Karsten Warholm นักกรีฑาที่ทำลายสถิติโลกแต่แสดงอาการคนละขั้วกับฉลามหน้านิ่งอย่างสิ้นเชิง

     ก่อนหน้านี้เราได้เห็นความนิ่งเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อทำลายสถิติโอลิมปิกและคว้าเหรียญทองไปครองของ Kristóf Milák นักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติฮังการีกันไปแล้ว (สามารถอ่านเรื่องราวฉบับเต็มของเขาได้ ที่นี่) วันนี้เราจะมานำเสนอการดีใจที่เป็นขั้วตรงข้ามกับคริสตอฟอย่างชัดเจน เมื่อ Karsten Warholm สุดยอดนักกรีฑาจากนอร์เวย์สามารถทำลายสถิติโลกในรายการวิ่งกระโดดข้ามรั้วชาย ระยะ 400 เมตรได้สำเร็จ และเมื่อเขาเข้าเส้นชัยการแสดงอารมณ์ดังกล่าวถูกนำไปวางเทียบคู่กับคริสตอฟจนกลายเป็นมีมจากเกมกีฬาอีกครั้งหนึ่ง

ลีลาดีใจหลังพุ่งตัวเข้าเส้นชัยคว้าเหรียญทองของ Karsten Warholm / ภาพ: Evening Standard

     โคตรนักกรีฑาจากนอร์เวย์คนนี้ถือเป็นตัวเต็งของรายการและเจ้าของสถิติโลกคนปัจจุบัน เงื่อนไขการแข่งขันเหมือนกับคริสตอฟเลยที่ต้องการคว้าเหรียญทองพร้อมทำลายสถิติของตัวเองโดยมีคู่ปรับคนสำคัญกดดันอยู่ไม่ห่าง การแข่งขันวิ่งกระโดดข้ามรั้วถือเป็นรายการหฤโหดของนักกรีฑาอีกหนึ่งชนิด เพราะต้องอาศัยทั้งความเร็ว ความแข็งแกร่ง และเทคนิคการขึ้นรั้วชั้นยอด ดังนั้นเราจะเห็นว่าการขับเคี่ยวกันเข้มข้นมาก เพราะแต่ละคนมีจุดแข็งระหว่างวิ่งทำระยะไม่เหมือนกัน แต่สำหรับคาร์สเทนนั้นแข็งทุกจุดจนถือว่าเป็นนักกรีฑาประวัติศาสตร์อีกหนึ่งคน

โมเมนต์การฉีกเสื้อวิ่งจนกระจุยเมื่อ Karsten Warholm ทราบว่าตนเองทำลายสถิติโลก / ภาพ: AP News

     คาร์สเทนเริ่มการแข่งขันด้วยการเป็นผู้นำเกือบทุกช่วง แต่ระยะ 150 เมตรสุดท้ายเหมือน Rais Benjamin คู่แข่งคนสำคัญจะไล่ตีตื้นขึ้นมาและความเร็วเขาตกลงไปเล็กน้อย ทว่าเขากลับเร่งสปีดกลับมาทิ้งห่างและเข้าเส้นชัยคว้าเหรียญทองไปครอง ดีใจขั้นแรกด้วยการคว้าเหรียญทองพร้อมกับลุ้นเวลาของตัวเอง เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาเขาเห็นหน้าจอแสดงผลเวลาพร้อมกับสัญลักษณ์ “WR” ในกรอบสีเหลือง นั่นแปลว่าเขาทำลายสถิติโลกของตัวเองที่เวลา 46.70 วินาทีตามที่ตั้งใจไว้ด้วยเวลา 45.94 วินาทีได้สำเร็จ ทันใดนั้นเขาก็ฉีกเสื้อวิ่งขาดกระจุย กลายเป็นโมเมนต์ประจำวันของวันที่ 3 สิงหาคม 2021

Karsten Warholm ในมีมภาพวาด The Scream ของ Edvard Munch / ภาพ: Reddit

     คาร์สเทนให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขันว่า “ผมพูดว่าเสมอว่าการวิ่งที่สมบูรณ์แบบไม่เคยเกิดขึ้น แต่นี่น่าจะเป็นการวิ่งที่ใกล้เคียงคำว่าสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่ผมจะก้าวไปถึง” นอกจากฝีเท้าอันจัดจ้าน เขายังเป็นนักกรีฑาที่ขึ้นชื่อเรื่องท่าทางการดีใจอยู่แล้ว เพราะคาร์สเทนปล่อยอารมณ์ในแบบโคตรสะใจทุกครั้งที่ทะลุเข้าเส้นชัยในฐานะแชมป์รายการต่างๆ และต้องบอกว่าสีหน้าท่าทางของเขาถูกนำไปเป็นมีมอยู่บ่อยครั้ง ถ้าพูดถึงการแสดงอารมณ์หลังจบเกม เขานี่ล่ะคือนักกีฬาที่เป็นขั้วตรงข้ามกับเจ้าฉลามหน้านิ่งอย่างคริสตอฟ มิลัคอย่างแท้จริง การันตีด้วยใบหน้าฉลองแชมป์โลกครั้งก่อนที่ไปปรากฏอยู่ในมีมภาพวาด The Scream ของ Edvard Munch เบื้องหลังการแสดงอารมณ์ขั้วตรงข้ามนี้แตกต่างกันเพียงอย่างเดียวคือแม้ทั้งคูู่จะคว้าเหรียญทองและทำลายสถิติโอลิมปิกเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าสถิติโลกของตัวเองจะเป็นเป้าหมายสำคัญที่คาร์สเทนเอาชนะขีดจำกัดของตัวเองได้เหนือกว่าคริสตอฟ ความรู้สึกจึงระเบิดขึ้นอย่างที่เห็น