LIFESTYLE
‘Millennium Camera’ กล้องถ่ายภาพ 1,000 ปี ที่เราอาจไม่มีทางได้เห็นรูป!และกล้องตัวนี้จะพร้อมเปิดให้เห็นรูปอีกครั้งในปี ค.ศ. 3023! |
เทคโนโลยีการถ่ายภาพเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันนี้เราสามารถเห็นภาพถ่ายจากในอดีตที่สามารถนำมาปรับความคมชัดสี หรือแม้กระทั่งภาพของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่อาจหาดูได้ยาก ตลอดจนภาพถ่ายจากนอกอวกาศทีเดียว แต่ในบทความนี้เราจะพาแฟนๆ ไปทำควารู้จักกับกล้อง Millenium Camera กล้องถ่ายภาพระดับ 1,000 ปี ที่เราอาจไม่มีทางได้เห็น
ภาพจาก news.arizona.edu
“Millenium Camera” เป็นกล้องถ่ายรูปที่ถูกผลิตขึ้นโดย “Jonathon Keats” นักปรัชญาเชิงทดลองที่วิทยาลัยวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยแอริโซนา โดยเขาได้ประดิษฐ์กล้องถ่ายรูปตัวนี้ขึ้นมาได้ใช้หลักการรับแสงของกล้องถ่ายรูปแบบทั่วไป เพียงแต่กล้องตัวนี้จะถูกเปิดรูรับแสงไว้ยาวนานตลอด 1,000 ปี ถือว่าเป็นกล้องที่ถ่ายรูปช้าที่สุดในโลก โดยการทำงานของกล้องถ่ายรูปตัวดังกล่าวนี้ไม่เพียงอาศัยการเปิดรับแสงนานถึงพันปีเท่านั้น แต่ยังมีส่วนประกอบอื่นๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นรูรับแสงที่เปรียบเสมือนเลนส์กล้องขนาดเท่ารูเข็ม ซึ่งจะปล่อยให้แสงผ่านลงมาและตกกระทบลงบนพื้นผิวที่ไวต่อแสงซึ่งถูกเคลือบด้วยสารที่ชื่อว่า “Rose Madder” ซึ่งมีหลักการทำงานง่ายๆ คือ เม็ดสีที่โดยแสงตกกระทบจะมีความจางลงเรื่อยๆ ตามลำดับ ดังนั้นจะทำให้วัตถุที่ไม่เปล่งแสง เช่น ภูเขา อาคาร จะยังคงเด่นชัดเป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหลของภาพถ่ายนี้
ภาพจาก thecommononline.org
โดยตัวกล้องถูกตั้งให้หันหน้าไปทางทิศตะวันตกของย่านทูซาน ซึ่งเป็นมุมภาพที่คีทส์เองได้จินตนาการไว้ว่า องค์ประกอบของภาพมุมดังกล่าวเราอาจจะได้เห็นภูเขา หรือวิวทิวทัศน์เป็นองค์ประกอบหลักของภาพ และบรรดาตึกรามบ้านช่องที่มีอยู่ รวมถึงในอนาคตอาจเป็นเพียงภาพจางๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงไปหรือระยะเวลาที่พวกมันอยู่ตรงนั้นเท่านั้น อย่างไรก็ตามภายใต้กรอบแนวคิดของนักปรัชญา ทำให้กล้องถ่ายรูปพันปีตัวนี้ไม่ได้มีหน้าที่เพียงถ่ายรูปเท่านั้น ทว่ายังเป็นเครื่องหมายที่คีทส์ต้องการบอกเล่าถึงแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตอีกด้วย โดยเขาได้กล่าวว่า “คนส่วนใหญ่มีทัศนคติที่ค่อนข้างสิ้นหวังต่อสิ่งที่อยู่ข้างหน้า” คีทส์พูดต่อไปว่า “เป็นเรื่องง่ายที่จะจินตนาการว่าผู้คนในอีก 1,000 ปีข้างหน้าจะได้เห็นย่านทูซอนในเวอร์ชั่นที่แย่กว่าที่เราเห็นในปัจจุบันมาก แต่การที่เราจินตนาการได้ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสียทีเดียว จริงๆ แล้วมันกลับเป็นสิ่งที่ดีมากกว่า เพราะหากเราสามารถจินตนาการถึงภาพในอีกพันปีได้ เราก็สามารถจินตนาการว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก และด้วยเหตุนี้มันจึงอาจกระตุ้นให้เราลงมือทำบางอย่างเพื่อกำหนดอนาคตของเรา”
WATCH
ภาพจาก diyphotography.net
และอย่างที่เราได้บอกไปนั้นว่าพวกเราอีกหลายคนที่ยังคงใช้ชีวิตในปัจจุบันนี้อาจไม่มีทางได้เห็นรูปภาพ เพราะเจ้ากล้องตัวนี้ถูกติดตั้งไปในช่วงปี ค.ศ. 2023 ที่ผ่านมานี้เอง และกล้องตัวนี้จะพร้อมเปิดให้เห็นรูปอีกครั้งในปี ค.ศ. 3023 เรียกได้ว่าการถ่ายภาพในครั้งนี้เป็นเส้นทางที่ยาวนานนับพันปี และยังไม่มีอะไรมาการันตีได้ว่าสิ่งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่
เรื่อง : Worramate Khamngeon
เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim
WATCH