5 ซีรี่ส์สัญชาติญี่ปุ่นบน Netflix ที่ไม่เน้นสาระ แต่รับประกันความฮาและสนุกครบรส

     คงไม่ต่างจากอาหารญี่ปุ่นที่หากใครชอบก็เข้าขั้นคลั่งไคล้ แต่หากใครไม่ชอบก็พาลไม่ถูกปากไปเลย ซีรี่ส์ญี่ปุ่นเองก็เช่นกันเนื่องด้วยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงโดยเฉพาะการแสดงแบบ ‘เล่นใหญ่’ ที่มีทั้งฝ่ายชื่นชอบและฝ่ายที่ส่ายหน้าใส่ ทว่าหากคุณรู้ตัวว่าอยู่ในฝ่ายหลังและกำลังมองหาซีรี่ส์ญี่ปุ่นเบาสมองที่ไม่ขอมีสาระอะไรมาก แค่จัดเต็มความฮา บ้า เพี้ยน มาให้เสพก็เพียงพอแล้ว รับประกันได้เลยว่าจะไม่ผิดหวังกับซีรี่ส์ทั้ง 5 เรื่องบน Netflix ที่หยิบยกมาแนะนำในบทความนี้อย่างแน่นอน

 

 

ภาพ: Netflix

คู่ซ่าฮาคูณสอง

     เปิดประเดิมเรื่องแรกที่ระดับความเพี้ยนบ้าบอขั้นสูงสุดด้วยซีรี่ส์ที่มีชื่อว่า ‘คู่ซ่าฮาคูณสอง’ หรือชื่อภาษาอังกฤษ ‘From Today, It’s My Turn’ ซึ่งดัดแปลงมาจากมังงะจี้เส้นระดับตำนาน Kyō Kara Ore Wa!! ผลงานจากปลายปากกาอาจารย์ฮิโรยูกิ นิชิโมริ ที่ตีพิมพ์ในระหว่างปี 1988-1997 โดยคู่ซ่าฮาคูณสองบอกเล่าเรื่องราวของมิตสึฮาชิ ทาคาชิ และ อิโต้ ชินจิ สองหนุ่มวัยมัธยมปลาย เด็กใหม่ประจำโรงเรียน การพบเจอกันโดยบังเอิญทำให้พวกเขาร่วมกันปฏิญาณว่าจะทิ้งตัวตนเก่าสุดเห่ย และกลายเป็นนักเลงที่น่าเกรงขามที่สุดในประเทศญี่ปุ่นให้จงได้! 

     แค่พล็อตก็ว่าบ้าบอแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องบ้าบอยิ่งกว่า เนื่องจากตัวละครเอกทั้งคู่ไม่มีประสบการณ์ชกต่อยมาก่อน ทว่ากลับมีพรสวรรค์ผสมรวมกับโชคช่วย ทำให้สามารถเอาตัวรอด จัดการเหล่าอันธพาลมาได้แบบงงๆ แทบทุกครั้ง ในขณะเดียวกันก็ต้องคอยปกปิดความเห่ยของตัวเองในอดีตไปด้วย คู่ซ่าฮาคูณสองมีมุกตลกสุดเพี้ยนหลุดโลกมากมาย และเมื่อกลายเป็นซีรี่ส์ มุกเหล่านั้นยิ่งทวีคูณความบ้าบอขึ้นอีก ดังนั้นรับประกันเลยว่าซีรี่ส์เรื่องนี้จะทำให้หัวเราะท้องแข็งได้ไม่ยาก ส่วนเรื่องสาระขอให้ลืมๆ มันไปเสียก่อน

 

 

ภาพ: Netflix

อัจฉริยะพ่อบ้านสุดเก๋า

     จากมังงะเรื่อง Gokushufudō หรือ The Way of the Househusband ผลงานของอาจารย์โคสึเกะ อนโนะ ตีพิมพ์กับนิตยสาร Kurage Bunch ตั้งแต่ปี 2018 จนถึงปัจจุบัน สู่แอนิเมชั่นที่เคยสร้างกระแสฮิตถล่มทลายในเน็ตฟลิกซ์มาแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนที่สุดท้ายจะกลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างซีรี่ส์คนแสดงเรื่องอัจฉริยะพ่อบ้านสุดเก๋า โดยซีรี่ส์เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องราวของทัตสึ อดีตยากูซ่าในตำนานที่ขอหันหลังให้กับวงการมาเป็นพ่อบ้านที่ดี แต่เป็นการใช้เสียงพากย์เดียวกับตัวละครทัตสึฉบับแอนิเมชั่น มาบอกเล่าเรื่องราวของพ่อบ้านนามสุดะ ถึงขั้นตอนการทำงานบ้านขั้นเทพที่เก็บรายละเอียดเนียนกริ๊บทุกกระเบียดนิ้ว ผสมผสานวิธีการตัดต่ออันเป็นเอกลักษณ์ของฉบับแอนิเมชั่นที่ถูกนำมาใช้ในเรื่องนี้ด้วย ผู้ชมจึงราวกับดูวิถีแห่งยากูซ่าในเส้นทางการทำงานบ้านก็ไม่ปาน และที่สำคัญคือเรียกเสียงฮาได้ไม่น้อย

 

 

ภาพ: Netflix

วุ่นรักพรหมลิขิต

     อยู่ๆ วันหนึ่งชีวิตแสนธรรมดาของมาโคโตะ มนุษย์เงินเดือนที่ไม่มีอะไรโดดเด่นก็แปรเปลี่ยนไป เมื่อมีชายที่อ้างตัวว่าเป็นเทพเจ้ามาบอกกับเขาว่า มวลมนุษยชาติจะถึงกาลอวสาน โดยหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งโศกนาฏกรรมนี้ได้คือมาโคโตะจะต้องแต่งงานกับคู่แท้ที่ชื่อฮารุโกะให้จงได้ และดูเหมือนว่าคำทำนายเพ้อเจ้อนี้จะมีแววเป็นจริงเสียด้วย!

     นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในซีรี่ส์โรแมนติกเบาสมองสัญชาติญี่ปุ่นชื่อวุ่นรักพรหมลิขิต หรือ I'm Your Destiny ที่แค่พล็อตเรื่องก็ชวนให้อมยิ้มแล้ว ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ตลอดความยาวทั้ง 10 ตอน ผู้ชมจะได้รับความฮาแบบไม่ยั้งตามสไตล์หนุ่มจืดพิชิตดอกฟ้าที่แน่นอนว่าเมื่อไม่เชี่ยวชาญด้านการจีบสาวเอาเสียเลย มาโคโตะจึงไม่แคล้วทำตัวเปิ่นๆ ให้เห็นบ่อยครั้ง หากใครกำลังหาซีรี่ส์โรแมนติกเบาสมองสักเรื่อง รับประกันได้ว่าวุ่นรักพรหมลิขิตไม่น่าจะทำให้ผิดหวัง

 

ภาพ: Netflix

Last One Standing: ท้ายสุดคือสุดยอด

     จากทั้งหมดในลิสต์นี้ Last One Standing: ท้ายสุดคือสุดยอด น่าจะเป็นซีรี่ส์ที่รสชาติแปลกแตกต่างจากเรื่องอื่นที่สุดด้วยรูปแบบที่มีการผสมผสานระหว่างซีรี่ส์กับเรียลิตี้แบบไม่มีสคริปต์ อีกทั้งยังนำเสนอออกมาในแนวสืบสวน ตามหาตัวคนร้าย อย่างไรก็ตามในส่วนของความฮา รับประกันได้ว่า Last One Standing: ท้ายสุดคือสุดยอด ไม่แพ้เรื่องอื่น เพราะยกทัพนักแสดงตลกญี่ปุ่นชื่อดังมาหลายสิบชีวิต พาพวกเขาเข้าสู่สถานการณ์จำลองที่ไม่มีใครทราบล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทุกคนต้องร่วมกันไขปริศนาตามหาตัวฆาตกรโหด โดยใช้การดวลมุกตลกเป็นตัวตัดสิน มุกใครฝืดสนิทจะต้องโดนฆาตกรสังหารและตกรอบกลับบ้านไป เรียกได้ว่านี่คือศึกเอาตัวรอดที่แต่ละคนมีมุกตลกเป็นอาวุธก็ไม่ผิดนัก

     นอกจากนี้ Last One Standing: ท้ายสุดคือสุดยอด ยังได้โดโระ คู่หูคู่ฮาชื่อดังมารับหน้าที่เป็นพิธีกรหลัก ดังนั้นเชื่อขนมกินได้ถึงจังหวะรับส่งมุกอันไหลลื่น ที่จะทำให้ซีรี่ส์กึ่งเรียลิตี้เรื่องนี้เป็นเครื่องเรียกเสียงหัวเราะชั้นดีที่ไม่ควรพลาด

 

ภาพ: Netflix

คุณพ่อร่วมชั้น

     จะเกิดอะไรขึ้นหากโลกนี้มีคุณพ่อที่หวงลูกสาวเอามากๆ ถึงขั้นยอมลงทุนสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกับเธอเพื่อตามดูอย่างใกล้ชิด คำตอบของคำถามนี้สามารถรับชมได้ในซีรี่ส์เรื่องคุณพ่อร่วมชั้น หรือ Daddy is My Classmate ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์นิปปอนทีวี ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม ถึง 13 กันยายน 2020 ที่ผ่านมาก่อนที่จะถูกนำมาออนแอร์ทางเน็ตฟลิกซ์ให้ได้รับชมกัน

     จากคำถามตัวโตๆ ข้างต้น หลายคนอาจคิดว่านี่จะเป็นซี่รี่ส์ที่บอกเล่าความอบอุ่นของสายสัมพันธ์ครอบครัวหรือเปล่า คำตอบคือถูกต้องส่วนหนึ่ง ทว่าเนื้อเรื่องส่วนใหญ่กลับเป็นในส่วนของฝ่ายคุณพ่อที่เมื่อได้กลับมาใช้ชีวิตวัยรุ่นอีกครั้งก็ดูเขาจะสนุกกับมันมากจนมีเรื่องราววายป่วงมากมายตามมา จากพ่อเฝ้าดูลูก พลิกกลับเป็นลูกเฝ้าดูพ่อเสียอย่างนั้น เชื่อว่าอย่างน้อยในวันไม่สดใส รับประกันได้ว่าคุณพ่อร่วมชั้น น่าจะเป็นซีรี่ส์ที่เรียกรอยยิ้มให้ได้ไม่น้อย