต่มีใครอีกหลายคนเช่นกันที่เลือก ‘การกิน’ ไว้ประกอบอาชีพเพื่อสนองความสุขของตน แถมยังสามารถเรียกเม็ดเงินและคนรู้จักได้เป็นวงกว้างอีกด้วย หนึ่งในบรรดาอาชีพเหล่านี้คงหนีไม่พ้น ‘ยูทูบเบอร์’ โดยเฉพาะการเป็นยูทูบเบอร์สายกินที่ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันความสนใจของผู้คนเริ่มหันมาจับจ้องสื่อนี้เพื่อคลายความกังวลที่เจอมา หรือแม้แต่ดูเพื่อเรียกน้ำย่อยและไปหาซื้อของมากินตามก็เป็นอันแก้ปัญหาความเครียดในชีวิตประจำวันได้บ้าง “Nikocado Avocado” คือหนึ่งในยูทูบเบอร์ชื่อดังเรื่องสายกิน โดยเฉพาะการกินจุที่เขาก็มีชื่อเสียงอยู่เรื่อยมาเพราะมีแฟนๆ ที่ติดตามช่องทางยูทูบที่เปิดมาตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว นิโคคาโดนำเสนอแชแนลของเขาด้วยคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการกินแบบไม่บันยะบันยังอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้จึงมียอดผู้ติดตามสูงถึง 3.3 ล้านคน และแต่ละคลิปมียอดเข้าชมส่วนใหญ่เป็นหลักแสนหรือบางคลิปยังเรียกยอดวิวไปได้ถึงหลักล้าน นิโคคาโดจึงเอาใจผู้ชมด้วยการอัปโหลดคลิปกินจุเช่นนี้อยู่เรื่อยมา

 

ภาพของ Nikocado Avocado ในรูปร่างและสัดส่วนที่ปกติ / ภาพ: Goalcast

     แรกเริ่มเดิมทีนิโคคาโดเป็นนักมังสวิรัติ ใช่…คุณฟังไม่ผิด เขาได้ผันตัวเองจนเหมือนลืมอดีตไปว่าเขาเคยเป็นสายวีแกนมาก่อน ทว่าด้วยเนื้อหาการกินแต่ผักหรือพวกของมีประโยชน์มันไม่สามารถสร้างกำไรหรือตอบโจทย์ความสุขของไลฟ์สไตล์ผู้คนได้มากขนาดนั้น นิโคคาโดจึงตัดสินใจหันหลังให้กับบรรดาพืชผักหรือธัญพืชเหล่านั้นพร้อมก้าวเข้าสู่วงจรการกินอาหารทุกสิ่งอย่างที่เขาต้องการอย่างแท้จริง มิหนำซ้ำหากเป็นการกินด้วยจำนวนปกติคงจะเป็นการกินแบบธรรมดาจนเกินไป นิโคคาโดได้เลือกนำเสนอคอนเทนต์การกินอาหารแบบ Mukbung กล่าวคือเป็นการกินอาหารครั้งละจำนวนมหาศาลให้ผู้ชมได้ดู ไม่น่าเชื่อว่าอัปโหลดไปไม่กี่คลิปก็มีคนดูเข้ามากดติดตามและตามดูคลิปของเขาต่างๆ ไปได้อย่างล้นหลาม ด้วยการแสดงสีหน้าและท่าทางสะเทือนอารมณ์ระหว่างกินนั้นเป็นจุดเด่นของนิโคคาโด เขาจึงกลายเป็นยูทูบเบอร์สายม็อกบังอันดับต้นๆ ที่ผู้ชมค้นหาชื่อบนแพลตฟอร์มอยู่เสมอภายในเวลาไม่นาน นิโคคาโดได้รับการยอมรับจากโลกโซเชียลมากกว่าคอนเทนต์แบบเดิมแบบเทียบไม่ติด แต่แล้วชื่อเสียง รายได้ และความสุขของผู้ชมที่เขาสร้างขึ้นมามันคงจะดีถ้ามีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้น ประโยคยอดฮิตอีกประโยคหนึ่งอย่าง “ได้อย่าง เสียอย่าง” นั้นเกิดขึ้นในชีวิตของเขาแล้ว เมื่อเส้นทางการมีชื่อเสียงและเป็นที่รักของผู้คนกลับต้องแลกมาด้วยสิ่งเลวร้ายที่เป็นอันตรายถึงชีวิตของเขา

 

ภาพของ Nikocado Avocado ในรูปร่างและสัดส่วนที่เปลี่ยนไปเพราะมีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานจนทำให้สุขภาพทรุดโทรมลง / ภาพ: Nikocado Avocado

     ฟังดูข้างต้นอาจจะมองว่าผู้เขียนกล่าวเกินจริง แต่มันไม่ผิดไปจากที่พูดสักเท่าไหร่เพราะหลังจากที่นิโคคาโดได้กินแบบม็อกบังอยู่เป็นประจำ ร่างกายของเขาก็เปลี่ยนไปแบบทันควันจนผู้ชมสามารถจับสังเกตได้ทุกคลิปที่เขาอัปโหลดอยู่สม่ำเสมอ นอกจากเนื้อหาที่เป็นแนวกินจุแบบไม่ปรับเปลี่ยนไปแนวอื่นเพราะเขาไม่สามารถหยุดกินได้ รูปร่างของเขาใหญ่ขึ้น และน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่ปี ความอ้วนไม่ได้เป็นอุปสรรคหรือหนักหัวของผู้ชมแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นการเป็นบ่งบอกว่าสุขภาพของเขากลับย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ด้วยน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นแบบพรวดพราดจนมีน้ำหนักราวกว่า 130 กิโลกรัม (หรืออาจจะมากกว่านั้น) เป็นสาเหตุให้นิโคคาโดต้องเจอกับปัญหาสุขภาพที่ล้วนทรมาน โดยมีวิดีโอคลิปหนึ่งในช่วงเดือนกันยายน 2021 เขาได้เผยว่าซี่โครงของเขาหัก 3 ซี่ขณะกำลังถ่ายทำ ทั้งยังมีปัญหาการควบคุมอารมณ์ของตนเองที่ไม่สามารถคุมมันให้อยู่ในความเหมาะสมได้ โดยเขามักจะร้องห่มร้องไห้อยู่เสมอและคร่ำครวญว่าจะไม่มีใครรักเขา หรือชีวิตของเขากำลังพังทลายอยู่ซ้ำๆ หรือจะเป็นการสวมเครื่องป้องกันการหยุดหายใจขณะนอนหลับที่นิโคคาโดได้ใส่มันมาอวดบนหน้าจอ แต่ก็ยังไม่วายอยู่ท่ามกลางของกินที่เต็มพื้นที่ไปหมดจนทำให้แฟนๆ นั้นอดเป็นห่วงไม่ได้

 

ภาพ: Media Referee

     จนถึงปัจจุบันนี้ช่องของนิโคคาโดยังคงมีคอนเทนต์ม็อกบังอัปโหลดให้คนดูได้รับชมกันอยู่เรื่อยมา แม้จะยังมียอดผู้ติดตามมากมายและผู้ชมเข้ามาดูอย่างไม่ขาดสาย แต่กระแสกลับไม่เป็นเหมือนช่วงแรกที่ชื่นชมพฤติกรรมการกินของเขาว่าสามารถกินจุได้มากกว่าคนทั่วไป ทว่าตอนนี้กลับมีแต่เสียงห่วงใยและอยากให้นิโคคาโดหันกลับมาสนใจสุขภาพของตัวเองให้มากขึ้น แต่จะให้พูดเช่นนั้นคงจะเป็นเรื่องยากจนเกินไป เพราะตอนนี้การกินแบบม็อกบังได้กลายเป็นอาชีพหลักของเขาไปแล้ว เขามีความสุขและสร้างรายได้จากคอนเทนต์นี้มาเป็นเวลานานหลายปี จะให้เขาหยุดกลางคันแบบปิดสวิตช์คงจะเป็นไปไม่ได้ แต่ชื่อเสียง เงินทอง ที่นิโคคาโดได้รับมา มันคุ้มค่ากับสุขภาพดีที่เขาเสียไปมากน้อยเพียงไร เขาจะยังดันทุรังแลกชีวิตของเขาให้ทรมานอยู่เช่นนี้จริงหรือ…สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการตัดสินใจของเขา เราไม่สามารถไปตัดสินใจแทนเจ้าตัวหรือตัดสินชีวิตของใครได้ ทว่าเรื่องนี้กลับสร้างอุทาหรณ์ได้ว่าการทำอะไรที่มันสุดโต่งจนลืมรักตัวเองหรือทำเพื่อคนอื่นมากเกินไป อาจจะพบเจอกับสิ่งที่เจ็บปวดอยู่เช่นนี้แต่ยากที่จะถอยกลับมาแก้ไขอย่างนิโคคาโดก็ได้