nam-joo-hyuk-actor
LIFESTYLE

เปิดเส้นทางในวงการบันเทิงของ Nam Joo-Hyuk กว่าจะเป็นพระเอกซีรี่ส์ขวัญใจทุกคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

ด้วยความมุ่งมั่นและความพยายามก็เป็นบทพิสูจน์อย่างไร้ข้อกังขาแล้วว่า ‘นัมจูฮยอก’ เป็นนักแสดงที่นอกจากจะสง่าด้วยรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว เขายังเป็นพระเอกเจ้าบทบาทและเต็มไปด้วยคุณภาพอย่างแท้จริง

     ในวินาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักพระเอกหนุ่มตี๋เจ้าเสน่ห์จากแดนกิมจิ ‘Nam Joo-Hyuk’ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับวงการซีรี่ส์มานับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะผลงานล่าสุดของเขากับซีรี่ส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่มอบความอบอุ่นและความฝันให้กับผู้ชมอย่าง ‘Twenty-Five Twenty-One ยี่สิบห้า ยี่สิบเอ็ด’ ซึ่งเพิ่งปิดฉากตอนจบไปได้อย่างสวยงามด้วยกระแสตอบรับที่ดีเกินคาดจนใครหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหากมีโอกาสอีกครั้งจะต้องย้อนกลับมาดูเรื่องนี้อีกแน่นอน
     ด้วยกระแสความดังที่ยังถูกพูดถึงกันอย่างต่อเนื่อง เหล่านักแสดงในซีรี่ส์เรื่องนี้รวมถึงพระเอกนัมจูฮยอกเองก็เป็นที่จับตามองมากขึ้นจากที่เขาก็มีชื่อเสียงในวงการนี้มาสักพักใหญ่แล้ว แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ต้องบอกเลยว่าการเป็นพระเอกแถวหน้าของเกาหลีใต้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งวันนี้โว้กได้หยิบเรื่องราวบนถนนสายบันเทิงของเขามาเล่าเพื่อสะท้อนการมุ่งหน้าสู่นักแสดงผู้มีคุณภาพคับจอ

nam-joo-hyuk-actor

Nam Joo-Hyuk เดบิวต์การเป็นนายแบบครั้งแรกและร่วมเดินรันเวย์ให้กับแบรนด์สัญชาติเกาหลีอย่าง SONGZIO Homme ในคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2014 / ภาพ: Twitter @NamjoohyukTH

     พื้นเพบ้านเกิดของนัมจูฮยอกเป็นคนปูซานมาแต่เดิม โดยระหว่างการเติบโตเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นเขาเลือกที่จะเรียนและทำงานไปด้วยเพื่อหารายได้เสริม เรียกได้ว่านัมจูฮยอกเชี่ยวชาญด้านการทำงานพาร์ตไทม์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นพนักงานส่งของ พนักงานเสิร์ฟ พนักงานร้านกาแฟ พนักงานลานจอดรถ พนักงานบริการปั๊มน้ำมัน รวมถึงไปโค้ชบาสเกตบอลก็ยิ่งมองเห็นความพยายามที่เขาต้องการค้นหาทำสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ จนวันหนึ่งเขาเกิดมีความฝันอยากจะเฉิดฉายในเส้นทางบันเทิงนี้ นัมจูฮยอกตัดสินใจเข้าร่วมออดิชั่นตามโครงการต่างๆ รวมถึงรูปลักษณ์ของเขาทั้งหน้าตาและสัดส่วนร่างกายที่มีเสน่ห์น่าค้นหา ทำให้เขาได้รับโอกาสก้าวเข้ามาเป็นนายแบบในปี 2013 ซึ่งเขาได้ร่วมเดินรันเวย์ให้กับแบรนด์สัญชาติเกาหลีอย่าง SONGZIO Homme ในคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2014 เป็นครั้งแรก หลังจากนั้นนัมจูฮยอกจึงตัดสินใจประกอบอาชีพนายแบบอย่างเป็นทางการ



WATCH




     แน่นอนว่าการอยู่ในเส้นทางนี้ทำให้นัมจูฮยอกได้พบเจอกับคนมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงมากหน้าหลายตา ไม่นานนักเส้นทางการเป็นนายแบบของเขาก็ได้เปลี่ยนไปในช่วงเวลาอันรวดเร็ว เมื่อบริษัท YG Entertainment เล็งเห็นถึงความสามารถและความโดดเด่นในตัวเขา ทำให้นัมจูฮยอกได้เซ็นสัญญาการทำงานกับสังกัดนี้ทันที โดยผลงานแรกของเขาในเส้นทางบันเทิงคือเขาได้ปรากฏตัวบนมิวสิกวิดีโอของศิลปินเกาหลี Akdong Musician (AKMU) ในเพลง ‘200%’ และเพลง ‘Give Love’ ที่หลายคนต่างสะดุดตากับหนุ่มตี๋วัยละอ่อนสวมชุดนักเรียนมัธยมได้อย่างน่าเอ็นดู

nam-joo-hyuk-actor

ภาพจากซีรี่ส์ Who Are You: School 2015 / ภาพ: Pinterest

     สืบเนื่องมาจากชุดนักเรียนมัธยมจากมิวสิกวิดีโอดังกล่าวที่นัมจูฮยอกมีโอกาสได้ร่วมงาน เขาก็เริ่มประเดิมกับผลงานการแสดงครั้งแรกโดยได้รับบทบาทเป็นนักแสดงสมทบจากซีรี่ส์เรื่อง ‘The Idle Mermaid’ ที่ถึงแม้เขาจะไม่ได้แสดงนำ แต่ก็เป็นเส้นทางการนำไปสู่การเป็นพระเอกซีรี่ส์เต็มตัวอย่างเรื่อง ‘Who Are You: School 2015’ เมื่อผู้จัดถูกชะตาส่งบทบาท ฮันยีอัน นักว่ายน้ำของโรงเรียนให้นัมจูฮยอกทันที โดยแสดงนำร่วมกับนางเอก Kim So-Hyun และพระรอง Yook Sung-Jae ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มักเป็นฉากในโรงเรียน ทำให้ผู้ชมเกิดภาพจำว่าฮันยีอันคือคนเดียวกับที่ปรากฏตัวในมิวสิกวิดีโอของ Akdong Musician ประกอบกับเนื้อเรื่องที่เล่าเรื่องราวได้ชวนติดตาม และการแสดงของนัมจูฮยอกนั้นเข้าถึงบทบาทส่งอารมณ์ให้ผู้ชมรับรู้ถึงความรู้สึกของตัวละครได้เป็นอย่างดี ซีรี่ส์เรื่องนี้จึงถือเป็นผลงานแจ้งเกิดในฐานะพระเอกซีรี่ส์เกาหลีก็ว่าได้

nam-joo-hyuk-actor

1 / 3

ภาพจากซีรี่ส์ Glamorous Temptatio ปี 2015 / ภาพ: Mthai



nam-joo-hyuk-actor

2 / 3

ภาพจากซีรี่ส์ Cheese in the Trap ปี 2016 / ภาพ: AsianWiki



nam-joo-hyuk-actor

3 / 3

ภาพจากซีรี่ส์ Moon Lovers ปี 2016 / ภาพ: Soompi



     แต่ด้วยการแข่งขันที่มากโขและนัมจูฮยอกเองต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการอยู่บนเส้นทางการแสดง ผลงานหลังจากนั้นของเขาก็ยังมีให้ติดตามสม่ำเสมอ ทว่าเขาได้กลับไปเป็นนักแสดงสบทบอีกครั้งอย่าง Glamorous Temptatio ปี 2015  Cheese in the Trap ปี 2016 และ Moon Lovers ปี 2016 เพื่อรับบทบาทที่หลากหลายและถือเป็นการพิสูจน์ในฐานะนักแสดงอย่างเต็มตัว เพราะถึงแม้เขาจะไม่ได้เป็นพระเอกแต่ผลงานของเขากลับถูกใจผู้ชมมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แฟนๆ ต่างเรียกร้องให้นัมจูฮยอกกลับมารับบทบาทเป็นพระเอกหลังจากห่างหายจากบทนำไปนาน ถือว่าเป็นความสำเร็จก้าวหนึ่งที่เขามอบความสุขให้ผู้ชมจนมีเสียงเรียกร้องการหวนคืนจอในฐานะพระเอกอีกครั้ง

nam-joo-hyuk-actor

1 / 3

ภาพจากซีรี่ส์ Weightlifting Fairy Kim Bok-joo ปี 2016 / ภาพ: Netflix



nam-joo-hyuk-actor

2 / 3

ภาพจากซีรี่ส์ The Bride of Habaek ปี 2017 / ภาพ: Popcornfor2



nam-joo-hyuk-actor

3 / 3

ภาพจากภาพยนตร์ The Great Battle ปี 2018 / ภาพ: Amazon UK



     ไม่นานเกินรอทางผู้จัดและทีมงานก็มอบบทบาทพระเอกซีรี่ส์ให้เขาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2016 ในเรื่อง Weightlifting Fairy Kim Bok-joo ที่ประกบนางเอก Lee Sung-Kyung เรื่องราวความน่ารักแนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่นัมจูฮยอกได้รับบทเป็นนักว่ายน้ำอีกครั้งแต่เป็นเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยก็ได้มอบความสุขและความสดใสให้กับแฟนๆ ไปไม่น้อย จนมีผลงานอื่นๆ ตามมาอย่างเช่น The Bride of Habaek ปี 2017 และผลงานภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง The Great Battle  ภาพยนตร์เกาหลีอิงประวัติศาตร์ในช่วงอาณาจักรโกคูรยอ โดยนัมจูฮยอกรับบทแสดงนำเป็นนายทหารนามว่า ซามุล เรียกได้ว่ามีกระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม ทำให้เขากวาดรางวัลสาขานักแสดงหน้าใหม่ในช่วงนั้นไปหลายเวที รวมถึงเวที Blue Dragon Film Awards งานประกาศรางวัลอุตสาหกรรมภาพยนตร์สุดยิ่งใหญ่ในประเทศเกาหลีใต้ซึ่งเขาก็ได้รับรางวัลจากที่นี่มาแล้ว

nam-joo-hyuk-actor

1 / 3

Nam Joo-Hyuk ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ Dior Beauty Korea / ภาพ: Dior



nam-joo-hyuk-actor

2 / 3

Nam Joo-Hyuk ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ Dior Men Korea / ภาพ: Dior



nam-joo-hyuk-actor

3 / 3

ภาพจากซีรี่ส์ Start-Up ปี 2020 / ภาพ: Soompi



     ด้วยผลงานที่มากฝีมือของนัมจูฮยอกและรางวัลต่างๆ ที่การันตีในความสามารถของเขา ประกอบกับฐานแฟนคลับที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงได้รับโอกาสเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Dior Beauty Korea และ Dior Men Korea จนถึงปัจจุบัน ทำให้นัมจูฮยอกมีผลงานมากมายหลายแขนงมาให้แฟนๆ ได้ติดตามชมกันอย่างสม่ำเสมอ และเกิดกระแสความดังที่มีมาอยู่เรื่อยๆ จนเมื่อปี 2020 หลังจากที่นัมจูฮยอกได้ย่ายสังกัดไปที่ Management SOOP เขาก็ได้มีผลงานซีรี่ส์ออกมาอีกครั้งเพื่อจุดความฝันให้กับเหล่าผู้คนที่อยากตั้งตัวจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองอย่าง Start-Up โดยประกบคู่กับ Bae Su-Zi และ Kim Seon-Ho ทำให้ผู้ชมต่างหลงใหลไปกับบุคลิกอันฉลาดเฉลียวและใสซื่อของ นัมโดซาน จนเป็นซีรี่ส์น้ำดีที่ใครหลายคนต่างประทับใจและพากันตกหลุมรักนัมจูฮยอกกันมากขึ้นอย่างห้ามไม่ได้

     เดินทางมาถึงซีรี่ส์เรื่องล่าสุดที่ได้กล่าวไปข้างต้นอย่างเรื่อง ‘Twenty-Five Twenty-One ยี่สิบห้า ยี่สิบเอ็ด’ ซีรี่ส์กลิ่นอายของวัยรุ่นยุค 90 กับบทบาทแพคอีจิน ลูกชายคนโตที่เกิดในครอบครัวฐานะร่ำรวย แต่ต้องตกอับเพราะเศรษฐกิจ IMF ในปี 1998 เส้นทางชีวิตของเขาได้พบเจอกับ นาฮีโด (รับบทโดย Kim Tae-Ri) นักกีฬาฟันดาบที่ไล่ล่าตามความฝันของตัวเองอยู่เสมอ เขาทั้งคู่ได้ทำความรู้จักและเติบโตมาด้วยกันพร้อมทั้งผ่านอะไรมามากมายในชีวิต เรื่องราวในเรื่องนี้จึงได้พาผู้ชมย้อนความทรงจำอันสวยงามของพวกเขา รวมถึงฝากตอนจบไว้ให้ชวนคิดและลึกซึ้งกินใจจนผู้ชมนั้นมีอารมณ์อินค้างไปตามๆ กัน

nam-joo-hyuk-actor

ภาพ: Kapook

     จากผลงานของนัมจูฮยอกตั้งแต่ที่ก้าวเข้ามาในวงการบันเทิงจนถึงปัจจุบันนี้ ผู้เขียนไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงขึ้นแท่นเป็นพระเอกซีรี่ส์แถวหน้าของประเทศเกาหลีใต้ ด้วยความมุ่งมั่นและความพยายามที่เขามักพัฒนาตัวเองอยู่เสมอก็เป็นบทพิสูจน์อย่างไร้ข้อกังขาแล้วว่า ‘นัมจูฮยอก’ เป็นนักแสดงอีกคนหนึ่งในวงการเกาหลีใต้ที่นอกจากจะสง่าด้วยรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว เขายังเป็นพระเอกเจ้าบทบาทและเต็มไปด้วยคุณภาพอย่างแท้จริง

ข้อมูล : The Famous People

WATCH