นี่คือเหตุผลที่สายสปอร์ตต้องจับตามองรถหรูรุ่นใหม่ ‘The new GLA’ และ ‘A-Class’ จาก Mercedes-Benz

หากใครเป็นสายสปอร์ตผู้ชื่นชอบรถยนต์เป็นชีวิตจิตใจย่อมรู้ว่าแบรนด์หรูสัญชาติเยอรมัน Mercedes-Benz ถือเป็นอีกหนึ่งผู้นำยนตรกรรมระดับโลกที่ใครๆ ต่างก็ฝันว่าสักครั้งในชีวิตถ้ามีโอกาสก็อยากจะได้เป็นเจ้าของ โดยล่าสุดเมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังส่งทัพรถหรูอีก 25 รุ่นส่งท้ายปีเก่าทั้งรถยนต์คอมแพ็ค รถยนต์เอสยูวี รถสปอร์ตสมรรถนะสูงจากแบรนด์ “เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี” และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 โดยมี 2 รุ่นที่น่าจับตามองอย่าง The new Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic และ Mercedes-Benz A-Class ที่จะเข้ามากระตุกต่อมแฟนๆ ตามโว้กไปดูกันว่าทำไมรถ 2 รุ่นนี้ถึงไม่ควรพลาดมีโอกาสต้องได้จับจอง

The new Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic

For the journey lover

คนรักเที่ยวชื่นชอบการไปออกโร้ดทริปต้องถูกใจรุ่นนี้ เพราะเขาเป็นรถยนต์คอมแพ็คเอสยูวีเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่มาพร้อมคาแรกเตอร์แบบโฉบเฉี่ยวและโดดเด่น ห้องโดยสารที่กว้างขึ้นช่วยให้ภายในดูโอ่อ่าหรูหรา ตกแต่งรายละเอียดด้วยความโมเดิร์นผสมผสานความสปอร์ตได้อย่างลงตัว

 

Powerful strength

ขุมพลังขนาด 1,332 ซีซี ทว่าให้กำลังสูงสุดถึง 163 แรงม้า ทั้งยังเพิ่มการกำหนดสัดส่วนของตัวถังให้มีขนาดสั้นลงเล็กน้อย มอบลักษณะที่คอมแพ็คมากขึ้นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทว่ามาพร้อมความสูงของตัวถังที่เพิ่มขึ้นกว่า 10 เซนติเมตรจากรุ่นก่อนทำให้ห้องโดยสารกว้างขึ้น

The safe bet

ระบบความปลอดภัยเต็มพิกัดที่ล้ำสมัยเช่น ระบบ Active Parking Assist ช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ ตามด้วยระบบช่วยเบรคอัตโนมัติ (Active Brake Assist) ที่จะช่วยตรวจจับระยะห่างระหว่างรถยนต์คันหน้าผ่านระบบสัญญาณเรดาร์ หรือแม้กระทั่งระบบ Mercedes me connect ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้าและผู้จำหน่ายเพื่อการให้บริการอย่างเต็มที่

 

Mercedes-Benz A-Class

For the city life

สำหรับคนเมืองผู้ชื่นชอบไลฟ์สไตล์แบบเออร์เบิน Mercedes-Benz A-Class คือรุ่นที่ตอบโจทย์สุดๆ ด้วยดีไซน์เรียบง่ายกับขนาดที่เล็กกะทัดรัด แต่ภายในห้องโดยสารกลับกว้างขวางและทันสมัย ในขณะเดียวกันรูปลักษณ์ด้านนอกก็น่าดึงดูดใจด้วยโครงสร้างที่โดดเด่นปราดเปรียวด้วยการใช้ดีไซน์คลาสสิกของรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์เข้ามาผสมผสาน

Small but strong

แม้เครื่องยนต์ของรถรุ่นนี้จะมีขนาดเล็กเพียง 1,332 ซีซี แต่ก็พละกำลังสูงสุดถึง 163 แรงม้าเลยด้วย ที่สำคัญคือไม่กินน้ำมันเพราะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยเพียง 5.2 ลิตร/100 กม. เท่านั้น และระบบไฟส่องสว่างแบบ Ambient Light ที่มีให้เลือกถึง 64 สี

All secure

รุ่นนี้มาพร้อมระบบความปลอดภัยที่เหมือนกับคอมแพ็คเอสยูวี ทั้งระบบ Active Parking Assist ช่วยจอดอัตโนมัติ ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติ (Active Brake Assist) ช่วยตรวจจับระยะห่างระหว่างรถยนต์คันหน้า รวมไปถึงระบบ Mercedes me connect ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้าและผู้จำหน่ายเช่นเดียวกัน

 

และนี่คือเหตุผลว่าทำไมรถหรู 2 คันนี้ถึงได้เป็นที่น่าจับตามอง เพราะด้วยรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวและขุมกำลังมหาศาลที่ตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์ มาพร้อมความปลอดภัยแบบเต็มกำลังทำให้รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นถูกคาดไว้ว่าจะก้าวเข้ามากระตุ้นโลกแห่งยนตรกรรมในโค้งสุดท้ายนี้ให้กระเตื้องขึ้นได้อย่างแน่นอน แฟนๆ คนไหนสนใจตามไปสัมผัสพลังแห่งความสปอร์ตกันได้ที่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 37 ตั้งแต่วันที่ 2-13 ธันวาคมนี้ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี

 

แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะทางแบรนด์ยังจัดงาน StarFest 2020: The Greatest Offers กับโอกาสครั้งสำคัญที่มาพร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษเดียวกับที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป ตามไปชมกันอย่างต่อเนื่องได้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน -20 ธันวาคม 2563 ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ