Jardin du boeuf restaurant
LIFESTYLE

Jardin du Boeuf ร้านอาหารที่พัฒนาคุณภาพอาหารควบคู่ไปกับความยั่งยืน

เพราะที่นี่ไม่ได้เสิร์ฟคุณแค่อาหารรสเลิศเท่านั้น หากยังคำนึงถึงที่มาและคุณภาพของวัตถุดิบสดใหม่และเป็นมิตรต่อธรรมชาติอีกด้วย

     Jardin Du Boeuf หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ‘สวนแห่งเนื้อ’ คือร้านสเต็กใหม่ล่าสุดที่มุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน อาหารที่มาจากจริยธรรม และรสชาติ เชฟดอน สุจิธ เปรมาลาล เริ่มเปิดให้บริการวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2565 ร้านตั้งอยู่ที่โรงแรมซัมเมอร์เซ็ท พระราม 9 นำทีมพร้อมประสบการณ์การรับประทานอาหารที่หลากหลายภายใต้ธีม สเต็กแห่งอนาคต ผ่านวิสัยทัศน์และวัฒนธรรมการทานอาหารมุ่งเน้นที่ความยั่งยืน และความสัมพันธ์ที่แสดงถึงการเคารพซึ่งกันและกันระหว่างมนุษย์และต้นกำเนิดที่มาที่ไปของอาหารทุกคำ Jardin Du Boeuf นำเสนอความสดใหม่ บรรยากาศร้านที่ดูสบายตลอดทั้งวัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

     โดย เชฟดอน สุจิธ เปรมาลาล และทีมแห่ง Jardin Du Boeuf ถือว่าได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ด้วยความรู้ความเข้าใจในส่วนผสมที่ดีที่สุดอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวากิวที่เลี้ยงด้วยหญ้าเท่านั้น อาหารที่ตรงจากชาวประมง และไวน์ออร์แกนิคที่เลือกคัดมาอย่างดีเพื่อการผสมผสานของมื้ออาหารที่ลงตัว คัดสรรไวน์จากไร่องุ่นออร์แกนิคแบบไบโอไดนามิคปลอดสารเคมีจากทั่วโลกเพื่อให้เข้ากับเมนูอาหารอย่างดีที่สุด เมนูดาวเด่นที่นำเสนอได้แก่ เนื้อแบบจากวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้าผ่านการบ่มแห้ง หรือ Dry Age เช่น สเต็กเนื้อวากิวเนื้อลายสวย และเนื้อสันติดมันหรือสตริปลอยน์ ซี่โครงแกะเสริฟ์กับซอสเครื่องเทศโมร็อกโก ต้นหอมย่างกับไขมันวัวที่จะทานเล่นหรือทานกับสเต็กก็เข้าคู่กันได้เป็นอย่างดี และอาหารอื่นๆอีกมากมาย

     ซึ่งความโดดเด่นของ Jardin Du Boeuf ยังอยู่ที่การเป็นร้านแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่เปิดครัวให้นักชิมได้ลองใช้เทคนิคของตัวเองมาปรุงสเต็ก เพื่อให้ได้รสและสัมผัสที่ลูกค้าชอบจริงๆ โดยเตาทำสเต็กนี้สามารถเลือกได้ว่า จะใช้ถ่าน หรือ ไม้โกงกางจากป่าชายเลน ในการย่างเนื้อเพื่อรสชาติที่ดีที่สุดในทุกๆจาน DK Wow Ventures ภายใต้การบริหารของเชฟดีปังเกอร์ คอสลา มีความมุ่งมั่นอย่างมากที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการทานอาหาร กับ ผู้คนในกรุงเทพให้ไปในทางที่ดีขึ้น มีความได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และ สร้างจริยธรรมที่ดีต่อผู้ผลิตอาหารและวัตถุดิบที่แท้จริง



WATCH




     ไม่ว่าจะเป็นการใช้เนื้อวัวจากธรรมชาติไปจนถึงอาหารทะเลแบบยั่งยืน ผลิตผลจากฟาร์มขนาดเล็กไปจนถึงผู้ผลิตชีส ที่ Jardin Du Boeuf จะใส่ใจต่อการเป็นอยู่ของผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมเสมอ โดยตลอดระยะเวลา 7 ปี ที่ผ่านมานั้น ทีมงานได้ใช้เวลาพูดคุย ทำความรู้จักกับเกษตรกร เจ้าของฟาร์ม ชาวประมง และผู้ผลิตที่มีหลักการความคิดที่คล้ายกันกับเรา จนพัฒนามาเป็นคู่ค้าคนสำคัญ ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของร้าน และเป็นผู้ร่วมสร้างร้านสเต็กแห่งอนาคตแห่งนี้ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงภาพลักษณ์คู่กันไปกับการรักษาความสมบูรณ์แบบของอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงดีไซน์ของร้านที่สวยงาม ทันสมัย ตามคอนเซปต์ของแบรนด์ต่างๆ และการสร้างแนวทางปฏิบัติและวัฒนธรรมองค์กรต่อพนักงาน เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความสามารถและเป็นตัวเองมากที่สุด เพื่อให้เกิดการบริการลูกค้าอย่างดีจากใจ โดยผลลัพธ์ที่ได้คือ ความสุขและสบายใจจากแขกทุกท่านในการมาใช้บริการที่ร้านอาหารแห่งนี้

WATCH

คีย์เวิร์ด: #VogueFoodGuide #JardinDuBoeuf