LIFESTYLE
#VogueFoodGuide เจาะประวัติศาสตร์เมนูฮอต ‘มินต์ช็อกฯ’ บนไทม์ไลน์อาหารที่ยาวนานกว่า 5 ศตวรรษไม่น่าเชื่อว่าเมนูโปรดหรือเมนูสุดหยีของใครหลายคนนั้นไม่ได้เพิ่งมาได้รับความนิยมในช่วงนี้ |
ถ้าหากจะพูดถึงหนึ่งในเครื่องดื่มที่เป็นลูกรักลูกชังของใครหลายคน เราอาจจะนึกถึงเมนูอย่าง “ช็อกโกแลตมินต์” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “มินต์ช็อกฯ” หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เมนูนี้เป็นทั้งที่รักใคร่แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเมนูที่ไม่ถูกใจใครหลายคน คงต้องยกให้รสชาติที่ชวนงงด้วยความขมและหวานของช็อกโกเเลตผสมเข้ากับความเย็นในแบบฉบับของมินต์นั่นเอง
ถึงแม้ว่าเมนูนี้จะเริ่มเป็นกระแสและเป็นที่ถกเถียงกันเมื่อไม่นานมานี้ ทว่าในความเป็นจริงที่อ้างอิงบนเส้นทางอาหารแล้วเมนูมินต์ช็อกฯ กลับมีอยู่มายาวนานกว่า 5 ศตวรรษหรือราวๆ 500 ปี นั่นเอง และเรื่องราวของความอร่อยในครั้งนี้เราคงต้องเดินทางไปยังศตวรรษที่ 16 โดยประวัติศาสตร์รวมถึงนักวิชาการหลายฝ่ายลงความเห็นว่าคนกลุ่มเเรกที่ริเริ่มการผสมมินต์เข้ากับช็อกโกแลตคือชาวยุโรป ณ ขณะนั้น ซึ่งในอดีตการรับประทานช็อกโกเเลตต่างเป็นที่นิยมทั้งยังถูกผสมผสานรสชาติต่างๆ ลงไป ไม่ว่าจะเป็นวานิลลา น้ำตาล อบเชย เเละมินต์เองก็เป็นหนึ่งในวัตถุดิบเหล่านั้น
โดยช็อกโกแลตนั้นยังเชื่อมโยงไปถึงวัฒนธรรมของชาวมายัน ตั้งเเต่ขั้นตอนการเก็บเกี่ยวเมล็ดโกโก้มาแปรรูปและเก็บรักษา รวมถึงการนำเอามินต์มาผสมเพื่อเพิ่มกลิ่นที่หอมมากยิ่งขึ้น เรื่องราวเเละรสชาติเหล่านี้ยังคงถูกส่งต่อไปยังยุควิกตอเรีย โดยในช่วงยุคนั้นนักทำขนมก็ได้หยิบนำเอาสองส่วนผสมนี้มารังสรรค์เป็นเครื่องดื่มและเมนูอาหารหวานต่างๆ จนต่อมาในปี ค.ศ. 1940 เมนูช็อกโกแลตมินต์ก็ได้เริ่มเเพร่ขยายไปในวงกว้างมากขึ้น เพราะบริษัทผลิตขนมสัญชาติอเมริกันก็ได้สร้างสรรค์เมนูครีมมินต์บอลเคลือบด้วยดาร์กช็อกโกแลตขึ้นเป็นครั้งเเรก
WATCH
ต่อมาในช่วงปี ค.ศ. 1973 ก็ถือได้ว่าเป็นยุครุ่งเรืองของเมนูมินต์ช็อกฯ ในท้ายที่สุด เพราะได้นักเรียนทำอาหารฝีมือดีอย่าง “Marilyn Ricketts” เป็นผู้ยกระดับเมนูช็อกโกแลตมินต์ให้กลายมาเป็น “ไอศกรีมรสมินต์ช็อกโกแลตชิป” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเวลาอันรวดเร็ว จนท้ายที่สุดก็กลายเป็นของหวานอันโปรดปรานของราชวงศ์อังกฤษในสมัยนั้น
ในส่วนของเมนูช็อกโกแลตที่ปรากฏขึ้นบนประวัติศาสตร์ไทยถึงเเม้จะมีความคลุมเครือ แต่ก็มี 2 ทฤษฎีที่ใครหลายคนเห็นตรงกัน ในทฤษฎีเเรกคือเหล่าพ่อค้าจากยุโรปเป็นผู้นำเข้ามาเผยเเพร่ในช่วงศตวรรษที่ 19 และในทฤษฎีที่สองคือชาวไทยผู้เดินทางไปเยือนยุโรปได้นำกลับมาบอกเล่าจนเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
ภาพ : Hotelchocolat.com
เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim
WATCH