LIFESTYLE

เปิดเทคนิคการเลือกไฟแต่งห้องเพื่อสร้างบรรยากาศที่ลงตัว

ไฟแต่งห้องมีหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีจุดเด่นและเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป มารู้จักไปพร้อมกันว่ามีไฟแต่งห้องแบบใดบ้างที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ

     การจะตกแต่งพื้นที่ในห้องหรือในบ้านให้สวยงามอย่างที่ต้องการ จำเป็นจะต้องคำนึงถึง “แสงสว่าง” อันเป็นองค์ประกอบหลักอย่างหนึ่งที่จะช่วยกำหนดบรรยากาศและฟังก์ชั่นการใช้งานของห้องต่างๆ ภายในบ้านนั่นทำให้ “ไฟแต่งห้อง” จึงมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความสวยงาม สร้างความสบายตา และเน้นจุดสนใจในบริเวณต่างๆ ซึ่งการเลือกไฟแต่งห้องที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นขนาดห้อง ฟังก์ชั่นการใช้งาน สไตล์การตกแต่ง ไปจนถึงความปลอดภัย และต่อไปนี้คือเทคนิคเลือกไฟแต่งห้องที่จะช่วยสร้างบรรยากาศให้น่าอยู่และเอื้อต่อไลฟ์สไตล์ของคุณ

 

ภาพ: @small.flat.ideas

ความสำคัญของไฟแต่งห้อง

     ก่อนจะไปรู้กับเทคนิคการเลือกไฟแต่งห้อง มารู้ว่าไฟแต่งห้องมีความสำคัญอย่างไรบ้าง

  • สร้างบรรยากาศ: ไฟแต่งห้องช่วยสร้างบรรยากาศที่แตกต่างกันได้ เช่น แสงไฟที่อบอุ่นและนุ่มนวลสร้างความผ่อนคลาย เหมาะสำหรับห้องนั่งเล่น ส่วนแสงไฟที่สว่างจะเพิ่มความมีชีวิตชีวาได้ดีให้กับห้องครัว หรือแสงไฟสลัวที่จะช่วยสร้างความสงบและผ่อนคลายให้กับห้องนอน
  • เพิ่มความสบายตา: ไฟแต่งห้องที่เลือกได้เหมาะสมจะช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาและสร้างสภาพแวดล้อมที่สบายสำหรับการอ่าน การทำงาน หรือการทำกิจกรรมต่างๆ
  • เน้นจุดสนใจ: ไฟแต่งห้องสามารถใช้เพื่อเน้นจุดสนใจให้กับเฟอร์นิเจอร์ กรอบภาพ หรืองานศิลปะให้ดูสวยงามมากขึ้น หรือการใช้ไฟซ่อนเพื่อสร้างมิติให้กับผนัง
  • เพิ่มความปลอดภัย: ไฟแต่งห้องจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ด้วยการเพิ่มแสงสว่าง ทำให้พื้นที่ที่มืดมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น
  • สะท้อนสไตล์ส่วนตัว: ไฟแต่งห้องมีหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่แบบคลาสสิกไปจนถึงแบบโมเดิร์น การเลือกไฟแต่งห้องที่เข้ากับสไตล์การตกแต่งโดยรวมของห้องจะช่วยสะท้อนสไตล์ส่วนตัวและรสนิยมให้เจ้าของบ้านได้ดี

 

ภาพ: @small.flat.ideas

เทคนิคเลือกไฟแต่งห้อง

     เพื่อจะได้เลือกไฟแต่งห้องทั้งประเภทไฟ แสงไฟ และสไตล์ให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่ แนะนำให้ใช้เทคนิคดังต่อไปนี้

 

กำหนดจุดประสงค์การใช้งาน

     ก่อนเลือกไฟควรพิจารณาจุดประสงค์การใช้งานของห้องนั้นๆ เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องครัว โดยแต่ละห้องมีความต้องการแสงสว่างที่แตกต่างกัน

  • ห้องนั่งเล่น: ควรใช้ไฟที่มีความสว่างปานกลางเพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและอบอุ่น
  • ห้องนอน: ควรใช้ไฟสลัวเพื่อสร้างความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย
  • ห้องทำงาน: ควรใช้ไฟที่มีความสว่างสูงเพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจน
  • ห้องครัว: ควรใช้ไฟที่มีความสว่างสูงและกระจายทั่วถึงเพื่อความปลอดภัยและสะดวกในการใช้งาน

 



WATCH




ภาพ: @zavialova_bureau

เลือกประเภทของไฟ

     เนื่องจากไฟแต่งห้องมีหลายประเภทให้เลือก ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันไป จึงเหมาะกับพื้นที่ที่แตกต่างกัน ได้แก่

  • ไฟดาวน์ไลต์: เป็นไฟฝังเพดานที่ให้แสงสว่างแบบกระจายทั่วถึง เหมาะสำหรับห้องที่มีเพดานสูง
  • ไฟสปอตไลต์: เป็นไฟที่ให้แสงสว่างแบบเฉพาะเจาะจง เหมาะสำหรับการเน้นวัตถุหรือบริเวณใดบริเวณหนึ่ง
  • ไฟแชนเดอเลียร์: เป็นไฟระย้าที่มอบแสงสว่างพร้อมให้ความรู้สึกหรูหราอลังการ เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่กว้างและเพดานสูง
  • ไฟตั้งพื้น: เป็นไฟที่วางบนพื้นและให้แสงสว่างแบบเฉพาะเจาะจง เหมาะสำหรับการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย

 

ภาพ: @k__living

เลือกอุณหภูมิสี

     อุณหภูมิสีของไฟมีหน่วยวัดเป็นองศาเคลวิน (K) โดยมีตั้งแต่แสงสีขาวนวล (Warm White) ไปจนถึงแสงสีขาวเย็น (Cool White) 

  • แสงโทนอุ่น (Warm White): มีอุณหภูมิสีประมาณ 2,700-3,000 เคลวิน ให้แสงสีเหลืองนวล สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย เหมาะสำหรับใช้ในห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น 
  • แสงโทนกลาง (Neutral White): มีอุณหภูมิสีประมาณ 3,500-4,100 เคลวิน ให้แสงสีขาวนวล เป็นแสงที่ใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติมากที่สุด เหมาะสำหรับใช้ในห้องทำงาน ห้องครัว หรือห้องน้ำ
  • แสงโทนเย็น (Cool White): มีอุณหภูมิสีประมาณ 4,500-6,500 เคลวิน ให้แสงสีขาวอมฟ้า สร้างบรรยากาศที่สดใสและกระปรี้กระเปร่า เหมาะสำหรับใช้ในห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ หรือห้องออกกำลังกาย

 

ภาพ: @hello.kabachok

ปรับระดับความสว่าง

     การปรับความสว่างของไฟเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมในห้อง เนื่องจากแสงสว่างที่ต่างกันสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่ออารมณ์ ความรู้สึก โดยสามารถใช้สวิตช์หรี่ไฟ หรือหลอดไฟที่ปรับความสว่างได้

  • แสงสว่างจ้า: แสงสว่างจ้าช่วยเพิ่มความตื่นตัว เหมาะสำหรับใช้ในห้องทำงาน ห้องครัว หรือห้องน้ำ ซึ่งต้องการแสงสว่างเพื่อการมองเห็นและการทำงานที่ชัดเจน
  • แสงสว่างปานกลาง: แสงสว่างปานกลางจะสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสบายตา เหมาะสำหรับใช้ในห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องรับประทานอาหาร ซึ่งต้องการแสงสว่างที่เพียงพอสำหรับการพักผ่อนและการทำกิจกรรมต่างๆ
  • แสงสว่างน้อย: แสงสว่างน้อยช่วยสร้างบรรยากาศที่โรแมนติกและผ่อนคลาย เหมาะสำหรับใช้ในห้องนอน ซึ่งต้องการแสงสว่างที่นุ่มนวลและไม่รบกวนการพักผ่อน

 

ภาพ: @k__living

จัดวางไฟอย่างเหมาะสม

     การจัดวางไฟอย่างเหมาะสมมีส่วนสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานและสร้างบรรยากาศที่ต้องการในห้อง เนื่องจากตำแหน่งและทิศทางของแสงไฟจะส่งผลต่อการมองเห็น ความรู้สึก และอารมณ์

  • แสงสว่างทั่วถึง: การจัดวางไฟให้ให้แสงสว่างทั่วถึงจะช่วยลดเงาและจุดมืด สร้างสภาพแวดล้อมที่สว่างและสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับใช้ในห้องทำงาน ห้องครัว หรือห้องน้ำ ซึ่งต้องการแสงสว่างที่เพียงพอสำหรับการมองเห็นและการทำงานที่ชัดเจน
  • แสงสว่างเฉพาะจุด: การจัดวางไฟให้ให้แสงสว่างเฉพาะจุดจะช่วยเน้นบริเวณหรือวัตถุ เช่น โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง หรือกรอบภาพ สร้างจุดสนใจและเพิ่มมิติให้กับห้อง เหมาะสำหรับใช้ในห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องรับประทานอาหาร
  • แสงสว่างอ้อม: การจัดวางไฟในแบบแสงสว่างอ้อมจะช่วยกระจายแสงไปทั่วทั้งห้องโดยไม่สร้างแสงจ้าโดยตรง สร้างบรรยากาศที่นุ่มนวลและผ่อนคลาย เหมาะสำหรับใช้ในห้องนอนและห้องนั่งเล่น

 

WATCH

คีย์เวิร์ด: #Lightroom