ทั่วฮอลลีวู้ดทราบกันดีถึงความสนิทสนมและมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างเพื่อนของนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง Sir Ian McKellen และ Dame Judi Dench ที่มีมาอย่างยาวนานมากกว่า 50 ปี ทั้งคู่รู้จักกันจากการร่วมงานในละครเวทีเรื่อง The Promise at Oxford ในปี 1965 ต่อจากนั้นมาทั้งคู่พบกันในภาพยนตร์มากกว่า 8 ครั้ง และกลายมาเป็นคู่ดูโอ้ประจำวงการที่ถูกพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง เรื่องความสนิทสนมและความแสบซ่าแบบไม่สนอายุ

     เซอร์เอียนนั้นเริ่มต้นการแสดงมาจากละครเวทีเช่นเดียวกับเดมจูดี้ ก่อนจะหันมาเอาดีด้านภาพยนตร์และโด่งดังมีชื่อเสียงจากบทบาทของพ่อมด Gandalf ในภาพยนตร์ไตรภาคเรื่อง The Lord of the Rings และ The Hobbit รวมไปถึงบทบาทของ Magneto จากภาพยนตร์ในจักรวาล X-Men สำหรับเดมจูดี้เธอมีชื่อเสียงมายาวนานจากการเล่นละครเวทีก่อนจะผันมาสู่จอยักษ์ที่สร้างชื่อให้คนรุ่นหลังได้รู้จัก ทั้งบทบาทควีนเอลิซาเบธจากภาพยนตร์เรื่อง Shakespeare in Love รวมไปถึงบทบาท M หัวหน้าของหน่วยงาน MI6 ในภาพยนตร์สายลับชุด 007 

ภาพ: The Time 

     ทั้งคู่สร้างผลงานและชื่อเสียงมากมายให้กับวงการภาพยนตร์และประเทศอังกฤษ จึงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากสมเด็จพระราชินินาถเอลิซาเบธที่ 1 โดยเอียนได้ยศเป็น Knight หรืออัศวิน ในฐานะผู้สนับสนุนงานด้านศิลปะ ขณะที่จูดี้ได้รับยศเป็น Dame หรือคุณหญิงของอังกฤษ นับแต่ทั้งคู่รู้จักกันมาก็มักชวนกันสร้างวีรกรรมแก่นแก้วราวกับเด็กวัยรุ่น ตั้งแต่การแอบไปชมการแสดงของนักร้องคนดัง Cher ในผับแห่งหนึ่ง หรือแม้แต่เข้าไปสนุกสนานกันที่ Sex Club และอีกมากมาย รวมไปถึงเหตุการณ์ชวนอึ้งที่เกิดขึ้นที่พระราชวังบักกิ้งแฮม ซึ่งงานนี้เซอร์เอียนออกมาเผาตัวเองกับเพื่อนแบบไม่มียั้ง

ภาพ: Graham Norton Show

     เซอร์เอียนเผยในรายการ The Graham Norton Show ว่าตัวเขาและจูดี้ได้รับเชิญให้ไปดินเนอร์ที่วังบักกิ้งแฮมร่วมกับนักแสดงอีกหลายท่าน ตัวเขาเองได้นั่งข้างร่วมกับนักแสดงจากซีรี่ส์ The Crown ผู้รับบทเป็น Princess Margaret อย่าง Vanessa Kirby หลังดินเนอร์จบลงคนทั้งคู่ได้เดินเตร่ไปทั่วฮอลล์ และพบว่าพวกเขากำลังฟังเพลงจากวงดนตรีในห้องที่ดูคุ้นเคยอย่างไรชอบกล “พวกเราหมุนไปทั่วห้อง ไม่มีใครอยู่ที่นั่นเลย และฉันก็คิดกับตัวเอง ‘นี่มันห้องบัลลังก์นี่นา’ ใช่ไหม ฉันถามจูดี้ มันคือห้องที่เธอได้ยศเป็น Dame ส่วนฉันเป็น Knight ที่มีบัลลังก์อยู่สองแท่น” เอียนเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นที่เขาได้รับยศในปี 1991 ในขณะที่จูดี้ได้ยศในปี 1988

     เขาเล่าต่อว่า “จูดี้พูดว่า ‘ฉันไม่รู้เหมือนกัน ไปดูกันเถอะ’ พวกเราเลยทำเป็นจับคู่เต้นรำกันไปทั่วห้อง เต้นเลยไปถึงด้านหลังของกลุ่มนักดนตรี และตรงนั้นมันเหมือนมีฉากกั้นขึ้นมา นั่นล่ะ มันคือเก้าอี้บัลลังก์ เห็นแบบนั้นแล้วพวกเราตัดสินใจ....นั่งบนนั้นซะเลย!” เอียนเล่าพรางหัวเราะขบขันถึงความก๋ากั่นของตัวเองและเพื่อนหญิง พร้อมออกปากโทษว่า “แหม มันเป็นสถานที่ที่ดึงสิ่งร้ายๆ ในตัวคุณออกมาเลยล่ะ วังบักกิ้งแฮมเนี่ย” ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะเซอร์เอียนยังเล่าวีรกรรมส่วนตัวในวังบักกิ้งแฮมอีกหนที่เขาไปทำอะไรแปลกๆ เอาไว้อีกด้วย

ภาพ: Vogue US

     ก่อนหน้านั้นตัวเขาได้โอกาสไปร่วมงานอีเวนต์ภายในพระราชวังบักกิ้งแฮม โดยได้ห้องส่วนตัวเป็นห้องพักแขกที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของวัง ขณะที่เขามองออกไปนอกหน้าต่างจะเห็นวิวแจ่มๆ ที่เป็นระเบียงสุดไอคอนิกของวังพอดิบพอดี นั่นล่ะจุดประกายให้เขานึกอยากสูบบุหรี่ขึ้นมาทันใด “ระหว่างที่ฉันสูบบุหรี่แล้วมองออกไปด้านนอกวิว จู่ๆ ก็มีแสงไฟสาดมาที่ตัวฉัน ข้างล่างนั่นคือตำรวจ เขาพูดขึ้นมาว่า ‘เซอร์เอียน อย่าลืมสิว่าคุณอยู่ในพระราชวังบักกิ้งแฮมนะ’ นั่นล่ะ ฉันดับบุหรี่แทบไม่ทัน” นักแสดงรุ่นใหญ่เล่าพรางทำท่าทางเลียนแบบเหตุการณ์ในตอนนั้น

     เรื่องราวจบลงที่อีก 6 เดือนต่อมา เซอร์เอียนได้กลับไปที่วังอีกครั้ง และดันพบเข้ากับตำรวจคนเดิมที่จับเขาได้ระหว่างสูบบุหรี่ เขาพูดทักทายด้วยประโยคที่ว่า “โอ้ ไม่นะ พวกคุณสองคนมากันอีกแล้วเหรอเนี่ย” นักแสดงรุ่นใหญ่เล่าด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะสร้างบรรยากาศในรายการอย่างมีสีสัน ถือเป็นอีกหนึ่งวีรกรรมที่ไม่ว่าใครก็คงไม่กล้าที่จะเลียนแบบตามอย่างแน่นอน