ถือเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้สำหรับอายุของผิวที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน ซึ่งแน่นอนว่ามาพร้อมกับความกังวลใจในเรื่องของริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้าที่เพิ่มมากขึ้นตามผิวที่เสื่อมสภาพ อีกทั้งประสิทธิภาพของการทาครีมที่ไม่สามารถดูแลปัญหาได้อย่างตรงจุด วันนี้โว้กบิวตี้จะพาทุกคนมาเปิดมุมมองความสวยยุคใหม่กับการใช้สารลดเลือนริ้วรอยอย่างไรให้ตรงจุด ผ่าน 5 คำตอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

นพ.รัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์

( แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง / ผู้ก่อตั้งรัสมิ์ภูมิคลินิก )

 

1. มุมมองความสวยยุคปัจจุบันกับตัวช่วยในวงการอย่างสารลดเลือนริ้วรอย 

เลี่ยงไม่ได้ว่าความงามจากภาพลักษณ์ภายนอกนั้นจะช่วยเสริมความมั่นใจภายในให้ดียิ่งขึ้น การดูแลตัวเองให้สวยงามไม่ให้เหี่ยวย่นไปตามกาลเวลาจึงเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญมากในยุคนี้ โดย คุณหมอรัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์ เผยว่าในปัจจุบันถือเป็นยุคของสังคมที่เร่งรีบ ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว เช่นเดียวกับในแง่ของความงามที่หลายคนมักเลือกใช้วิธีการดูแลผิวหน้าที่เห็นผลได้เร็วและใช้เวลาน้อย ซึ่งการใช้ครีมบำรุงผิวหน้าเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอและไม่สามารถตอบโจทย์นานาปัญหาที่มีได้อย่างตรงจุดโดยเฉพาะเรื่องริ้วรอย หลายคนจึงหันมานิยมใช้ตัวช่วยในการเพิ่มความสดใส เพิ่มความอ่อนวัยให้ผิวหน้าด้วยสารลดเลือนริ้วรอยซึ่งเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะสามารถออกฤทธิ์ต่อต้านการเกิดริ้วรอยจากชั้นกล้ามเนื้อที่เกิดจากการแสดงอารมณ์และสีหน้าในชีวิตประจำวัน โดยมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาเรื่องริ้วรอยได้อย่างตรงจุด พร้อมช่วยเสริมความมั่นใจในรูปลักษณ์ที่ไม่ได้จำกัดในเฉพาะผู้หญิงอีกต่อไป เพราะผู้ชายยุคนี้ก็ให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองเช่นกัน อีกทั้งคุณหมอยังแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่มีความกังวลเรื่องริ้วรอย ว่าควรเข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่าในระยะยาว

 พญ. ฬิษา สุวรรณเกษการ

 (แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงาม / ผู้บริหารกังนัมคลินิก)

 

2. ทำความรู้จักและไขความสำคัญของสารลดเลือนริ้วรอย 

นอกจากนี้ คุณหมอฬิษา สุวรรณเกษการ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสารลดเลือนริ้วรอยไว้ว่า สารลดเลือนริ้วรอย หรือ Botulinum Toxin Type A นั้นถูกสกัดมาจากแบคทีเรียมีชื่อว่า Clostridium botulinum โดยสกัดออกมาอยู่ในรูปแบบของโปรตีน ซึ่งออกฤทธิ์ในการทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้ ส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัวทำให้ผิวหนังบริเวณที่มีริ้วรอยนั้นเรียบเนียนขึ้น โดยเจ้าแรกที่ค้นพบสารตัวนี้คือ บริษัทแอลเลอร์แกน (Allergan Aesthetic) จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งผ่านกระบวนการผลิตถึง 6 ขั้นตอนโดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท Allergan ทำให้ได้สารที่มีคุณลักษณะเฉพาะที่มีความบริสุทธิ์สูงและยังเป็นยี่ห้อที่มีการศึกษาวิจัยมากที่สุด สามารถมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งจะเห็นผลสูงสุดที่ 2 สัปดาห์ โดยที่ผลการรักษาจะคงอยู่นานถึง 6 เดือน เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ

ผศ.พญ. แพรมาลา ฉายาวิจิตรศิลป์

 ( แพทย์เวชปฏิบัติเพื่อการเสริมความงาม / ผู้บริหารเมโกะคลินิก )

 

3. แนะนำการเลือกสารลดเลือนริ้วรอย เลือกอย่างไรให้ไม่พลาด

ปัจจุบันมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ประเภทสารลดเลือนริ้วรอยเกิดขึ้นมากในตลาดความงาม ทั้งนี้ คุณหมอ แพรมาลา ฉายาวิจิตรศิลป์ จึงแนะนำให้ผู้บริโภคศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนเป็นอันดับแรก เพราะสารลดเลือนริ้วรอยแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกันไปตามเทคโนโลยีในการผลิตของแต่ละบริษัท โดยคุณหมอได้เล่าเสริมว่าคุณลักษณะของสารลดเลือนริ้วรอยที่ดีและมีประสิทธิภาพ ควรออกฤทธิ์ได้อย่างแม่นยำ ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ อยู่ได้เป็นเวลานาน และเกิดอาการข้างเคียงน้อย รวมถึงต้องมีผลการศึกษาวิจัยรองรับว่าสามารถลดเลือนริ้วรอยได้จริงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว หรือหากต้องการเข้ารับการรักษาก็ควรพิจารณาถึงประเด็นอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คลินิกที่มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้รักษา

พญ.วิโรจนา กสิบุตร

 ( แพทย์ด้านผิวพรรณและความงาม / เดอะ สกิน ดอกเตอร์คลินิก)

 

4. เจาะลึกปัญหาและเทคนิคการรักษาอย่างไรให้ตรงจุด 

ทางด้าน คุณหมอวิโรจนา กสิบุตร ได้เผยถึงปัญหาส่วนใหญ่ของหลายคนที่อยากลองใช้สารลดเลือนริ้วรอย นอกจากความกังวลในเรื่องของสภาพผิวที่เหี่ยวย่นแล้ว หลายคนยังมีความกังวลในเรื่องของผลลัพธ์หลังการรักษา ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาของผิวหน้าที่ดูตึงเกินไปไม่เป็นธรรมชาติ หรือไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงหลังได้รับการรักษา โดยการรักษาที่ดีนั้น ต้องประกอบด้วยสารลดเลือนริ้วรอยที่มีประสิทธิภาพ และความชำนาญด้านเทคนิคของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญควบคู่กัน พร้อมให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่อยากใช้สารลดเลือนริ้วรอยในอายุ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งจะเป็นช่วงวัยที่มีความกังวลในเรื่องของริ้วรอยมากที่สุด เมื่อก่อนจะนิยมใช้สารลดเลือนริ้วรอยเฉพาะจุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งอาจจะทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ไม่ชัดเจนหรือไม่เป็นธรรมชาติ จึงแนะนำให้รักษาริ้วรอยใบหน้าส่วนบนพร้อมกันทั้ง 3 จุด คือบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว และตีนกาซึ่งเป็นบริเวณที่หลายคนมีความกังวลมากที่สุด โดยการรักษาพร้อมกันทั้ง 3 จุดนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างสมดุลและสามารถแสดงอารมณ์ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น

พญ.กุลธิดา มานะจิตต์

 ( แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสารลดเลือนริ้วรอยและสารเติมเต็ม/ สปาชา คลินิก )

 

 5. การดูแลหลังการทำหัตถการด้วยสารลดเลือนริ้วรอย และคำแนะนำในการปฏิบัติสำหรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง 

แน่นอนว่าอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญคือการรักษาสภาพของสารลดเลือนริ้วรอยให้คงสภาพอยู่บนใบหน้าของเราให้นานยิ่งขึ้น ซึ่ง คุณหมอกุลธิดา มานะจิตต์ ได้ให้คำแนะนำว่าควรขยับกล้ามเนื้อใบหน้าบริเวณที่ได้รับการรักษาประมาณ 30 นาที และหลีกเลี่ยงการนอนราบเป็นเวลา 3-4 ชั่วโมงหลังได้รับการรักษาเพื่อป้องกันการกระจายตัวของสารลดเลือนริ้วรอยไม่ให้ไหลไปยังจุดอื่น พร้อมแนะนำปิดท้ายด้วยว่าควรเข้ารับการรักษาซ้ำอย่างต่อเนื่องทุก 4-6 เดือนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารลดเลือนริ้วรอย Allergan Aesthetic ได้ที่นี่ https://www.wrinklerelaxerth.com/