หมาก ปริญ ร่วม ทริป Chanel Beauty
LIFESTYLE

ออกเดินทางไปกับ หมาก-ปริญ กับทริปร่วมค้นพบเรื่องราวการรังสรรค์สกินแคร์ในไลน์ N°1 de Chanel

พาชมบรรยากาศการเดินทางของโว้กและ Chanel Beauty พร้อมกับนักแสดงหนุ่ม หมาก-ปริญ สุภารัตน์ กับทริปร่วมค้นพบความน่าอัศจรรย์ของดอกคามิลเลียสีแดง หัวใจของส่วนผสมใน N°1 de Chanel ไลน์สกินแคร์ที่มุ่งฟื้นบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์

     การเดินทางของโว้กและ CHANEL Beauty เพื่อร่วมค้นพบความน่าอัศจรรย์ของดอกคามิลเลียสีแดง หัวใจของส่วนผสมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ N° 1 de CHANEL ครั้งนี้ เรามาปักหมุดกันที่โรงแรม Rosewood จังหวัดภูเก็ต โดยมีนักแสดงหนุ่มหมาก-ปริญ สุภารัตน์ เดินทางมาร่วมงานด้วยในฐานะ Friend of the House ของ CHANEL Beauty  โดยมาร่วมดื่มด่ำบรรยากาศสบายๆ ของอีเวนต์ริมทะเล พร้อมชมจุดเช็กอินไฮไลต์ของงานครั้งนี้อย่างบ้านรูปทรงเรือนกระจกหลังสีแดงสดที่ทีมงานชาเนลประเทศไทยตั้งใจเนรมิตสวนริมทะเลของโรงแรมให้มีบรรยากาศคล้ายกับฟาร์มดอกคามิลเลียในเมืองโกฌักค์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส แสงแดดอ่อนๆ ในบ่ายวันนั้นส่องสะท้อนสีแดงให้สดชัดและสะกดทุกสายตา เชิญชวนให้แขกผู้ร่วมงานได้เข้าไปรู้จักและทดลองผลิตภัณฑ์ N° 1 de Chanel กันแบบใกล้ชิด

 

 

      หลัง N°1 de Chanel ไลน์สกินแคร์เจนเนอเรชั่นใหม่เพื่อผิวดูอ่อนเยาว์แถมรักษ์โลกเปิดตัวไปเมื่อปี 2022 แผนกความงามของแบรนด์ C ไขว้เดินหน้าโกกรีนเพื่อความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวเซรั่ม N°1 de Chanel Revitalizing Serum ขนาดใหม่กับความจุ 100 มล. ให้แฟนๆ ของแบรนด์ได้ใช้ต่อเนื่องกันยาวๆ แบบไม่ต้องซื้อเติมบ่อยได้นานถึง 6 เดือน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญฝ่ายการสื่อสารด้านวิทยาศาสตร์ของชาเนล Armelle Souraud เล่าให้แขกผู้ร่วมงานอีเวนต์ระดับภูมิภาคเอเชียที่จัดขึ้น ณ โรงแรม Rosewood จังหวัดภูเก็ต ว่าเป็นระยะเวลาที่ผลการวิจัยของชาเนลเผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของผิวที่ดูอ่อนเยาว์และแข็งแรงขึ้นหลังใช้ N°1 de Chanel อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและการพัฒนาส่วนผสมสำหรับเครื่องสำอางชาเนล Nicola Fuzzati มาร่วมเล่าถึงกระบวนการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ N°1 de Chanel ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการค้นพบความน่าทึ่งของดอกคามิลเลียสีแดงที่ยังคงสามารถผลิบานได้ดีแม้ในสภาพอากาศที่เลวร้าย โดยชาเนลผสานเข้ากับองค์ความรู้จากงานวิจัยด้านการชราภาพของผิวที่มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Senescence และได้ค้นพบว่าสารสกัดจากดอกคามิลเลียสีแดงนั้นมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมในการรับมือกับริ้วรอยแห่งวัยที่เกิดจากการชราภาพของผิวตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม เนื่องจากอุดมไปด้วยสารช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและคืนความกระจ่างใสให้ผิวดูอ่อนเยาว์

 



WATCH




Armelle Souraud ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายการสื่อสารด้านวิทยาศาสตร์ของ Chanel Beauty

 

ออกเดินทางสู่ฟาร์มดอกคามิลเลีย ต้นกำเนิดแรงบันดาลใจของ N°1 de Chanel

ดอกคามิลเลียสีแดงคือหนึ่งในสายพันธุ์ของดอกคามิลเลียจำนวนนับพันที่เติบโตในฟาร์มคามิลเลียของชาเนลที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส ณ ใจกลางหมู่บ้านโกฌักค์ (Gaujacq) โดยมีฌ็อง โตบี (Jean Thoby) ผู้เชี่ยวชาญด้านดอกคามิลเลียระดับโลกเป็นผู้คอยดูแล  โดยดอกคามิลเลียจะถูกเพาะปลูกตามแนวปฏิบัติทางการเกษตรที่เคารพต่อสิ่งแวดล้อมและไม่ใช้สารเคมี โดยใช้วิธีการเกษตรเชิงนิเวศเพื่อให้การเพาะปลูกเป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อมและอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างถาวร และห่างออกไปไม่ไกลจากฟาร์มคือที่ตั้งของ Open Sky Laboratories ซึ่งตั้งแต่ปี 1998 ทีมวิจัยของชาเนลได้ทุ่มเทให้กับการศึกษาดอกคามิลเลียมากกว่า 2,000 สายพันธุ์ภายในห้องปฏิบัติการกลางแจ้งแห่งนี้

 

 

พบกับหัวใจของส่วนผสม

จากการศึกษาทีมนักวิจัยของชาเนลได้ค้นพบคุณค่าการฟื้นบำรุงผิวที่ยอดเยี่ยมจากดอกคามิลเลียสีแดงสายพันธุ์ “เดอะซาร์” (Camelia Japonica) ซึ่งดอกจะบานเต็มที่ในฤดูหนาวและมีเอกลักษณ์ตรงที่กลีบของดอกนั้นสามารถทนได้ต่อทุกสภาพอากาศ  ซึ่งจากการศึกษาและวิเคราะห์เกี่ยวกับโมเลกุลที่สกัดจากกลีบของดอกพบว่าดอกไม้ชนิดนี้มีความสามารถในการช่วยปกป้องความแข็งแรงของผิวและดูแลผิวได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่มของริ้วรอยแห่งวัย โดย N°1 de Chanel ประกอบด้วยส่วนผสมจากดอกคามิลเลียสีแดงสูงถึง 76 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งใช้ทั้งกลีบดอก เมล็ด และยีสต์ที่สกัดจากดอกช่วยเสริมการทำงานของปราการผิว ทั้งยังมีส่วนผสมของน้ำและน้ำมันจากดอกคามิลเลียสีแดงที่ช่วยล็อกความชุ่มชื่นให้แก่ผิว นอกจากนี้เปลือกของเมล็ดคามิลเลียที่เหลือจากการสกัดยังถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของฝากระปุกของมอยส์เจอไรเซอร์ Revitalizing Cream ด้วย 

 

 

ก้าวสู่ยุคใหม่ของการดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์

นอกจากมีวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนแล้ว ชาเนลยังมองความงามด้วยวิสัยทัศน์การดูแลตัวเองแบบองค์รวมด้วย โดยภายในอีเวนต์ Armelle อธิบายให้เราฟังว่า N°1 de Chanel คือส่วนหนึ่งของโฮลิสติกแคร์ โดยกิจวัตรความงามควรสามารถมอบความรู้สึกดีทั้งจากภายนอกและภายในได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ชาเนลสร้างสรรค์รูทีน N°1 de Chanel ไม่เพียงมีแค่ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ช่วยฟื้นคืนความอ่อนเยาว์แก่ผิว แต่ยังประกอบด้วยเมกอัปและสเปรย์น้ำหอมมาช่วยคอมพลีตลุคในทุกๆ วันด้วย

 

 

นอกจากนี้ภายในงานยังมีห้อง Immersive Room ที่ให้ได้ดื่มด่ำไปกับเรื่องราวของดอกคามิลเลียสีแดงกันอีกขั้นผ่านภาพเคลื่อนไหวแบบ 360 องศา โว้กรวมภาพบรรยากาศภายในงานมาฝากกัน

 

 

 

Nicola Fuzzati ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมและการพัฒนาส่วนผสมสำหรับเครื่องสำอาง Chanel

 

 

1 / 3

นักแสดงสาว ใบปอ ธิติยา จิระพรศิลป์

 



2 / 3

พราว-อรณิชา กรินชัย

 



3 / 3

ซาร่า เล็กจ์

 



WATCH