LIFESTYLE

'My Own Private Idaho' สร้างหมุดหมายแห่งมิตรภาพระหว่าง Keanu Reeves และ River Phoenix

ภาพยนตร์ที่สร้างมิตรภาพอันสวยงามที่สุดแห่งฮอลลีวูด

       ความสัมพันธ์ระหว่าง Keanu Reeves และ River Phoenix คือหนึ่งในเรื่องราวแห่งมิตรภาพที่เป็นตำนานเล่าขานสู่คนรุ่นหลังอย่างไม่มีวันรู้จบ ทั้งคู่อยู่ในวัยใกล้เคียงกัน อีกทั้งในวัยเด็กก็มีเรื่องราวที่สะเทือนใจและแตกสลายเช่นเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาจึงสนิทสนมกันมากราวกับเป็นคนในครอบครัว อย่างไรก็ตามทั้งคู่มีโอกาสร่วมแสดงกันเพียงครั้งเดียว คือในภาพยนตร์เรื่อง 'My Own Private Idaho' แต่เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะกลายเป็นหมุดหมายแห่งมิตรภาพระหว่างพวกเขา

 

       ย้อนกลับไปก่อนที่โลกจะได้รู้จักกับภาพยนตร์เรื่องนี้ คีอานูกับริเวอร์เจอกันครั้งแรกในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง 'Parenthood' ปี 1989 ซึ่งทั้งคู่เคยเล่าถึงจุดเริ่มต้นของมิตรภาพไว้โดยริเวอร์กล่าวถึงคีอานูว่า “ผมรู้จักคีอานูผ่านแฟนเก่าผม Martha Plimpton ในระหว่างที่พวกเขาเล่นเรื่อง Parenthood ด้วยกัน แล้วจากนั้นเราก็ได้ร่วมงานกันในเรื่อง I Love You to Death ผมชอบเขามากเลย รู้สึกเลยว่าอยากเล่นหนังด้วย เพราะเขาเป็นเหมือนพี่ชายผม คนคนหนึ่งที่เราสามารถบอกความลับได้ทุกเรื่อง คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ คนที่เรารัก คนที่เราแคร์ คีอานูนี่แหละเป็นสุดซี้ของผม”

       นอกจากนี้คีอานูก็ยังเคยกล่าวถึงริเวอร์ไว้ว่า “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในตอนนั้นเขาคือเพื่อนสนิทที่สุดของผม พวกเราได้แบ่งปันกันทั้งเรื่องจิตวิญญาณ มุมมองต่องานศิลปะ เขามีความเป็นศิลปินที่ไม่เหมือนใครจริงๆ” หลังจากนั้นภาพของทั้งคู่ที่ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด รวมถึงการปรากฏตัวในสื่อ จึงเป็นภาพที่เห็นได้อย่างชินตา และทุกคนต่างก็ชื่นชอบในมิตรภาพอันสวยงามนี้ เนื่องจากทัศนคติของพวกเขาที่ไม่พิศมัยความเด่นดัง ทั้งๆ ที่ต่างมีคุณสมบัติพร้อมเป็นซุปเปอร์สตาร์แต่นิยมการอยู่อย่างติดดิน ทั้งยังนอบน้อมถ่อมตัวต่อทุกคนในกองถ่าย

       หลักฐานความสนิทสนมกลมเกลียวของพวกเขายิ่งปรากฏให้เห็นชัดเมื่อวันที่ Interview Magazine ได้นัดสัมภาษณ์ทั้งคู่หลังเกิดกระแสความฮือฮาของสองคู่หูขวัญใจวัยโจ๋ในฮอลลีวูด และสิ่งที่ตัวแทนสัมภาษณ์ได้เห็นก็คือแฝดคนละฝาที่ชอบพูดแทรกกันและกัน แต่เพื่อช่วยต่อประโยคของอีกฝ่ายให้จบ เมื่ออยู่ด้วยกันพวกเขาต่างเป็นตัวของตัวเอง กล้าแสดงออกอย่างเต็มที่ มีแต่ช่วยผลักดันกันและกัน พาให้ต่างคนได้ลับคมพรสวรรค์ เวลาคิดทำอะไรก็นึกถึงอีกฝ่ายเสมอ แบบอย่างการเป็นเพื่อนแท้ที่หาได้ยากยิ่ง

       ช่วงหนึ่งในบทสัมภาษณ์มีการกล่าวถึงการเล่นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนิยายของ William Shakespeare และริเวอร์ได้กล่าวออกมาว่า “เออ Romeo and Juliet ก็ได้ เอ็งเป็น Romeo เดี๋ยวข้าเป็น Juliet ให้เอง” ด้วยบทสัมภาษณ์นี้ทางผู้จัดเล็งเห็นถึงความสนิทสนมกันมากขึ้นจึงให้พวกเขาได้รับเล่นบทนำในภาพยนตร์เรื่อง My Own Private Idaho ด้วยกัน โดยคีอานูคืออคนที่ได้รับบทภาพยนตร์เรื่องนี้ก่อนเป็นคนแรก และหลังจากที่เขาอ่านบทจบ เขาก็รู้สึกชื่นชอบมันมาก และเขามั่นใจว่าคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะมารับบทนำคู่กันในเรื่องราวที่ว่าด้วยผู้ชายขายบริการทางเพศ 2 คนนั้นจำเป็นต้องเป็นริเวอร์เท่านั้น เมื่อมั่นใจเช่นนั้นคีอานูก็ไม่รอช้า รีบสตาร์ตเครื่องมอเตอร์ไซค์คู่ใจก่อนที่จะออกเดินทางไกลเป็นระยะทางกว่า 1,000 ไมล์เพื่อส่งมอบบทนี้ให้ริเวอร์ด้วยตัวเอง ซึ่งริเวอร์เองก็กล่าวไว้ว่า “เราตกลงกันว่า ‘ถ้าเอ็งเล่น ข้าก็เล่น ถ้าเอ็งไม่เล่น ข้าก็ไม่เล่น’ แล้วเราก็จับมือกัน จบข่าว” จึงเป็นเหตุให้ทั้งคู่ได้ร่วมงานกันและกลายเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่ได้กระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม



WATCH




       หลังจากที่ภาพยนตร์ 'My Own Private Idaho' ประสบความสำเร็จอย่างได้อย่างงดงามก็ส่งผลให้ภาพลักษณ์ความเป็นคู่ซี้ของทั้งคู่ยิ่งชัดเจนลงไปในหัวใจของผู้คนมากขึ้นไปอีก รวมถึงมิตรภาพของทั้งคู่ก็ยิ่งแน่นแฟ้นในระหว่างการถ่ายทำ ทว่าในช่วงการถ่ายทำนี้เองก็มีเรื่องราวที่สร้างความตกใจให้กับใครหลายคนเป็นอย่างมากเมื่อริเวอร์พาตัวเองเข้าสู่โลกแห่งยาเสพติดอันมืดมิดแม้ทุกวันนี้จะยังไม่มีใครทราบเหตุผลที่แน่ชัดก็ตามว่าเพราะอะไร ถึงจะเป็นนักแสดงดังแต่ริเวอร์ไม่เคยหลงแสงสี เขายังใช้ชีวิตสนิทกับน้อง ๆ อย่างเรียบง่ายเหมือนที่เป็นมาโดยตลอด อาจจะเป็นเพราะบาดแผลในวัยเด็กที่ไม่เคยจางหาย ประกอบกับยุคสมัยนั้นยาเสพติดในวงการบันเทิงนั้นหาง่ายราวกับลูกกวาดหรือขนมกินเล่น

       เหตุการณ์ทุกอย่างยังคงดำเนินไปอย่างปกติ จนกระทั่งในคืนวันที่ 31 ตุลาคม ปี 1993 ริเวอร์ได้มาท่องราตรีในผับชื่อ Silver Lake ย่านเวสต์ฮอลลีวูด และทันทีที่เขาเปิดประตูเข้าไปในร้าน พยานทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวว่า เขาไม่ได้อยู่ในสภาพปกติอย่างที่เขาควรจะเป็น รวมถึง Leonardo DiCaprio นักแสดงหนุ่มชื่อดัง ที่ได้พบเจอเขาในระยะประชิดด้วย

        ลีโอนาโดมีริเวอร์เป็นไอดอลในเรื่องการแสดง ทว่าทั้งสองไม่เคยพบเจอกันเลยสักครั้ง เขาจึงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่บังเอิญได้เจอริเวอร์ที่ Silver Lake แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นอย่างที่คิด ลีโอได้เล่าไว้ว่า “คืนหนึ่งในปาร์ตี้ที่ Silver Lake ผมเห็นเขาเดินขึ้นบันไดมา มันให้ความรู้สึกเหมือนกับหนัง Vertigo เพราะผมเห็นบางอย่างในใบหน้าของเขา ผมไม่เคยเจอเขา ผมอยากเจอเขามาตลอด ผมอยากพููดคุยกับเขา เขาเดินมาทางผมแล้วผมก็ตัวแข็งไปเลย จากนั้นฝูงชนก็แยกผมออกจากเขา ผมหันหลังกลับไปเขาหายไปแล้ว” 

       แม้ว่าริเวอร์จะหายตัวไป แต่ลีโอนาโดก็ไม่ละความพยายามในการตามหา จนทำให้เขาได้รู้ว่าริเวอร์ไปที่ The Viper Room และเสียชีวิตที่นั่น ซึ่งทำให้ลีโอนาโดตกใจมากเพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เขาได้เล่าถึงเหตุการณ์นี้ไว้ว่า “ผมไม่รู้จะอธิบายออกมายังไงดี แต่มันมีบางสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วทำให้ผมรู้สึกว่าเขาหายตัวไปต่อหน้าต่อตาผม และโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นมันทำให้ผมรู้สึกว่าผมสูญเสียบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผมและเพื่อน ๆ ไป ผมยังจำได้แม่นว่าผมยื่นมือไปหาเขา จากนั้นมีคนสองคนเดินเข้ามาขวางทางผม แล้วพอผมมองอีกที เขาก็ไม่อยู่แล้ว..” 

       ริเวอร์ด่วนจากโลกนี้ไปในวัยเพียงแค่ 24 ปี จากการเสพยาเกินขนาด ร่างของเขาล้มพับลง ณ ผับ Viper Room และก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกเลย…เป็นอีกครั้งที่ฮอลลีวูดต้องสูญเสียดาวจรัสแสงด้วยน้ำมือของยาเสพติดนี้ แน่นอนว่าการจากไปของริเวอร์นำมาซึ่งความโศกเศร้า และคราบน้ำตาที่ไหลรินออกมาราวกับฝนที่ตกลง ณ ฮอลลีวูด ซึ่งลีโอนาโดถึงกับปฏิญาณกับตัวเองว่าชีวิตนี้เขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเด็ดขาด แต่มันก็เทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เพื่อนรักที่สุดของริเวอร์รู้สึก เพราะเป็นวันที่คีอานูเสียใจที่สุดในชีวิต หากไม่เกิดโศกนาฏกรรมนี้ขึ้น คงไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่าสองคนนี้มีสิทธิ์จะร่วมกันสร้างผลงานตราตรึงอีกมากมาย ซึ่งในเวลานั้นริเวอร์คือดาวโรจน์อนาคตไกลที่ใครๆ ต่างมอบสมญา James Dean คนใหม่ และเขาเองก็ทำให้คีอานูได้ค้นพบเพื่อนรู้ใจในแบบที่ไม่เกิดขึ้นอีกเลยตลอดชีวิตจากนั้น

       ทว่าโศกนาฏกรรมของคีอานูยังไม่สิ้นสุดเพียงเท่านี้ เพราะหลังจากนั้นแฟนสาวของเขาก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตามไปอีกคน รวมถึงก่อนหน้านั้นที่เธอแท้งลูกของเขาด้วย เรียกได้ว่าหลังจากการตายของริเวอร์ คีอานูก็จมดิ่งสู่ห้วงแห่งความเศร้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เรื่องราวแสนสาหัสที่เขาพบเจอทั้งหมดนี้ ทำให้คีอานูเลิกสนใจสุขภาพ และงานแสดงไปพักใหญ่ๆเลยทีเดียว เพราะเขากลับดื่มเหล้า สูบบุหรี่ และเตร็ดเตร่อย่างไร้จุดหมายในแต่ละวัน

       อย่างไรก็ตามเมื่อฝนได้โหมกระหน่ำลงมาไม่ว่ามันจะยาวนานหรือหนักหนาเพียงใด แต่ท้ายที่สุดท้องฟ้าก็ยังคงมีรุ้งสวยงามรออยู่เสมอ ซึี่งชีวิตของคีอานูก็เช่นกัน เขาใช้เวลาเยียวยาตัวเองและเรียนรู้อะไรมากมายหลังจากผ่านช่วงมรสุมมาได้อย่างแข็งแกร่งแล้ว คีอานูจึงได้เปิดเผยเรื่องราวชีวิตในช่วงนั้นของเขาไว้ว่า “สิ่งที่ผู้คนไม่รู้เกี่ยวกับตัวผมก็คือผมเป็นโรคซึมเศร้าในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้ ผมไม่เคยบอกใครเลย ตอนนั้นผมต้องต่อสู้เพื่อหลุดออกจากภาวะซึมเศร้านั้น คนที่ฉุดตัวผมจากความสุขก็คือตัวผมเอง ทุกๆวันมีค่า ดังนั้นจงใช้มันอย่างมีค่า ไม่มีอะไรแน่นอนสำหรับวันพรุ่งนี้ จงใช้ชีวิตในวันนี้เถอะ พลังงานด้านบวกนำความรู้สึกที่ดีและพลังงานมืดมักจะหมายถึงอันตราย แต่การทำลายล้างในพลังงานมืดก็มีแง่มุมที่ลึกซึ้ง บางครั้งไฟป่าก็มีประโยชน์ บางครั้งศัตรูก็เป็นครูที่ดีที่สุด เราสามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดของพวกเขา การถูกทำลายบางครั้งก็หมายความถึงการเกิดใหม่”

       หลังจากนั้นคีอานูก็กลับมาเจิดจรัสอีกครั้งทั้งในฐานะซุปปอร์สตาร์ รวมถึงการเป็นนักแสดงที่นิสัยดีที่สุดในฮอลลีวูดอีกด้วย ความสูญเสียทั้งหมดที่เกิดขึ้นทำให้เขาตระหนักว่าชีวิตคนเรามันก็เท่านี้ ไม่มีอะไรอยู่เป็นนิรันดร์ สิ่งที่ดีที่สุดที่ทำได้ในขณะยังมีชีวิตอยู่คือการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อคนอื่น และเขาจะยังคงคิดถึงมิตรภาพของเขากับริเวอร์อยู่เสมอว่าครั้งหนึ่งเคยมีเพื่อนซี้คู่ใจและยึดถือให้ริเวอร์เป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้มีสติทุกครั้ง

 

ภาพ : Imagesvc, Pbs.twimg, I.kym-cdn, Preview.redd.it, Cdn.kpbs, Ychef.files.bbci,ฺ Businessinsider
ข้อมูล : Cheatsheet
เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim

WATCH